เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 64 เวลา 13.30 น. จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนายศุภกร ขุนชิต นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ในคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามมาตรา 112 และมาตรา 116 ถึงภายในมหาวิทยาลัย ก่อนนำตัวไปยัง สภ.เมืองพัทลุง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ
การจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถหน้าอาคารศูนย์กีฬา ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ศุภกรเล่าว่าหลังเขาเดินทางไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเป็นเข็มที่ 2 แล้วเสร็จ ระหว่างเดินออกมา ได้มีชายนอกเครื่องแบบคนหนึ่งติดตามมาร้องเรียก “น้องๆ” เขาจึงคิดว่าเป็นชาวบ้านจะมาสอบถามข้อมูล จึงเดินเข้าไปหา กลับพบว่ามีชายนอกเครื่องแบบอีก 3-4 คน รุมกันออกมาล้อมเขา พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับที่ออกโดยศาลจังหวัดพัทลุง ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2564 พบว่ามี ร.ต.อ.ภูนท เรืองยิ่ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เป็นผู้ร้องขอศาลออกหมายจับ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)
จากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกไม่ต่ำกว่า 7-8 นาย ออกมาจากรถ เข้ามาล้อมเขาเพิ่ม บางนายห้อยป้ายเป็นตำรวจ ศุภกรระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขั้นทำให้เขารู้สึกตกใจ เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เขายังไม่เคยได้รับหมายเรียกใดๆ มาก่อนหน้านี้ จึงได้ขอตำรวจนั่งลงตั้งสติก่อน พร้อมขอติดต่อทนายความและเพื่อน ซึ่งตำรวจอนุญาต แต่ไม่อนุญาตให้นั่งรอทนายความเดินทางมาที่มหาวิทยาลัย เพราะจะนำตัวไปที่ สภ.คอหงส์ จังหวัดสงขลา เพื่อทำบันทึกจับกุมทันที
ระหว่างการถูกควบคุมตัว ศุภกรยังพยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถึงมีหมายจับเลย เขาไม่เคยได้หมายเรียกมาก่อน ตำรวจชุดจับกุมรับว่าไม่ทราบ ศุภกรยังระบุว่าเมื่อเดือนก่อนหน้านี้ คือเดือนตุลาคม เขาเพิ่งเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบหาดใหญ่ ที่ สภ.คอหงส์ แต่หมายจับออกมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่จับกุมเขาทันที กลับมารอจับในตอนนี้ ตำรวจได้ระบุว่าเขาก็เพิ่งทราบเรื่อง
หลังเจ้าหน้าที่จัดทำบันทึกจับกุมที่ สภ.คอหงส์ จังหวัดสงขลา โดยมีทนายความติดตามไป ศุภกรพบว่ามีการระบุรายชื่อตำรวจชุดจับกุมจากหลายหน่วยงานรวม 22 นาย ทั้งตำรวจสันติบาล กก.5 บก.ส.1, ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรสงขลา, ตำรวจจากภูธรจังหวัดพัทลุง และตำรวจจาก สภ.เมืองพัทลุง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามตัวศุภกรซึ่งขับรถจักรยานยนต์เข้าไปภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้ารอกระทั่งเขาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรียบร้อย จึงได้เข้าแสดงตัว และแสดงหมายจับ
จากนั้น ตำรวจได้พาตัวศุภกร เดินทางไปยัง สภ.เมืองพัทลุง ที่เป็นสถานีตำรวจเจ้าของคดี แต่ยังไม่ได้มีการสอบปากคำใดๆ ในวันแรก เนื่องจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีไม่อยู่ เขาจึงถูกคุมตัวเข้าไปยังห้องขังของสถานีตำรวจ และถูกคุมขังก่อนหนึ่งคืน
ในช่วงวันที่ 24 พ.ย. 64 อาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อนนักศึกษา และทนายความ ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อเข้าพบศุภกร และร่วมฟังการสอบปากคำ
พ.ต.ท.นพรัตน์ แก้วใจ พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาใน 3 ข้อกล่าวหาตามหมายจับดังกล่าวแก่ศุภกร โดยเขาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป
พฤติการณ์ที่ตำรวจกล่าวหาโดยสรุประบุว่า เมื่อคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ได้มีกลุ่มบุคคลขับขี่รถยนต์เพื่อถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน และอำเภอศรีนครินทร์ จากนั้นได้ใส่ข้อความในภาพดังกล่าว รวมทั้งหมด 15 ภาพ แล้วโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “พัทลุงปลดแอก” และ “ประชาธิปไตยในด้ามขวาน” ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าภาพและข้อความดังกล่าวเป็นการดูหมิ่น และใส่ความพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี ทำให้พระองค์ท่านเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้ระบุข้อความที่ใส่ในภาพในบันทึกการขอฝากขัง แต่ระบุไว้ในบันทึกการสอบปากคำแทน โดยหลายข้อความไม่ได้เข้าข่ายข้อกล่าวหาข้างต้นแต่อย่างใด อาทิ “เผด็จการจงพินาศ เป็ดก๊าบ ก๊าบจงเจริญ”, “1 2 3 4 5 ไอเหี้ย”, “#ภาษีกู #ภาษีกู #ภาษีกู”, “ก็เสียภาษีเหมือนกัน ทำไมถึงไม่มีรถไฟฟ้าให้ดูที่บ้านเราบ้าง”, “#เราต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา”, “ประชาชนเท่ากับเจ้าของประเทศ”
ต่อมา พนักงานสอบสวนได้ยื่นขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดพัทลุงผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยอ้างเหตุว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ยังต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 6 ปาก และรอผลตรวจลายนิ้วมือผู้ต้องหา ทั้งยังขอคัดค้านการประกันตัว โดยอ้างว่าคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไป เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น
ต่อมาศาลได้อนุญาตให้ฝากขังตามคำขอของพนักงานสอบสวน ทนายความจึงได้ยื่นขอประกันตัว โดยใช้ตำแหน่งนักวิชาการของ สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะนายประกัน จนเวลา 16.30 น. ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา
ศุภกร ระบุหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า สิ่งที่เขา “รับไม่ได้” คือเรื่องการถูกล้อมจับกุมโดยเจ้าหน้าที่จำนวนมาก โดยที่ไม่เคยมีหมายเรียกมาก่อน ทั้งเดือนก่อนหน้านี้เขาก็เพิ่งไปพบเจ้าหน้าที่มาในคดีคาร์ม็อบ แต่กลับไม่มีการแสดงหมายจับคดีนี้ และการถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปคุมขังในห้องขังของสถานีตำรวจ ซึ่งเขารับไม่ได้กับสภาพห้องขัง ทั้งยังถูกขังก่อน โดยยังไม่ทราบรายละเอียดข้อกล่าวหาใดๆ เจ้าหน้าที่ยังห้ามใครเยี่ยมด้วย โดยมีการอ้างเรื่องเกรงว่าจะมีการถ่ายภาพ แล้วนำไปโพสต์ให้เกิดความแตกแยก แต่เขาพบว่าผู้ถูกควบคุมตัวในคดีอื่นๆ นั้น ญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ ขณะเดียวกัน ศุภกรยังมีอาการไข้เล็กน้อย อันเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนด้วย ทำให้ต้องรับประทานยาลดไข้ในคืนที่ถูกคุมขังด้วย ส่วนในทางคดี ศุภกรระบุว่าพร้อมต่อสู้ในกระบวนยุติธรรมต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่าคดีนี้ ศาลยังมีการออกหมายจับนักศึกษาและนักกิจกรรม อีก 2 ราย ซึ่งเตรียมจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย. 64) ต่อไป
ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เท่าที่ทราบข้อมูล ศุภกรนับเป็นผู้ถูกดำเนินมาตรา 112 รายที่ 160 แล้ว นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา หลังจากมีการนำข้อกล่าวหานี้กลับมาบังคับใช้อีกครั้ง
.
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64
.