ศาลนัดสืบพยานคดี ม.112 “อานนท์” ปราศรัยม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ พ.ย. 65 พิจารณาออกหมายเรียกพยานตามจำเลยร้องขอหรือไม่อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานในคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของ อานนท์ นำภา จากกรณีปราศรัยในการชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” หรือม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 

ตั้งแต่ในช่วงเช้า บริเวณทางเข้าศาล มีการตั้งจุดคัดกรอง โดยตำรวจศาลได้ขอตรวจบัตรผู้ที่จะเข้าห้องพิจารณาในคดีของอานนท์ทั้งหมด แม้มีคดีอื่นๆ ที่นัดสืบพยานในห้องพิจารณาเดียวกัน โดยมีครอบครัวของอานนท์และมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ศาลได้เริ่มพิจารณาคดีที่ของอานนท์ก่อน ผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีทุกคน ยกเว้นทนายความและอัยการต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้หน้าห้องพิจารณา 

เวลา 9.00 น. ศาลอ่านคำฟ้องให้อานนท์ฟังอีกครั้ง โดยอ่านข้อกล่าวหาและเนื้อหาคำปราศรัยที่ถูกกล่าวหา พร้อมสอบถามอานนท์ว่าจำเป็นต้องอ่านทั้งหมดหรือไม่ พอจะจำได้หรือไม่ว่าปราศรัยลักษณะนี้หรือเปล่า 

อานนท์แถลงต่อศาลว่า หากตอบตามตรงคงจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ เนื่องจากการปราศรัยเกิดขึ้นประมาณปีเศษมาแล้ว แต่หากมีการส่งคลิปที่ถอดเทปมา ก็จะสามารถยืนยันได้ ศาลถามว่าอานนท์ได้ปราศรัยเช่นนี้จริงหรือไม่ รับว่าตัวเองขึ้นกล่าวปราศรัยจริง แต่ไม่ขอยืนยันเนื้อหาคำปราศรัยตามฟ้องของอัยการ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมานาน

>>> เปิดคำฟ้องอัยการคดี ม.112 ‘อานนท์’ ปราศรัยม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ก่อนศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว

ศาลสอบถามว่าฝ่ายโจทก์และจำเลย จะมีพยานปากใดที่รับข้อเท็จจริงกันได้บ้าง ทนายความของอานนท์ได้ขอตรวจสอบบันทึกการจับกุมและบันทึกการตรวจร่างกายของแพทย์ จากนั้นได้แถลงรับข้อเท็จจริงตามเอกสารในบันทึกทั้งสองฉบับ 

อัยการโจทก์แถลงว่าจะตัดพยานทั้งสองปากออกไป ทำให้คงเหลือพยานทั้งสิ้น 18 ปาก ได้แก่ ผู้กล่าวหา ประจักษ์พยาน ผู้ตรวจพิสูจน์บันทึกคำปราศรัย นักวิชาการด้านสาธารณสุข ผู้อ่านบันทึกถอดคำปราศรัย และพนักงานสอบสวน พร้อมกับมีพยานหลักฐานเป็นแผ่นดีวีดีบันทึกเหตุการณ์รวมสี่แผ่น กับข้อมูลในแฟลชไดร์ฟ

ทางด้านฝ่ายจำเลย แถลงประสงค์จะนำสืบพยานบุคคลรวม 23 ปาก ศาลได้ถามรายละเอียดเกี่ยวกับพยานแต่ละปาก ซึ่งมีทั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์, นักการทูต, ผู้บริหารหน่วยงานรัฐและเอกชน รวมถึงผู้อำนวยการศาลแพ่ง 

นอกจากนี้ยังมีรายการเอกสารจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับคำปราศรัยของอานนท์ หนึ่งในนั้นคือเอกสารคำฟ้องและคำพิพากษาคดีแพ่ง ที่กระทรวงการคลังในรัฐบาลสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นโจทก์ฟ้องเรียกคืนทรัพย์สินจากรัชกาลที่ 7 เมื่อปี 2482 แต่ศาลกล่าวในทันทีว่าคงไม่สามารถเรียกเอกสารฉบับนี้มาให้ได้  ทนายจำเลยแถลงว่าหากศาลไม่เรียกเอกสารมา จำเลยเกรงว่าจะไม่สามารถขอคัดถ่ายได้ด้วยตนเอง เนื่องจากไม่ใช่คู่ความ ซึ่งเคยมีกรณีที่ศาลไม่ให้คัดถ่ายเอกสารมาแล้ว ศาลกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะไปหาวิธีนำเอกสารมาเอง 

ศาลกล่าวอย่างหนักแน่นหลายครั้งว่าจะไม่มีการเรียกเอกสารระหว่างศาลมาอย่างแน่นอน เนื่องจากมีช่องทางให้จำเลยไปขอคัดถ่ายอยู่ ทั้งนี้ทนายความยังได้ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยาน ผู้อำนวยการศาลแพ่ง มาเบิกความเพื่อยืนยันเอกสารข้างต้น แต่ศาลยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องสืบพยานปากนี้ ทนายจึงแถลงคัดค้าน และศาลได้บันทึกการคัดค้านไว้ในรายงานกระบวน

ทนายจำเลยยังได้ขออนุญาตศาลให้กำหนดวันนัดพร้อมหนึ่งนัด เพื่อเบิกตัวทนายอานนท์มาดูคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ เนื่องจากจำเลยถูกคุมขังทำให้เกิดความไม่สะดวกในการดูคลิป เบื้องต้นศาลแจ้งให้ทนายความตรวจดูแทนตัวจำเลย แต่ทนายจำเลยแถลงว่าจำเลยควรจะต้องตรวจสอบด้วยตนเอง เพราะทนายไม่อาจทราบรายละเอียดได้ทั้งหมด และในอีกคดีหนึ่งในศาลแห่งนี้ ก็เคยอนุญาตให้มีการกำหนดวันนัดให้อานนท์ได้ตรวจดูคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์มาก่อนแล้ว 

ศาลจึงอนุญาตให้กำหนดวันนัดและให้เบิกตัวจำเลยมาดูคลิปบันทึกเหตุการณ์ พร้อมกำหนดวันนัดสืบพยานให้ฝ่ายโจทก์จำนวน 5 นัด และฝ่ายจำเลยจำนวน 6 นัด รวมสืบพยาน 11 นัด

ก่อนเสร็จสิ้นการพิจารณา ทนายจำเลยยังได้แถลงความกังวลเกี่ยวกับเอกสาร โดยขอให้ศาลทบทวนเรื่องการเรียกเอกสารเกี่ยวกับคำฟ้องและคำพิพากษาคดีแพ่ง แต่ศาลยังคงยืนยันว่าจะยังไม่ออกหมายเรียกในตอนนี้ รวมถึงการเรียกพยานบุคคลและเอกสารที่ถูกระบุไว้ในรายการพยานของจำเลยอื่นๆ ด้วย โดยจะต้องไปปรึกษาหารือและพิจารณาก่อนว่าจะออกหมายเรียกให้ในรายการใดบ้าง ในส่วนของศาลแพ่ง ศาลขอให้ทนายจำเลยลองไปขอคัดถ่ายเอกสารดูก่อน

ต่อมาคู่ความ ได้ตกลงนัดหมายวันสืบพยานในคดี ได้แก่ สืบพยานฝ่ายโจทก์ในวันที่ 1-4 และ 8 พฤศจิกายน 2565 นัดสืบพยานจำเลย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 และวันที่ 6, 8-9, 22-23 ธันวาคม 2565

X