อัยการเร่งฟ้องสั่งฟ้องทนายสิทธิฯ แรงงาน-ประชาชน รวม 2 คน ข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คดีคาร์ม็อบ #แม่สอดต้านเผด็จการ

วันที่ 29 ต.ค. 64 ที่ศาลจังหวัดแม่สอด พนักงานอัยการจังหวัดแม่สอดได้ยื่นฟ้อง จิรารัตน์ มูลศิริ อายุ 35 ปี ประกอบอาชีพเป็นทนายความที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องสิทธิของแรงงานข้ามชาติ และนายประวิทย์ อัศวสิริมั่นคง อายุ 70 ปี ประชาชนในอำเภอแม่สอดอีก 1 ราย ในข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดตาก เรื่องห้ามการชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ, ส่งเสียงอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร และกีดขวางทางสาธารณะ จากการเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ #แม่สอดต้านเผด็จการ ในอำเภอแม่สอด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ด้านจำเลยทั้งสองยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหา ก่อนได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางหลักประกัน

ก่อนหน้านี้ จิรารัตน์ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียก เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ขณะประวิทย์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปทำการสอบสวนในฐานะพยานจากกิจกรรมคาร์ม็อบ #แม่สอดต้านเผด็จการ เท่านั้น แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 64 นายประวิทย์ได้ถูกเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับกรณีของจิรารัตน์ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้

จากนั้นในวันที่ 25 ต.ค. 64 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่สอด ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยเป็นการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเพื่อบรรยายพฤติการณ์รายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติม ส่วนข้อกล่าวหายังคงเป็น 4 ข้อกล่าวหาที่ได้ถูกแจ้งไปแล้วตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และในวันที่ 26 ต.ค. 64 ตำรวจได้ทำการส่งตัวผู้ต้องหาและสำนวนคดีที่มีความเห็นควรสั่งฟ้องไปให้อัยการจังหวัดแม่สอดพิจารณาต่อไป ขณะที่อัยการได้นัดหมายให้ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งทางคดีในวันที่ 29 ต.ค. 64 โดยทางผู้ต้องหายังได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการให้สั่งไม่ฟ้องคดีนี้เอาไว้ด้วย

ล่าสุดวันนี้ เวลาประมาณ 10.00 น. หลังจิรารัตน์และประวิทย์เดินทางเข้ารายงานตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด เจ้าหน้าที่อัยการได้ระบุว่าจะส่งตัวทั้งสองคนฟ้องต่อศาลภายในวันนี้เลย แต่กำลังอยู่ในช่วงจัดทำคำฟ้องให้ผู้ต้องหาทั้งสองรออยู่ก่อน โดยหลังรอได้ระยะหนึ่ง ผู้ต้องหาทั้งสองจึงเดินทางกลับออกมาจากสำนักงานอัยการ และจะเข้าไปอีกครั้งในช่วงบ่าย เนื่องจากการรอโดยไม่มีกำหนดทำให้ทั้งสองต้องเสียเวลา

จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ผู้ต้องหาทั้งสองได้ถูกแจ้งให้ไปทำการส่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดแม่สอด เป็นคดีหมายเลขดำที่ 3441/2564

อัยการบรรยายฟ้องโดยสรุปเพียงสั้นๆ ว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 64 จำเลยที่ 1 จิรารัตน์ เป็นแกนนำกลุ่มแม่สอดต้านเผด็จการ ได้ประกาศชักชวนให้มีการชุมนุมและรวมกลุ่มบุคคลเพื่อต่อต้านรัฐบาล และจำเลยที่ 2 กับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกิจกรรมรวมกลุ่มเพื่อประท้วงขับไล่รัฐบาล มีประชาชนประมาณ 500 คน และรถยนต์ประมาณ 200 คัน ขับไปตามถนนในอำเภอแม่สอด บีบแตรและชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์ขับไล่รัฐบาล เป็นความผิดตามข้อกล่าวหาที่จำเลยทั้งสองถูกฟ้อง

ช่วงท้ายของคำฟ้อง อัยการระบุขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยทั้งสอง เนื่องจากอ้างว่า “จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าวเกรงว่าจะหลบหนี” ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว จำเลยทั้งสองเป็นประชาชนชาวไทยตามกฎหมาย ทำให้คาดว่าพนักงานอัยการมีการคัดลอกคำฟ้องบางส่วนมาจากคดีอื่นๆ

หลังจำเลยทั้งสองถูกยื่นฟ้องต่อศาล ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกันต่อศาล โดยเหตุที่ว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่รัฐทุกขั้นตอน และยังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดให้ศาลพิจารณา ระหว่างนั้นจำเลยทั้งสองจึงถูกควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังของศาลราวชั่วโมงเศษ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลจังหวัดแม่สอดได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งสองระหว่างการพิจารณาคดี โดยไม่ต้องวางหลักประกัน เพียงแต่ให้สาบานตัวว่าจะเดินทางมาตามนัดหมายของศาลทุกนัด โดยศาลได้กำหนดวันนัดพร้อมเพื่อสอบถามคำให้การจำเลยทั้งสองต่อไป ในวันที่ 20 ธ.ค. 64 เวลา 9.00 น.

.

X