วันนี้เยี่ยมเบนจา อะปัญ ผ่านไลน์เรือนจำด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุด เท่าที่เคยเยี่ยมผู้ต้องขังมา
18.35 นาที คือระยะเวลาทั้งหมดของวันนี้ ปกติแล้วทางเรือนจำจะอนุญาตให้ญาติเยี่ยมได้ครั้งละ 20 นาที แต่เวลาของทนายความในการเยี่ยมนั้นโดยทั่วไป จะไม่ได้จำกัดระยะเวลาไว้
การเยี่ยมผู้ต้องขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางในช่วงเวลานี้ ทนายความจะต้องไปยื่นคำร้องที่เรือนจำก่อน และจะได้เยี่ยมผ่านระบบไลน์ของทางเรือนจำในช่วงบ่าย ซึ่งจะไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ ขึ้นอยู่กับว่าทางเรือนจำจะแจ้งเข้ามาให้เยี่ยมตอนกี่โมง ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาในการเยี่ยมเบนจา เราจะได้เยี่ยมราวบ่ายสอง เกือบบ่ายสามโมง
วันนี้เราจึงไปยื่นคำร้องเยี่ยมเบนจาในช่วงเช้า และไปเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำชายก่อน แต่กว่าจะออกมาจากเรือนจำชายก็เกือบบ่ายสองแล้ว เพราะมีเรื่องพูดคุยสอบข้อเท็จจริงมาก ปรากฏว่าทางทัณฑสถานหญิงกลางโทรแจ้งมาตอน 13.54 น. ซึ่งเรากำลังขับรถเดินทางออกจากเรือนจำฝั่งชาย เราจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอเยี่ยมอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า เจ้าหน้าที่ยินยอมและวางสายไป
แต่ระหว่างเดินทาง 14.06 น. เจ้าหน้าที่ก็โทรติดต่อมาอีก เราจึงแจ้งว่ายังไม่ถึงที่หมาย และยังอยู่ภายในระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้เดิม คือครึ่งชั่วโมง ทั้งเราจำเป็นจะต้องเปิดดูเอกสารเพื่อใช้ในการพูดคุยกับลูกความ ทำให้ไม่สะดวกพูดคุยขณะขับรถ
14.16 น. เจ้าหน้าที่โทรมาอีกครั้ง คราวนี้เราถึงที่หมายพอดี จึงรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับไปยังห้องทำงานเพื่อรับสายให้ทัน ในการเยี่ยมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ระยะเวลาเยี่ยมเพียง 10 นาทีเท่านั้น
เราแจ้งเบนจาว่าเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ได้ยื่นประกันตัวเบนจาในสองคดี ซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่อนุญาตทั้งสองคดี และแจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนครราชสีมาเข้าไปในเรือนจำ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในคดีคาร์ม็อบอีกหนึ่งคดี พร้อมทั้งนัดหมายในวันดังกล่าว โดยจะมีทนายความเข้าร่วมฟังการสอบสวน
จากนั้นได้คุยแนวทางคดีเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ในระหว่างนั้นเมื่อครบ 10 นาที เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้ว แต่เรายังพูดคุยต่อไปอีกพักหนึ่ง เพราะยังคุยเรื่องทางคดีไม่เสร็จ
เมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยม พอมาดูเวลาที่พูดคุยนั้น ก็ไม่ได้นานนัก รวม 18.35 นาที น้อยกว่าเวลาญาติเยี่ยมเสียอีก และระบบการเยี่ยมของเรือนจำก็ไม่สามารถทำให้เรากะเวลาได้ เมื่อแจ้งขอเลื่อน 30 นาที ซึ่งความจริงเราพร้อมเยี่ยมก่อนเวลาที่แจ้งไว้ด้วยซ้ำ แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามโทรมาก่อนเวลาที่ขอเลื่อนถึงสองครั้ง แถมให้ระยะเวลาคุยสิบนาที การพูดคุยปรึกษาเรื่องทางคดีเกี่ยวกับเสรีภาพของคน แต่ถูกจำกัดด้วยเวลา เป็นคำถามใหญ่ว่าเจ้าหน้าที่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้หรือไม่
โอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ตามกฎหมายนั้นไม่มีอยู่จริง หากผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกคุมขังระหว่างพิจารณา การขังบุคคลระหว่างพิจารณาเท่ากับว่าเขาถูกตัดสิทธิในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม เข้าไปแล้วมากกว่าครึ่ง
25 ตุลาคม 2564
.
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
บันทึกเยี่ยมเบนจา อะปัญ: “สิทธิคัดค้านฝากขังที่ไม่มีจริงในกระบวนการตั้งใจขัง”
บันทึกเยี่ยมเบนจา อะปัญ: “แล้วพอสิ่งต่างๆ มันหายไป เลยไม่รู้ว่าต้องทำอะไร”
ศาลอุทธรณ์ยืนไม่ให้ประกัน “เบนจา” คดี 112 เหตุปราศรัยหน้าตึกซิโนไทย #คาร์ม็อบ10สิงหาไล่ทรราช
.