4 ขรก.ผู้ใหญ่กล่าวหาประชาชน 8 ราย “หมิ่นประมาทฯ” หลังแชร์เอกสารสอบทุจริตใน สนง.จ.อุดรฯ เจ้าตัวยืนยันต่อสู้คดี แม้ต้องเดินทางไกล

19 ต.ค. 2564 ประชาชน 6 ราย เดินทางจากกรุงเทพฯ นนทบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกข้าราชการและอดีตข้าราชการระดับสูงในจังหวัดอุดรฯ 4 ราย มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีฐาน “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”

โดยกล่าวหาว่าแชร์โพสต์จากเพจ “ข้าราชการปลดแอก – Free Thai Civil Servant” ที่กล่าวถึงการร้องเรียนและตั้งกรรมการตรวจสอบการทุจริตเบี้ยเลี้ยงและงบประมาณของสำนักงานจังหวัดอุดรฯ ทำให้ทั้งสี่เสียหาย 

คดีนี้มีประชาชนถูกออกหมายเรียกรวม 8 ราย ได้แก่ เค้ก (นามสมมติ), ปลั๊ก (นามสมมติ), ป๊อป (นามสมมติ), สมภพ จิตต์สุทธิผล, สุวรรณ จ้อยกลั่น, ปาริชาติ ผลเพิ่ม, ไพโรจน์ ภัทรนรากุล และฐิระวัชร์ (สงวนนามสกุล)

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2564 เค้ก ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอุดรธานี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปก่อนแล้ว ส่วนอีก 1 ราย คือ ฐิระวัชร์ ซึ่งจะต้องเดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากคืนก่อนหน้ามีอาการทางหัวใจ ต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉินที่โรงพยาบาล จึงไม่สามารถเดินทางมาตามนัดได้ และได้ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน

เค้ก (นามสมมติ) บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอุดรธานี

ทั้ง 7 ราย ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ให้การปฏิเสธ และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน หลังพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำไปตรวจสอบประวัติ พนักงานสอบสวนไม่ได้ควบคุมตัวไว้ เนื่องจากทุกคนมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก

จากการพูดคุยเบื้องต้น ประชาชนผู้ถูกดำเนินคดีทั้ง 8 ราย ไม่คาดคิดว่าจะถูกดำเนินคดี เนื่องจากเห็นว่าข้อความที่โพสต์เป็นเรื่องประโยชน์สาธารณะ การแชร์โพสต์ดังกล่าวซึ่งเป็นการกระตุ้นเตือนให้สังคมจับตามองการทุจริตในหน่วยงานรัฐ ก็เป็นเพียงการแสดงความเห็นโดยสุจริต เพื่อรักษาประโยชน์ของสาธารณะ  รวมทั้งเป็นสิทธิของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ทั้งหมดจึงประสงค์จะต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด แม้ว่าเกือบทุกคนจะต้องเดินทางนับร้อยกิโลเมตรเพื่อมาจังหวัดอุดรฯ อีกหลายครั้งหลังจากนี้  

ทั้งนี้ ความผิดฐาน “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม มาตรา 329 ระบุ เหตุในการยกเว้นความผิดไว้ว่า หากทำไปโดยการติชมด้วยความสุจริต ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทํา หรือการวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นประโยชน์สาธารณะ ให้ถือว่าผู้กระทำไม่มีความผิด

บรรยากาศโดยทั่วไปในการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเป็นไปโดยเรียบร้อย สภ.เมืองอุดรฯ ไม่ได้มีการเตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตั้งแนวปิดกั้นทางเข้า หรือควบคุมสถานการณ์เหมือนเช่นในหลายจังหวัด แต่ยังมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายอยู่ทั่วบริเวณด้านหน้า สภ.เมืองอุดรฯ พร้อมทั้งถ่ายรูป 

ด้านนักกิจกรรมกลุ่ม “อุดรพอกันที” และกลุ่ม “ดึงดิน” จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจประชาชนผู้ที่ถูกดำเนินคดี โดยการสวดชุมนุมเทวดา อัญเชิญเทวดามาอวยชัยให้พรขณะประชาชนทั้ง 6 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา รวมทั้งมีการแสดง Performance Art สะท้อนปัญหารัฐใช้กฎหมายคุกคามประชาชน 

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ WhatsApp-Image-2021-10-20-at-21.16.45-1024x768.jpeg
กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ สวดชุมนุมเทวดา จากกลุ่มอุดรพอกันทีและกลุ่มดึงดิน

กล่าวหาเพจ “ข้าราชการปลดแอก” โพสต์เอกสาร “ลับ” เจตนาประจานข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งสี่ จึงแจ้งความดำเนินคดี 8 ประชาชน เหตุแชร์โพสต์ไปในวงกว้าง    

พนักงานสอบสวนได้แจ้งพฤติการณ์ที่ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาทั้งหมดเหมือนๆ กัน มีใจความโดยสรุปว่า  

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2564 นายจํารัส กังน้อย, นายธีระภัทร์ ผิวสวัสธ์, นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล และนายปรเมษฐ์ กิ่งโก้ ผู้เสียหายทั้ง 4 คน ที่เป็นผู้มีชื่อถูกร้องเรียนในหนังสือที่มีผู้ร้องเรียนในลักษณะบัตรสนเท่ห์ ได้พบเห็นข้อความอันเป็นการใส่ร้ายใส่ความ หมิ่นประมาท ผ่านเพจเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ชื่อ “ข้าราชการปลดแอก-Free Thai Civil Servant”  ที่นําเอกสารราชการ ลับ มีข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทต่อผู้เสียหาย มาโพสต์ ตั้งค่าเป็นสาธารณะ ทําให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง หน้าที่การงานของผู้เสียหายทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กล่าวคือ

ปรากฏมีบุคคลที่ยังไม่ทราบชื่อที่อยู่ ระบุเพียงตําแหน่งว่า เจ้าหน้าที่สํานักงานจังหวัดอุดรธานี จัดทําหนังสือแบบภายนอก (ในรูปแบบหนังสือราชการ) ที่ อด 0017.2/ว ลงวันที่ 8 ก.ค. 2563 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา หัวหน้าสํานักงานจังหวัดอุดรธานี ว่าอาจมีการทุจริตต่อหน้าที่ราชการโดย 1. ตัดเงินเบี้ยเลี้ยงผู้ใต้บังคับบัญชา โดยให้ค่าตอบแทนไม่ครบตามจํานวนที่ลงลายมือชื่อ 2. เบิกจ่ายงบประมาณในส่วนต่างๆ เกินความจําเป็นและมีราคาที่สูงเกิน เช่น วัสดุครุภัณฑ์สํานักงาน, วัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันและยับยั้งโรคระบาด

โพสต์ที่ถูกกล่าวหาจากเพจเฟซบุ๊ก“ข้าราชการปลดแอก-Free Thai Civil Servant”

ทั้งนี้ มีหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ตรวจสอบ คือ นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล สํานักงานจังหวัดอุดรธานี, นายจํารัส กังน้อย ที่ทําการปกครองจังหวัด, นายธีระภัทร์ ผิวสวัสธ์ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และนายปรเมษฐ์ กิ่งโก้ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด  

จากนั้นกระทรวงมหาดไทย โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือ “ลับ” ลงวันที่ 2 มี.ค. 2564 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวภายใน 30 วัน ต่อมา จังหวัดอุดรธานี มีคําสั่ง “ลับ” ที่ 3/2564 ลงวันที่ 11 มี.ค. 2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว 

แต่ปรากฏว่าหนังสือราชการ “ลับ” ทั้ง 3 ฉบับ ดังกล่าวมาปรากฏอยู่ในเพจเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ “ข้าราชการปลดแอก-Free Thai Civil Servant” จนมีผู้โพสต์, แชร์, คอมเมนท์ด้วยข้อความอันเป็นการใส่ความ ใส่ร้าย หมิ่นประมาท ต่อผู้เสียหายทั้ง 4 คน จนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหน้าที่การงาน กระทบต่อชีวิตส่วนตัว ครอบครัวของผู้เสียหายด้วย ทั้งที่เป็นหนังสือราชการลับนั้นไม่อาจนํามาเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล อันไม่ใช่ขั้นตอนการตรวจสอบตามระเบียบคําสั่งของทาง ราชการ แต่เป็นการเจตนาป่าวประกาศประจานให้สังคมตัดสินผู้เสียหายทั้ง 4 คน แล้วว่า เป็นคนทุจริตต่อหน้าที่ จึงเป็นการหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ทําให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งสี่ 

โดยผู้ต้องหาแต่ละคนได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวแชร์โพสต์ดังกล่าว ตั้งค่าเป็นสาธารณะ อันเป็นการส่งต่อให้ข้อความนั้นแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง ผู้เสียหายทั้ง 4 คน จึงมอบอํานาจให้ผู้กล่าวหา (นายพิทิศ ชัยคำจันทร์) มาร้องทุกข์ให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหา 

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาว่า “หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา” ผู้ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน 

.

4 ข้าราชการระดับผู้ใหญ่ มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความ

จากการค้นข้อมูลจากกูเกิล พบว่า ผู้เสียหายทั้งสี่ซึ่งมอบอำนาจให้พิทิศ ชัยคำจันทร์ ทนายความ เข้าแจ้งความเป็นข้าราชการระดับผู้ใหญ่ในจังหวัดอุดรฯ ในช่วงที่มีผู้ทำหนังสือร้องเรียน โดย รณิดา เหลืองฐิติสกุล เป็นหัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันย้ายไปดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าฯ หนองคาย, จํารัส กังน้อย เป็นปลัดจังหวัดอุดรฯ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ อุดรฯ, ธีระภัทร์ ผิวสวัสธ์ เป็นหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรฯ จนถึงปัจจุบัน และปรเมษฐ์ กิ่งโก้ เป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรฯ จนถึงปัจจุบัน  

.

X