#ม็อบ3ตุลา จนท.สนธิกำลังจับนศ.เทคนิคและคนขายเสื้อผ้าออนไลน์ รวม 3 ราย ระหว่างเดินทางกลับบ้าน รับสารภาพฝ่าเคอร์ฟิว โดยไม่มีทนายความอยู่ร่วม

วันที่ 3 ต.ค. 2564 เป็นอีกค่ำคืนที่มีการรวมตัวและเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมอิสระบริเวณพื้นที่ดินแดง ตรงถนนมิตรไมตรีและถนนวิภาวดีขาเข้า การรวมตัวเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณเวลา 20.25 น. ถึง 01.30 น. ของอีกวัน  โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานการจับกุมประชาชนรวม 3 ราย ไว้ที่ สน. พญาไท เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ทั้งสามถูกตั้งข้อหาฝ่าเคอร์ฟิว และมี 1 คน ถูกตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ด้วย ทั้งหมดให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวน สน. พญาไท ได้เปรียบเทียบปรับข้อหาตาม พ.ร.บ. จราจรฯ เป็นเงิน 700 บาท ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงดุสิต ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยศาลพิพากษาปรับคนละ 2,500 บาท รวมใช้เงินค่าปรับ 7,500 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ส่วนเงินเปรียบเทียบปรับข้อหา พ.ร.บ.จราจรฯ ผู้ต้องหาใช้เงินส่วนตัว

การจับกุมพล, ญา และณัฐ (นามสมมุติ) นั้น ศูนย์ทนายความฯ ได้รับแจ้งเมื่อกลางดึก เวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค. 2564 โดยยังไม่ทราบสถานที่ควบคุมตัว จนกระทั่งเวลาเช้า 05.00 น. ประชาชนผู้แจ้งจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ถูกจับทั้ง 3 คน ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน. พญาไท ทนายความจึงโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง จนพนักงานสอบสวน สน. พญาไท ให้ข้อมูลเมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. ทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความฯ จึงเดินทางไปให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย

ทนายความจึงมาทราบว่าทั้งสามคนถูกจับมาที่ สน. พญาไทตั้งแต่เวลาเกือบตีสอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำบันทึกจับกุมเสร็จประมาณตีห้า โดยบันทึกจับกุมระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตํารวจกองกํากับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, เจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตํารวจกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว ทำการจับกุมทั้ง 3 คน บริเวณหน้ามูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย เขตราชเทวี     

พฤติการณ์จับกุมโดยสรุป คือ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2564 เวลาประมาณ 01.50 น. ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ตํารวจพบผู้ถูกจับกุมทั้งสามซ้อนสามรถจักรยานยนต์มาบนถนนราชวิถีถึงบริเวณหน้ามูลนิธิคนตาบอด แห่งประเทศไทย โดยมีพฤติการณ์น่าสงสัยและอยู่ภายนอกเคหะสถาน หลังจากเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. โดยไม่มีเอกสารหรือมีเหตุแห่งความจําเป็นเร่งด่วนใดที่จะต้องออกมาเดินทางนอกเคหะสถาน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าขอทําการตรวจค้น ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้ตรวจยึดลูกแก้ว, ประทัด, พลุ, หนังสติ๊ก และอุปกรณ์กันแก๊ส ก่อนจับกุมทั้งสามส่งพนักงานสอบสวน สน. พญาไท

ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้งสามคนว่า ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร โดยออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม (22.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น)

ส่วนพลถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, ไม่แสดงแผ่นป้ายภาษีประจําปี, บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าเกินที่กฎหมาย (ซ้อนสาม) และยินยอมให้ผู้โดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ 

ชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และลงชื่อในบันทึกการจับกุมโดยไม่มีทนายความอยู่ด้วย โดยได้ให้การด้วยว่า ขณะถูกจับกุม พลและณัฐซึ่งเป็นนักศึกษาเทคนิค และญาซึ่งเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ กำลังออกจากแยกดินแดงเพื่อเดินทางกลับบ้าน ส่วนของที่ถูกตรวจยึดพวกตนหาซื้อมาจากร้าน 20 บาท ไว้ใช้สำหรับป้องกันตัว 

อย่างไรก็ตาม หลังทนายความเดินทางไปพบและร่วมสอบปากคำในชั้นสอบสวน ทั้งสามยืนยันให้การรับสารภาพเช่นกัน พนักงานสอบสวนจึงเปรียบเทียบปรับในข้อหาตาม พ.ร.บ. จราจรฯ โดยปรับพล ซึ่งเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์รวม 500 บาท และปรับญาและณัฐผู้ซ้อนในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัยคนละ 100 บาท ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงดุสิต ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ต่อมา ศาลมีคำพิพากษาลงโทษปรับจำเลยทั้งสามคนละ 5,000 บาท รับสารภาพลดเหลือคนละ 2,500 บาท  รวมเป็นเงินค่าปรับทั้งหมด 7,500 บาท โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ทั้งหมดถูกปล่อยตัวเวลาประมาณ 15.00 น. หลังถูกควบคุมตัวไว้ทั้งหมด 14 ชั่วโมง    

อ่านเพิ่มเติม:
อ่านลำดับเหตุการณ์ #ม็อบ3ตุลา #ม็อบทะลุแก๊ซ

X