54 วัน ในคุกคือราคาของการต่อสู้ที่ถูกจ่ายด้วยอิสรภาพของ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ในขณะที่ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก หลังจากที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในคดีการชุมนุมที่ด้านหน้า บก.ตชด. ภาค 1 เขากลับต้องหวนคืนสู่กรงขังอีกครั้งในอีกคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ เหตุจากการโพสต์จดหมายถึงกษัตริย์ในกิจกรรม “ราษฎรสาส์น” นับจากวันที่ถูกคุมขังคือวันที่ 23 ก.ย. 64 จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 9 วัน แล้วที่เขาต้องสูญเสียอิสรภาพไป เหตุเพราะออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสังคมที่ดีกว่า
>>> “ผู้ต้องขังทางการเมือง” อย่างน้อย 9 คน เป็นเยาวชน 1 ราย ถูกขังระหว่างการดำเนินคดี
ทว่าในเวลานี้ที่ทุกอย่างดูมืดมนคล้ายกับว่าไร้ทางออก ในวันที่แกนนำราษฎรต้องถูกคุมขังเพียงเพราะใช้สิทธิและเสรีภาพของตัวเอง ยังมีแสงเทียนวูบไหวระริกที่คอยย้ำเตือนว่าสังคมยังมีหวัง ถ้อยคำมากมายจากมวลชนถูกเรียงใส่ซองจดหมาย จากคนข้างนอกถูกส่งต่อสู่คนข้างใน ปลอบประโลมเหล่าผู้ที่ถูกคุมขังว่า มวลชนไม่เคยลืมพวกเขา และยังเฝ้ารอวันที่คนข้างในจะได้รับอิสรภาพ
และจากตัวอักษร สิ่งที่ถูกกลั่นออกมาคือความหวัง เหล่านี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า ประกายไฟของการต่อสู้ไม่เคยมอดลง แม้ในโมงยามมืดมนที่สุดก็ตาม
ถึง เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์
กูไม่รู้ว่ามึงยังจำกูได้มั้ย เพราะว่าเราไม่ได้เจอกันเป็นสิบปีแล้ว (ไม่นับตอนที่เจอในม็อบ แต่เราก็ไม่เคยทักเพราะไม่กล้าจริง) เราเคยติววิทยาศาสตร์ สสวท. ตอนที่ยังเรียนอยู่ที่ รร. … เพนกวินเป็นเพื่อนที่ไม่เหมือนใครในตอนนั้น มีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง กล้าพูดแสดงความคิดเห็นของตัวเอง พอเส้นทางชีวิตเราแยกจากกัน ก็พอได้ข่าวคราวว่า มึงไม่ได้สินใจทางวิทยาศาสตร์แล้วก็ตกใจเหมือนกัน 555+ แต่เพนกวินก็ยังเป็นคนเดิม คนที่ยังมีความมุ่งมั่น และมีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ก็ขอให้เพนกวินสู้ ๆ เรายังเป็นกำลังใจให้ ตัวเราเองตอนนี้ก็เรียนอยู่วิศวะ … ถึงจะเรียนวิศวะ แต่เราก็สนใจการเมือง อยากเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ขอให้เพนกวินรักษาสุขภาพ แข็งแรง ๆ อยู่เห็นความสำเร็จและประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบนะ
“ห้ามมิให้ดอกไม้ผลิบาน มิอาจหยุดฤดุกาลที่แปรผัน
ห้ามมิให้เห็นแสงเดือนตะวัน มิอาจสิ้นแสงศรัทธาบนผืนดิน”
ด้วยรักและคิดถึง
ถึง ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก
ขอบคุณที่ไมค์เป็นแรงบันดาลใจให้เรามาตลอดระยะเวลาที่ออกมาสู้กับระบอบปรสิต นับตั้งแต่วันที่เรารู้จักไมค์ วันที่ไมค์ออกมาชูป้ายไล่ไอ้เหี้ยตู่กับพี่นนท์ที่ระยอง หลังจากนั้น เราเห็นความเลวร้าย เห็นสิ่งที่ตำรวจทำต่อประชาชนที่ออกมาแสดงความคิด การทำร้ายร่างกายไมค์และพี่นนท์วันนั้นมันบอกกับเราว่า เราทนกับประเทศแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเราไปร่วมชุมนุมแทบทุกม็อบ เราอยากไปเจอไมค์ อยากไปให้กำลังใจ เราโคตร respect เลย แต่ข่าวร้ายสำหรับฝ่ายราษฎรคือไมค์ถูกเผด็จการใช้กฎหมายทำให้ต้องขาดซึ่งอิสรภาพ ยิ่งเฉพาะรอบนี้ที่มีโควิดด้วย เราเป็นห่วงไมค์นะ แต่เรารู้ว่าไมค์สู้อยู่แล้ว ไมค์ยังเป็นคนเก่งสำหรับเราเสมอ เรารู้ว่าไมค์สู้มาตลอดและไม่ยอมแพ้กับเรื่องแค่นี้ เราอยากให้ไมค์ดูแลรักษาตัวเองให้ดี เรารอไมค์อยู่ที่ม็อบนะ เมื่อถึงวันที่เราได้รับชัยชนะ เราอยากให้ไมค์อยู่ร่วมฉลองชัยชนะกับราษฎรด้วย ขอให้รักษาตัวให้ดี แล้วเจอกันนะ 🙂
ด้วยความคิดถึง
lll
ไมค์เพื่อนรัก – ภาณุพงศ์
แม้ทรราชเผด็จการจะข่มเหง-คุกคาม-รังแกพวกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าแค่ไหน นี่นะ สัตว์ร้ายมันใกล้ตายเต็มที่แล้ว
ขอเพื่อนเข้มแข็ง อดทนต่อไปอีกไม่นานหรอกนะคะ แม้เราจะอยู่ข้างนอก แต่เราก็ขาดอิสรภาพในการแดสงออกเช่นเดียวกับคุณ
เราขอสัญญาว่าเราจะยังยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพ+อิสรภาพของเพื่อนเป็นอันดับแรก+เพื่อคนไททุกคนเป็นอันดับต่อไป
“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป เมื่อยีนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
“ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”
คารวะ
เพื่อนราษฎร
ถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ผู้กล้าหาญกว่า Super Hero ใด ๆ
ผมไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึงพวกคุณ …
ผมไม่รู้ว่าเราจะได้สบตากันอีกครั้งหรือไม่ …
ผมไม่รู้ว่าจะได้ยินเสียงพวกคุณอีกหรือไม่ …
แต่ผมได้รับมาแล้วนะ เปลวไฟนั้น
ผมส่งต่อ จุดไฟ ให้คบเพลิงที่ไม่เคยถูกจุด หรือกำลังมอดลง
ผมให้กำลังใจ กำลังกาย เพื่อส่งต่อมัน ผมมีความสุขที่ทำมัน
เพื่อน ๆ พวกแกรู้ไหม…? เงาดำที่เคยปกคลุมแผ่นดินนี้ มันจางลงมากนะ สิ่งที่พวกแกทำมันมีความหมายมาก ๆ พวกกูสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่พวกแกทำไม่สูญเปล่า
สัญญาด้วยชีวิต
ปล. ฝากบอกเพื่อนคนอื่นด้วย
Kazid
ฝากถึงทุก ๆ คน
ขอให้ทุกคนสู้ ๆ เดี๋ยวพวกเราจะสู้ต่อแทน หวังว่าทุกคนจะได้ออกมาพร้อมกับอิสรภาพ แล้วเราจะมาไล่ระบอบปรสิตต่อไปด้วยกัน จนกว่ามันจะออก จนกว่าอำนาจจะกลับคืนสู่ประชาชน เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน lll
ถึงเพื่อน ๆ ที่อยู่ข้างในนั้นทุก ๆ คน
ก่อนอื่นเลยผมอยากขอบคุณความกล้าหาญของพวกคุณ การกระทำของพวกคุณทำให้คนมากมายกล้าหาญและตาสว่างมากขึ้น และผมก็เป็นหนึ่งในผู้คนเหล่านั้น และไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ผมก็จะยังสู้ต่อไปร่วมกับเพื่อน ๆ ทุกคน จนกว่าเราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ขอให้เพื่อน ๆ ที่อยู่ในนั้นทุกคนเข้มแข็งและรอวันที่เราจะได้ฉลองด้วยกัน
ถึง ไผ่
เราและครอบครัวติดตามการต่อสู้ของคุณมาตลอดตั้งแต่วันที่ไปยืนชู 3 นิ้ว ใส่หน้าประยุทธ์ จนวันนี้ที่คุณสู้เพื่อพวกเราทุกคนจนต้องเข้าไปอยู่ในนั้น อยากจะให้กำลังใจไผ่ว่าทุกคนที่อยู่ข้างนอกยังพร้อมสู้เคียงข้างไผ่เสมอ จะยืนสู้ต่อไปเพื่อรอไผ่และเพื่อน ๆ ทุกคนออกมา ขอบคุณไผ่มากที่สู้มาตลอดต่อให้โดนจับกี่ครั้ง ขอบคุณจากใจ จะรอวันที่ไผ่ออกมาและวันที่เราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ถึง…ไผ่
พอเป็นไผ่ เราให้กำลังใจคงไม่พอ จริง ๆ ไผ่ต้องให้กำลังใจเราแหละ เราเห็นไผ่เป็นนักสู้ สู้เสมอ และรู้ตลอดมา ขอให้ไผ่รู้ว่า เราจะเป็นพลังนึงที่จะส่งไปซัพพอร์ตไผ่เสมอ ซักวันเราคงได้ฟังไผ่พูด speech – Hyde Park อีกครั้ง คงไม่นานเกินรอ ขอบคุณมากนะที่คอยส่งสารเพื่อให้ทุกคนตาสว่างและเราเองตาสว่างแล้วและจะไม่กลับไปงมงายอีก ออกมาสนุกกันอีกนะ สู้ด้วยกันนะ
: จากดินแดนเกาะแห่งสลิ่มที่ตาสว่างแล้ว
ถึง เพื่อนในเรือนจำ (เพนกวิน)
เป็นอีกครั้งที่พวกคุณโดนพรากสิทธิเสรีภาพด้วยความอยุติธรรม ขอบคุณพวกคุณอีกครั้งที่เป็นไฟในการต่อสู้ เป็นแสงไฟแห่งความหวัง ถ้าเกิดไม่มีพวกคุณ เราคงก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ยอมรับสภาพที่โดนหลอกลวง คงไม่มีโอกาศได้เปิดตา ได้มองเห็นและต่อสู้ต่อไป
รอคอยวันที่พวกคุณจะได้ออกมาต่อสู้ด้วยกัน
จากประชาชนคนหนึ่ง
ถึง เพนกวิน
ถึงแม้ว่าเพนกวินจะไม่ได้อยู่บนถนนร่วมกับมวลชนบนถนน แต่อยากบอกว่าพวกเราทุกคนยังคงสู้อยู่ทุกวัน สิ่งที่เพนกวินและทุกคนต่อสู้มา มันได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับประเทศ พวกเราจะสู้ต่อไป จนกว่าจะได้มาซึ่งประชาธิปไตยเต็มใบ จนกว่าสถาบันกษัตริย์จะถูกปฏิรูป ไม่ต้องห่วงมวลชน พวกเราจะไม่ยอมแพ้ เราจะทำทุกทางให้เพนกวินและทุก ๆ คนที่ต้องอยู่ในเรือจำได้รับอิสรภาพอีกครั้ง ดูแลตัวเองให้ดี รอวันที่ได้กลับมาสู้พร้อมกันบนถนน
เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ