จับอีก 26 ราย! ส่งกรมสารวัตรทหารบก ก่อนนำตัวไปแจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุชุมนุม #ม็อบ27กันยา

วานนี้ (27 ก.ย. 64) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งกรณีการจับกุมประชาชนอย่างน้อย 26 ราย หลังการสลายการชุมนุม #ม็อบ27กันยาหยุดราชวงศ์ประยุทธ์ ของกลุ่มทะลุฟ้า ที่แยกนางเลิ้งและเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล โดยแบ่งเป็นเยาวชน 4 รายถูกควบคุมตัวไปที่ สน.ห้วยขวาง และผู้ใหญ่อีก 22 รายถูกควบคุมตัวไปที่ สน.บางเขน  ทั้งนี้ ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปที่กรมสารวัตรทหารบกก่อนถูกนำตัวไปที่สองสถานีตำรวจดังกล่าว

.

ผู้ใหญ่ 22 ราย ถูก คฝ. ทำร้ายได้รับบาดเจ็บระหว่างจับกุม 4 ราย ก่อนศาลให้ประกัน วางเงินคนละ 20,000 บาท

สำหรับผู้ใหญ่ 22 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20 ปี แต่มี 3 ราย ที่อายุระหว่าง 64-66 ปี โดยในกลุ่มผู้ถูกจับกุมมีอย่างน้อย 4 ราย ได้รับบาดเจ็บระหว่างการจับกุม 

ซี (นามสมมติ) เผยว่า ถูกเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) กระทืบระหว่างเข้าจับกุม และมีอาการปวดลำตัวด้านขวา มือขวา หัวเข่าขวา และนิ้วโป้งเท้าขวา 

ด้านกฤษณะ ไก่แก้ว สมาชิกเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากมุมขวา มีรอยถลอกบนท่อนแขนขวา จากการถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. ฉุดกระชาก ริมฝีปากแตก และมีรอยเคเบิลไทร์บนข้อมือ 

ผู้ถูกจับกุมอีกรายมีบาดแผลเดิมจากการถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. เข้าสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 64 ที่นิ้วชึ้ นิ้วกลาง และนิ้วก้อย ข้างซ้ายจำนวน 3 นิ้ว ในระหว่างการถูกจับกุม เขาถูกเจ้าหน้าที่บีบที่มือ จนแผลเก่าที่นิ้วกลางฉีกขาด และมือซ้ายบวม นอกจากนี้ เขายังถูกตบด้วยด้ามปืนลูกซองเข้าที่ใบหน้าจนเกิดบาดแผลตรงหลางหน้าผาก มีเลือดไหล และรอยถลอกลึกบริเวณดั้งจมูก 

สุดท้าย วชิรวิทย์ (สงวนนามสกุล) พบรอยฟกช้ำจางๆ เป็นรอยกว้างบริเวณหลังมือซ้าย 

ขณะบันทึกจับกุมบรรยายว่า การจับกุมนี้ประกอบด้วยเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมทั้งหมด 5 ชุด นำโดย พ.ต.ท.ฐิติวุธ ร่อนแก้ว รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน/ผบ.ร้อย, พ.ต.ต.สมเกียรติ ใจตรง ผบ.หมวด 2 กองร้อยที่ 2 บก.น.5/รอง สวป.สน.ทุ่งมหาเมฆ, พ.ต.ท.ปวีร์ มั่นเมือง รอง ผกก.ป.สน.นางเลิ้ง, ส.ต.ต.หญิง อนัญญา อนันตพงศ์ ผบ.หมู่ กองร้อย 4 กก.คฝ. 2 และพ.ต.ต.ณัฐวุฒิ ปราบคนชั่ว สวป.สน.พหลโยธิน 

สำหรับพฤติการณ์การจับกุม บันทึกจับกุมได้บรรยายโดยสรุปไว้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดหมายทำกิจกรรม #ม็อบ27กันยาหยุดราชวงศ์ประยุทธ์ ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง เป็นการจัดกิจกรรมกีดขวางทางการจราจรทำให้ประชาชนผู้ใช้ถนนเดือดร้อน 

ต่อมา เมื่อผู้ชุมนุมมาถึงแยกนางเลิ้งก็ไม่สามารถเคลื่อนขบวนต่อได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนตั้งแนวกระชับพื้นที่บริเวณถนนพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้ยุติการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่เลิกและปาถุงบรรจุสี ใช้หนังสติ๊กยิงลูกเหล็ก และปาระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 22 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นผู้ร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง

สำหรับข้อกล่าวหานั้น ทั้ง 22 รายถูกดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ได้แก่  

  1. “ร่วมกันจัดกิจกรรมร่วมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนรวมกันมากกว่ายี่สิบห้าคนในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคําสั่ง กําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) 
  1. “ร่วมกันชุมนุมหรือทํากิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร์โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคําสั่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด” อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ฉบับที่ 10)

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 22 ราย ได้ปฏิเสธการลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม และปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะสอบปากคำ ทั้งหมดยังได้ให้การเพิ่มเติมว่า ระหว่างการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ไม่ได้แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับกุม ทั้งยังไม่นำตัวผู้ถูกจับกุมไปที่ สน.ท้องที่ ทันที แต่กลับพาไปที่กรมสารวัตรทหารก่อน 

ทั้งเมื่อมาถึงสน. เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมให้ผู้ถูกจับกุมติดต่อญาติหรือผู้ไว้วางใจ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานที่ที่ถูกจับ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ใช่ของที่มีไว้เป็นความผิด ได้มาโดยกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือจะใช้ในการกระทำผิดซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้

หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 04.00 น. ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.บางเขน เป็นเวลา 1 คืน เช้าวันรุ่งขึ้น (28 ก.ย. 64) พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลแขวงดุสิตผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  โดยทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักประกัน

15.50 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่สั่งให้วางเงินสดคนละ 20,000 บาท เป็นหลักประกัน รวมหลักทรัพย์ 440,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ทำให้ทั้ง 22 รายได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ 

.

เยาวชน 4 รายถูกนำตัวส่ง สน.ห้วยขวาง ตำรวจไม่ให้ทนายเข้าร่วมการอ่านบันทึกการจับกุม

ส่วนเยาวชน 4 ราย ถูกควบคุมตัวไปที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนแจ้งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ว่ากำลังติดตามไปที่ สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นสน.ในท้องที่เกิดเหตุ กลับแจ้งว่า ตนต้องรีบไปสอบปากคำที่ สน.บางเขน ต่อ จึงอ่านบันทึกจับกุมให้เยาวชนทั้งสี่ฟัง โดยไม่มีทนายความเข้าร่วมกระบวนการด้วย

เมื่อทนายความไปถึง สน.ห้วยขวาง จึงทราบว่า พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ไม่ได้เดินทางไปสอบปากคำผู้ถูกจับกุมที่ สน.บางเขน ต่อ แต่ได้เดินทางกลับบ้านไปหมดแล้ว 

นอกจากนี้ การที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เดินทางกลับไปก่อน ทำให้ทนายความต้องขอเข้าพบผู้ถูกจับกุมทั้งสี่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งตอนแรกไม่ให้ทนายความเข้าพบ อ้างว่าเป็นสถานีตำรวจที่รับฝากขังในคืนนั้นเท่านั้น และหมดเวลาเยี่ยมแล้ว แต่สุดท้ายหลังการพูดคุย ทนายความจึงได้เข้าพบผู้ต้องหา ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังแล้ว 

สำหรับบันทึกจับกุมของเยาวชนได้บรรยายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พฤติการณ์การจับกุม และข้อหาในลักษณะเดียวกันกับของผู้ถูกจับกุมอีก 22 ราย โดยเยาวชนทั้งสี่ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม ทั้งนี้ ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง อ่านบันทึกจับกุมให้เยาวชนฟัง ไม่ได้มีทนายความเข้าร่วมแต่อย่างใด

ทั้งสี่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.ห้วยขวาง เป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้น (28 ก.ย. 64) พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำเยาวชนทั้งสี่ ในเวลา 09.00 น. และควบคุมตัวไปที่ศาลเยาวชนกลางและครอบครัวเพื่อตรวจสอบการจับ 

ต่อมา ศาลเยาวชนฯ ได้มีคำสั่งว่า การจับเยาวชนเป็นไปโดยชอบ แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาเยาวชนได้รับบาดเจ็บจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ก็ตาม และให้ออกหมายควบคุมตัวไว้ระหว่างสอบสวน ก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวทั้งหมด โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ แต่ถ้าหากผิดสัญญา ให้ปรับ 5,000 บาท

สำหรับการชุมนุม #ม็อบ27กันยาหยุดราชวงศ์ประยุทธ์ กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดหมายที่แยกนางเลิ้งเพื่อเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล เมื่อกำลังเคลื่อนขบวนไปที่แยกนางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุม และเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วได้เข้าจับกุมผู้ชุมนุม ทั้งนี้ยังได้จับกุมน้องสาวของ “ป้าเป้า” วรวรรณ แซ่อั๊ง ด้วยการจับกดหัวลงกับพื้นอีกด้วย 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนยังได้กระชากผู้สื่อข่าวภาคสนามเข้าไปแนวตำรวจอีกด้วย ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาตำรวจควบคุมฝูงชนออกมาขอโทษผู้สื่อข่าวที่ถูกกระชากแทนผู้ใต้บังคับบัญชาและสั่งให้ชุดควบคุมฝูงชนที่ตั้งแถวถอยออกจากพื้นที่


อ่านประมวลสถานการณ์ #ม็อบ27กันยา (ประชาไท): https://prachatai.com/journal/2021/09/95193

.

X