#ม็อบ23กันยา จับกุม 16 คน เป็นเด็กเยาวชน 9 คน สื่ออิสระก็โดนจับ-แจ้งข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว 1 ราย

*เพิ่มเติมข้อมูลวันที่ 25 ก.ย. 64

วันที่ 23 กันยายน 2564 จากกรณีการชุมนุม #ม็อบทะลุแก๊ส ของมวลชนอิสระ บริเวณแยกดินแดงและถนนมิตรไมตรี เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแนวอยู่บริเวณบนสะพานลอยด้านหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก ตั้งแต่เวลาราว 19.00 น. จนในช่วงเวลา 21.30-22.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้ใช้ชุดเคลื่อนที่เร็ว ทยอยเข้าจับกุมผู้ชุมนุมบางส่วน และเข้าตรวจสอบเอกสารของสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์อยู่

ต่อมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานว่ามีผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 16 คน ถูกนำตัวไปที่ สน.ห้วยขวาง แบ่งเป็นเด็กเยาวชน 9 คน ประชาชนทั่วไป 7 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่ไม่ได้ไปร่วมชุมนุม แต่ไปทำธุระที่ สน.ดินแดง 1 ราย และยังมีสื่ออิสระ 1 ราย ที่ถูกจับกุมด้วย ส่วนผู้ถูกจับกุมอีก 5 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกจับกุม โดยมีสองคนระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. ถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ก่อนถูกรุมกระทืบ แม้ไม่ได้ขัดขืนใดๆ

.

เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าตรวจยึดรถจักรยานยนต์ และตรวจเอกสารขอสื่อมวลชนที่ติดตามสถานการณ์ชุมนุม

จับกุมเยาวชน 9 ราย เป็นเด็กหญิงถึง 3 ราย ถูกยึดรถยึดโทรศัพท์

ในส่วนของกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ถูกจับกุมทั้งหมด 9 ราย นั้น แยกเป็นชาย 4 ราย และหญิง 5 ราย อายุระหว่าง 14-17 ปี ในจำนวนนี้ ยังเป็นเด็กหญิงที่อายุ 14 ปี จำนวน 3 คนด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมจากบริเวณแยกใต้ทางด่วนดินแดง ต่อเนื่องถนนมิตรไมตรี โดยอ้างว่าทั้งหมดเป็นผู้ร่วมชุมนุมก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและกำลังหลบหนี จึงจับกุมและนำตัวไปยัง สน.ห้วยขวาง โดยแยกเด็กเยาวชนออกจากกลุ่มผู้ใหญ่

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ระบุว่าได้ตรวจค้นพบหนังสติ๊ก 1 อันจากเยาวชนชายรายหนึ่ง พร้อมลูกแก้ว 10 ลูก และมีดพับสั้น 1 ด้าม แต่ไม่ได้พบสิ่งของอื่นๆ ในเยาวชนรายอื่นอีก

เจ้าหน้าที่ยังมีการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของเยาวชนรวม 4 คัน และโทรศัพท์มือถือรวม 6 เครื่อง โดยอ้างว่าเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ขับขี่ย้อนศร และส่ายไปส่ายมา ลักษณะขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น จึงตรวจยึดรถไว้เป็นของกลาง รวมทั้งอ้างว่ากลุ่มเยาวชนได้ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสื่อสารนัดหมายชุมนุม และถ่ายภาพการชุมนุม จึงได้ตรวจยึดไว้เช่นกัน

เยาวชนทั้ง 9 คน ถูกตำรวจแจ้งข้อหาหลัก 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ โดยผู้กระทำคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรคสอง, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไป แต่ผู้นั้นไม่เลิก ตามมาตรา 216, ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว

ขณะเยาวชนชายที่ตรวจพบมีดพับ ยังถูกแจ้งข้อหาพาอาวุธไปในเมือง โดยไม่มีเหตุอันควร และเยาวชนอีก 4 ราย ที่ถูกจับกุมพร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ได้ถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นเพิ่มด้วย

ทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกการจับกุม

.

จับประชาชน 6 ราย รายหนึ่งไปทำธุระที่ สน.ดินแดง กลับถูกรุมจับ ที่เหลือบาดเจ็บจากการจับกุม

ในส่วนของกลุ่มผู้ใหญ่ ที่มีผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 6 ราย ในจำนวนนี้เป็นหญิง 1 ราย อายุระหว่าง 18-25 ปี โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมจากบริเวณแยกใต้ทางด่วนดินแดง ต่อเนื่องถนนมิตรไมตรี โดยอ้างว่าทั้งหมดเป็นผู้ร่วมชุมนุมก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและกำลังหลบหนีเช่นเดียวกับกลุ่มเยาวชน จึงจับกุมนำตัวมายัง สน.ห้วยขวาง

บันทึกจับกุมระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง ในตัวผู้ถูกจับกุมรายหนึ่ง พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 4 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องจากผู้ถูกจับกุมทั้งหมดด้วย โดยอ้างเหตุเรื่องรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์ในลักษณะเดียวกับกรณีของกลุ่มเยาวชน

ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 6 คน ใน 4 ข้อหาหลัก เช่นเดียวกับกรณีของกลุ่มเยาวชน โดยมีผู้ถูกจับกุมรายหนึ่งได้ถูกแจ้งข้อหามีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติม และมี 4 คน ถูกแจ้งข้อหาเรื่องการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

ทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม โดยจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป โดยการสอบสวนเสร็จสิ้นในเวลาราว 5.00 น. ทั้งหมดยังจะถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.ห้วยขวาง และจะถูกนำตัวขอฝากขังที่ศาลในช่วงเช้าวันที่ 25 กันยายน

ในส่วนข้อมูลของผู้ถูกจับกุม ผู้ถูกจับกุมรายหนึ่งเป็นชายวัย 25 ปี ระบุว่า ตนไม่ได้ไปร่วมชุมนุมแต่อย่างใด แต่ได้เดินทางไปที่ สน.ดินแดง เพื่อพบกับครอบครัวของเด็กหญิงที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากรู้จักกับครอบครัวดังกล่าวและเขาขอให้มาช่วยเหลือ แต่ระหว่างที่เดินทางออกมาจากสถานีตำรวจ กลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจับกุมตัว ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม

ด้านผู้ถูกจับกุมอีก 5 ราย ล้วนแล้วแต่มีบาดแผลที่เกิดจากการจับกุม โดยหนุ่มวัย 19 ปี ระบุว่าตนประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร และมาร่วมการชุมนุม โดยไม่ได้มีการพกพาอาวุธใดๆ กลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้โล่กั้นทาง และถีบให้ตกจากรถจักรยานยนต์ พอล้มลง ได้ถูกรุมกระทืบโดยเขาไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด และยังถูกรัดข้อมือด้วยเคเบิ้ลไทร์หลังจับกุมด้วย ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกหลายแห่ง

ผู้ถูกจับกุมชายอายุ 20 ปี ก็ระบุตนถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. เข้าสกัดให้รถจักรยานยนต์ล้ม ก่อนจะรุมกระทืบ จนมีแผลคางแตก แขนถลอกและเลือดออกมากตามแขนซ้าย และยังคล้ายถูกยิงด้วยกระสุนยางตรงสีข้าง จนมีรอยบวมเป็นวงกว้าง

ขณะที่ผู้ถูกจับกุมชายอีก 2 ราย วัย 18-19 ปี ก็ระบุว่าได้ถูกทำร้ายขณะจับกุม จนได้รับบาดเจ็บ รายแรกถูกเตะที่หัวและชายโครง รายถัดมาถูกยิงด้วยสิ่งที่น่าจะเป็นปืนอัดแก๊ส เข้าที่ขมับใกล้ดวงตา และถูกเตะเข้าที่ปากขณะก้มหมอบลงตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ โดยรายนี้ระบุว่าตนเดินทางกลับจากการไปส่งของ และได้แวะดูบรรยากาศการชุมนุม กลับถูกจับกุมไปด้วย

ส่วนผู้ถูกจับกุมหญิงวัย 18 ปี ก็ระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. ผลักกระแทกกลับพื้นที่ระหว่างจับกุม ทำให้ข้อเท้าพลิก/แพลง และมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าที่ด้านหลังด้วย

.

.

จับกุมสื่ออิสระ 1 ราย แจ้งข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หลังไม่สามารถแสดงเอกสารอนุญาตให้ออกนอกเคหสถาน

ขณะเดียวกัน ยังมีกรณีนายอธิเมศร์ ระบุว่าตนเป็นผู้สื่อข่าววัย 39 ปี จากสื่ออิสระแห่งหนึ่ง ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมาด้วย โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมระบุว่าเป็นการจับกุมในเวลาราว 22.00 น. ระหว่างที่ชุดควบคุมฝูงชนควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ดินแดงได้ ได้พบนายอธิเมศร์เดินอยู่บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า จึงได้เข้าไปสอบถามรายละเอียด อธิเมศร์ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าตนมาถ่ายภาพสถานการณ์การชุมนุมในฐานะสื่ออิสระ ไม่ใช่ผู้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบเอกสารอนุญาตให้ออกนอกเคหสถานในเวลาเคอร์ฟิว แต่อธิเมศร์รับว่าไม่ได้มีเอกสารดังกล่าว จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และขอตรวจค้น แต่ไม่ได้พบสิ่งผิดกฎหมาย

หลังนำตัวอธิเมศร์มาที่ สน.ห้วยขวาง ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเขาเรื่องการฝ่าฝืนออกนอกเคหสถานในเวลาห้ามหลัง 21.00 น. – 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยในชั้นจับกุมเขาได้ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 10,000 บาท และให้ปล่อยตัวไป ในเวลาราว 01.30 น. และนัดหมายมาดำเนินการสั่งฟ้องคดีต่อไปในวันที่ 25 ก.ย. 64

.

ศาลเยาวชนฯ ให้ประกันตัวเด็กเยาวชน 9 ราย โดยสองคนต้องวางหลักทรัพย์ เหตุเคยถูกดำเนินคดีมาก่อน

วันที่ 24 ก.ย. 64 พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดี ได้ยื่นขอตรวจสอบการจับกุมเด็กและเยาวชนทั้ง 9 ราย ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยศาลเห็นว่าเป็นการจับกุมโดยชอบด้วยกฎหมาย 

ทนายความจึงได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวเด็กเยาวชนทั้งหมด ต่อมาศาลเยาวชนฯ ได้อนุญาตให้ประกันตัวเด็กเยาวชน 7 ราย โดยไม่ต้องวางหลักประกัน แต่หากผิดสัญญาประกันจะปรับนายประกันเป็นเงิน 5,000 บาท

ส่วนเยาวชน 2 ราย ที่มีประวัติเคยถูกจับกุมจากการชุมนุมในวันก่อนหน้านี้ ศาลกำหนดให้วางหลักประกันรายละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท โดยกำหนดให้ทั้งหมดไปพบเจ้าพนักงานคุมประพฤติที่สถานพินิจฯ ในวันที่ 29 ก.ย. 64 และมารายงานตัวที่ศูนย์ให้คำปรึกษาของศาลเยาวชนฯ อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย. 64

.

ศาลให้ประกันตัวผู้ใหญ่ทั้ง 6 ราย

ต่อมาวันที่ 25 ก.ย. 64 พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้นำตัวผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ทั้ง 6 ราย ไปขออำนาจศาลในการฝากขัง โดย 5 ราย ถูกขอฝากขังที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ขณะที่ผู้ต้องหาชายที่ถูกแจ้งข้อหามีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกขอฝากขังที่ศาลอาญา เนื่องจากข้อหานี้มีอัตราโทษปรับเกินกว่าอำนาจของศาลแขวง โดยทั้งสองศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องของตำรวจ ทนายความจึงได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมด

เวลา 13.45 น. ศาลแขวงพระนครเหนืออนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ และนัดให้มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 25 ต.ค. 64

เวลา 14.40 น. ศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาอีก 1 ราย โดยให้วางหลักประกันเป็นเงินสด 35,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำในลักษณะเดียวกันที่ถูกกล่าวหาอีก และนัดมารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ย. 64

.

X