ตร.ปอท.บุกจับ รุ้ง แจ้งข้อหา “ม.116-พ.ร.บ.คอมฯ” กล่าวหาเป็นแอดมินเพจแนวร่วมมธ.ฯ ยุยงปลุกปั่นผ่านสื่อออนไลน์ ก่อนศาลให้ประกัน

วันนี้ (22 ก.ย. 64) ประมาณ 12.30 น. “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าแสดงหมายจับของศาลอาญาที่ 1506/2564 ลงวันที่ 15 ก.ย. 64  ในฐานความผิด “ยุยงปลุกปั่น” ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) 

เวลาประมาณ 12.33 น. ปนัสยา ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ขณะเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจากบก.ปอท.เข้าแสดงหมายจับหน้าบ้านพัก โดยปนัสยาได้ฝากให้ทุกคนช่วยบันทึกหน้าจอและเผยแพร่ข่าวต่อ เนื่องจากตนไม่สามารถเผยแพร่ข่าวเองได้แล้ว ทั้งยังกล่าวลากิจอาจารย์ขณะไลฟ์สด เนื่องจากมีเรียนออนไลน์ในช่วงบ่าย 

คลิป Cr.Panusaya Sithijirawattanakul

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้บุกตรวจค้นบ้านพักกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมทั้งจับ นิราภร อ่อนขาว หรือ “บี๋” นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มในคดีเดียวกันนี้ด้วย ก่อนที่พนักงานสอบสวนบก.ปอท.จะขออำนาจศาลฝากขัง และศาลให้ประกันตัวในเวลาต่อมา

ตร.แจ้ง “ม.116-พ.ร.บ.คอมฯ” อ้างเพจแนวร่วมมธ.ฯ ปลุกปั่นผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งอ้าง เพจโพสต์กล่าวหา จนท.ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

บันทึกจับกุมบรรยายว่า วันที่ 22 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 12.45 น. การจับกุมเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บัญชาการ ปอท. โดยสั่งการให้พนักงานตำรวจ บก.ปอท รวม 9 นาย เข้าจับกุมปนัสยา 

สำหรับพฤติการณ์คดี คำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวนปอท. บรรยายโดยสรุปว่า นายนพดล พรหมภาสิต สมาชิกของศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ผู้กล่าวหา ได้เข้าร้องทุกข์กับกับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 บก.ปอท ให้ดําเนินคดีต่อ ปนัสยา เหตุเป็นแอดมินเพจ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม-United Front of Thammasat and Demonstration” โดยกล่าวหาว่าเพจดังกล่าว ปลุกระดมให้ผู้คนออกไปประท้วงเดินชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งผู้ชุมนุมไม่ได้ออกมาเรียกร้องในสันติวิธี จึงไม่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นไปตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ 

ต่อมา จากการสืบสวนทางเทคนิคและการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลพบว่า ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และนิราภร อ่อนขาว มีความเกี่ยวข้องกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวข้างต้นและพบว่าบัญชีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม- United Front of Thammasat and Demonstration” ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรม รายงานความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของกลุ่มแกนนํา แนวร่วมกลุ่มอื่น ๆ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าดําเนินการกับแกนนําของกลุ่ม 

อีกทั้งยังพบว่าผู้ดูแลระบบ (Admin) เพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ยังมีพฤติการณ์ยุยง ปลุกปั่น ผ่านทางสื่อออนไลน์ให้แนวร่วมของกลุ่มเกิดความกระด้างกระเดื่องต่ออํานาจรัฐและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นแล้ว แกนนําของกลุ่มดังกล่าวก็ไม่ได้พยายามที่จะเข้าไประงับยับยั้งเหตุแต่กลับนําภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปโจมตีและกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออํานาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ปนัสยา และนิราภร 

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 12.45 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี สามารถติดตามจับกุม ปนัสยา ได้ที่บริเวณบ้านพักในจังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตัวตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวปนัสยาส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย 

พนักงานสอบสวนได้แจ้งปนัสยา 2 ข้อหา ได้แก่ “ร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย” ตามมาตรา 14 (3) แห่งพ.ร.บ.คอมฯ 

ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ปนัสยาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

ศาลให้ประกันตัว ไม่มีเงื่อนไข ในวงเงิน 35,000 บาท 

เวลา 15.00 น.  หลังจากสอบคำให้การเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้ยื่นขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ผ่านวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัวโดยระบุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มอีก 10 ปาก รอผลการตรวจลายนิ้วมือ และประวัติการต้องโทษ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน

ท้ายคำร้องยังระบุว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับเป็นคดีสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(3)

ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวน 35,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ เป็นหลักประกัน ในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ให้เหตุผลว่า  ปนัสยามิได้เป็นแอดมินเพจดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา และในคดีนี้ผู้ต้องหาไม่เคยได้รับหมายเรียกแม้แต่ครั้งเดียว โดยคดีที่ปนัสยาถูกกล่าวหานั้น ปนัสยาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด มิได้มีการต่อสู้ขัดขวาง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งยังเป็นเพียงนักศึกษาที่กำลังต้องสอบไล่ หากได้รับการปล่อยตัว ก็ไม่อาจไปก่ออันตรายประการอื่นได้

ต่อมาเวลา 16.44 น. ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว พร้อมกำหนดนัดรายงานตัววันที่ 9 พ.ย. 64 เวลา 08.30 น.

X