ดินแดงยังเดือด #ม็อบ5กันยา กระบะ คฝ. ปาดหน้าจักรยานยนต์ 3 วัยรุ่น จนล้มก่อนเข้าจับกุม แจ้งข้อหาหนักมีวัตถุระเบิด 1 รายเจ็บหนักส่ง รพ.

5 ก.ย. 64 บริเวณดินแดง เวลาประมาณ 21.00 ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ใช้กำลังเข้าจับกุมวัยรุ่นชาย 3 ราย  ขณะขับรถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้านถึงบริเวณสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง-รางน้ำ โดย คฝ.ขับรถกระบะปาดหน้าจนจักรยานยนต์ล้ม ทั้งสามได้รับบาดเจ็บ 2 รายถูกนำตัวไป บช.ปส. อีกรายบาดเจ็บที่ศีรษะ ถูกนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ แม่ติดตามไปพบที่โรงพยาบาลตั้งแต่กลางดึกแต่ยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ ล่าสุด แพทย์แจ้งว่าต้องทำการผ่าตัด 

ทั้งสามถูกตั้งข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ (ร่วมจัดชุมนุม ร่วมชุมนุม และฝ่าเคอร์ฟิว), มั่วสุมก่อความวุ่นวาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216, และมีวัตถุระเบิดในครอบครอง 

วันนี้ (6 ก.ย. 64) หลังพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ฝากขังผู้ต้องหา 2 ราย โดยคอนเฟอเรนซ์จาก บช.ปส. ไปที่ศาลอาญา ศาลอนุญาตให้ฝากขัง และอนุญาตให้ประกันตัวทั้งสอง โดยให้วางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 12,000 บาท และให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาอีก กำหนดนัดรายงานตัวในวันที่ 25 ต.ค. 64 เวลา 8.30 น. โดยทนายความใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์เป็นหลักทรัพย์ประกันรวม 24,000 บาท 

ทั้งนี้ #ม็อบ5กันยา ที่สามเหลี่ยมดินแดง เวลาประมาณ 16.00 น. มีผู้ชุมนุมอิสระและกลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊สเดินทางมารวมตัวกันคู่ขนานกับการชุมนุมปราศรัยที่บริเวณแยกอโศกมนตรี ของ ‘เครือข่ายไล่ประยุทธ์’ ก่อนที่จะเกิดการเผชิญหน้าระหว่าง คฝ. และกลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊ส โดยเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม ผลักดัน โอบล้อมผู้ชุมนุม ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ถึง 23.00 น. และเริ่มเข้าจับกุมผู้ชุมนุมหลังเวลาเคอร์ฟิว

โดยพบว่า คฝ.ใช้มาตรการที่รุนแรงและไม่จำกัดเป้าหมาย มีรายงานจาก The Reporter  ว่า เวลา 21.29 น. คฝ.พยายามบุกเข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่นในอาคารแห่งหนึ่ง ก่อนพบว่า วัยรุ่นรายหนึ่งมีบาดแผลจากการทุบตีด้วยกระบองบริเวณเบ้าตา และอีกรายถูกทุบตีด้วยกระบอกปืนที่ศีรษะ ต่อมา เวลา 22.01 น. ชุดเคลื่อนที่เร็วได้ขับรถติดตามกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในซอยข้างแฟลตดินแดง พร้อมทั้งใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ทำให้มีประชาชนทั่วไปได้รับบาดเจ็บหลายราย มีทารก 4 เดือน และเด็กเล็กที่อยู่ในแฟลตได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตาด้วย รวมถึงมีคนส่งอาหารถูกยิงด้วยกระสุนยาง ตลอดจนรถพยาบาลที่เปิดไฟฉุกเฉินให้การรักษาคนเจ็บก็ถูก คฝ.ยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาใส่

ประชาชนถูกกระสุนยางจาก คฝ.ที่เข้าไปในซอยข้างแฟลตดินแดง (ภาพจากไลฟ์ The Reporter)

คนนั่งตรงกลางลอยข้ามหัวคนขับ หลังเบรกมอเตอร์ไซค์กะทันหัน บาดเจ็บทั้งสามคน

พงศ์ (นามสมมติ) และวิทย์ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ให้ข้อมูลว่าตนทั้งสองพร้อมด้วยภู (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซค์เพื่อเดินทางกลับบ้านในเวลา 21.00 น. มาถึงบริเวณสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง ทางไปถนนรางน้ำ จึงสังเกตเห็นรถกระบะของ คฝ.ไล่ตาม โดยยิงกระสุนยางมาทางพวกเขาแต่ไม่ถูก ก่อนที่รถกระบะจะขับทันและเข้าปาดหน้ามอเตอร์ไซค์ จนพงศ์ต้องเบรกรถกะทันหัน ทำให้ภูที่นั่งซ้อนตรงกลางลอยข้ามหัวคนขับออกไป ส่วนพงศ์และวิทย์ล้มลงบนสะพาน 

ตามการรายงานของสื่อออนไลน์ ภูได้รับบาดเจ็บเลือดไหลจากแผลฉีกเปิดบนใบหน้าและศีรษะจนหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนพงศ์และวิทย์มีบาดแผลตามร่างกาย คฝ.ได้ใช้กำลังเข้าจับกุมและใช้เคเบิ้ลไทร์สีดำรัดข้อมือจากด้านหลัง ในลักษณะให้ทั้งสองนอนคว่ำหน้าบนพื้นถนน

ภาพจากไลฟ์ The Reporter

ทำบันทึกจับกุม 3 ชั่วโมงครึ่ง และแจ้งข้อหาหนักมีระเบิดไว้ในครอบครอง ก่อนศาลให้ประกันโดยติด EM อีกรายต้องผ่าตัด!      

พงศ์และวิทย์ถูกควบคุมตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช. ปส.) ภายในสโมสรตำรวจในเวลาประมาณ 23.30 น. โดยทนายความอาสาของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนติดตามไปให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้เข้าพบผู้ถูกจับกุมทั้งสองได้ และพบว่าพนักงานสอบสวนได้ยึดโทรศัพท์มือถือของทั้งสองไปแล้ว

นอกจากนี้ ตำรวจที่ บช. ปส. ยังมีมาตรการใหม่ โดยให้ทนายความฝากโทรศัพท์มือถือไว้กับเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเก็บไว้กับตัว ซึ่งเป็นมาตรการเช่นเดียวกับที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ซึ่งการยึดโทรศัพท์ของผู้ถูกจับและไม่ให้ทนายความพกโทรศัพท์ดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิในการติดต่อสื่อสารกับลูกความอื่นๆ หรือญาติของผู้ถูกจับกุม

ทนายความยังพบว่า พงศ์มีแผลถลอกขนาดใหญ่ที่แขนซ้ายบริเวณข้อศอก ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการพันผ้าก๊อซปิดแผล และมีแผลที่เข่าซ้าย แผลถลอกที่แขนขวา ส่วนวิทย์มีบาดแผลที่เข่าซ้าย และแผลถลอกที่ข้อศอกด้านขวาเช่นกัน ทั้งสองให้ข้อมูลว่า เป็นบาดแผลจากรถล้ม วิทย์ระบุด้วยว่า เขาถูก คฝ.ตีขณะเข้าจับกุมด้วย

เวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย. 64 ราว 3 ชั่วโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่จึงจัดทำบันทึกจับกุมแล้วเสร็จ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.อคฝ. 4 นาย ได้แก่ 1. ส.ต.ต.ชยพล ภักดีพล 2. ส.ต.ต.รุ่งโรจน์ ท้าวไทยชนะ 3. ส.ต.ต.ปวเรศ สอิ้งทอง 4. ส.ต.ต.รัชพล ว่องไว ทำการจับกุมวิทย์, พงศ์ และภูได้ขณะปฏิบัติการควบคุมพื้นที่บริเวณถนนดินแดง โดยทั้งสามขับหลบหนีตำรวจแต่หลบไม่ทัน หลังจับกุมได้ยึดรถจักรยานยนต์, ระเบิดแสวงเครื่อง 1 ลูก, ระเบิดปิงปองหลากสี 10 ลูก, หนังสติ๊ก ด้ามไม้ 1 อัน และลูกแก้ว เป็นของกลาง และยึดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ไว้เป็นวัตถุพยาน

โดยในบันทึกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาทั้งสามว่า “ร่วมกันจัดกิจกรรมและร่วมกันชุมนุมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และฝ่าฝืนเคอร์ฟิว (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ), ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวาย โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไม่ยอมเลิก (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216) และร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่เจ้าพนักงานไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง (พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดฯ) ทั้งวิทย์และพงศ์ปฏิเสธลงชื่อในบันทึกจับกุม

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้แจ้งข้อกล่าวหาวิทย์และพงศ์ตามข้อกล่าวหาข้างต้น ทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังสอบปากคำ ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ บช.ปส. ตลอดคืน ก่อนพนักงานสอบสวนขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันนี้ และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง จากนั้นอนุญาตให้ประกันตัวทั้งสองตามที่ทนายความได้ยื่นคำร้อง โดยให้วางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 12,000 บาท และให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาอีก   

ด้านภูซึ่งถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ แม่ได้ติดตามไปพบตั้งแต่คืนวาน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม พยาบาลแจ้งเพียงว่า ภูยังสามารถพูดได้ จำได้ แต่ปวดแผลและศีรษะ ล่าสุดวันนี้ แม่ก็ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยม และได้รับแจ้งว่า แพทย์ต้องทำการผ่าตัด แม่ของภูจึงเข้าแจ้งความที่ สน.ดินแดง กรณีลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่หน้าห้องที่ภูพักรักษาตัวมีตำรวจ สน.ดินแดง เฝ้าอยู่ตลอดเวลา และพนักงานสอบสวนได้แจ้งอายัดตัวไว้กับทางโรงพยาบาลหากแพทย์อนุญาตให้ภูออกจากโรงพยาบาลได้ 

X