#ม็อบ16สิงหา จับกุม 13 ราย เป็นเยาวชน 5 ราย คนส่งพิซซ่า-คนส่งของก็ถูกจับ แม้ไม่ได้ชุมนุม ก่อนศาลให้ประกันตัว

17 ส.ค. 64 หลังจากกลุ่มทะลุฟ้านัดหมายจัดการชุมนุม #ม็อบ16สิงหา #ไล่ล่าทรราช ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเดิมประกาศจะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ต่อมาได้มีการประกาศเปลี่ยนเส้นทางไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่สามารถไปถึงได้ เนื่องจากมีการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่

หลังการชุมนุม ยังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ก่อนพบว่ามีผู้ถูกจับกุมไปที่ บช.ปส. รวม 13 ราย ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 5 ราย ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งหมด และมี 2 รายที่ถูกแจ้งข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร (มีดพับ) ซึ่งข้อหามีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท ไม่ใช่อาวุธร้ายแรงแต่อย่างใด

ทั้งยังพบว่าผู้ถูกจับกุม 2 ราย เป็นคนส่งพิซซ่าที่ทำงานอยู่บริเวณดังกล่าว และอีก 1 ราย เป็นคนส่งของที่พักอาศัยอยู่บริเวณ สน.ดินแดง แต่ยังไม่กล้ากลับเข้าที่พักหลังทราบว่ามีเหตุปะทะกัน จนเหตุการณ์สงบจึงเดินทางกลับ แต่กลับถูกจับกุม ทั้งสามไม่ใช่ผู้เข้าร่วมการชุมนุมแต่อย่างใด

พบ GPS แอบติดใต้รถกลุ่มทะลุฟ้า ก่อนตร.นำหมายบุกค้นบ้าน-ยึดรถเครื่องเสียงก่อนชุมนุม

ตั้งแต่ก่อนการชุมนุม กลุ่มทะลุฟ้าโพสต์รายงานว่าได้ตรวจพบเครื่อง GPS ใต้ท้องรถยนต์ของกลุ่มที่ถูกตำรวจยึดที่หน้าสโมสรตำรวจ ไปไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 จึงคาดว่าเป็นการติดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ก่อนหน้านี้พบว่า “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ จาก Wevo และพรรณิการ์ วานิช จากคณะก้าวหน้า เคยเปิดเผยว่าได้พบการติดตั้งเครื่อง GPS ในลักษณะเดียวกันไว้ที่รถยนต์ของตนมาแล้วด้วย

จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่มทะลุฟ้าได้ไลฟ์รายงานว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเดินทางมาที่บ้านของกลุ่ม อ้างว่าจะขอเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ทางกลุ่มยืนยันว่าต้องรอทนายความก่อน

ต่อมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบจากงานสายตรวจตามมาสมทบ และมีการแสดงหมายค้นของศาลแขวงดุสิตลงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ซึ่งระบุว่ากองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เป็นผู้ร้องขอออกหมาย โดยขอตรวจค้นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั่นคือรถยนต์กระบะและอุปกรณ์เครื่องเสียง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักดังกล่าวและรถยนต์ แต่ไม่ได้พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้แจ้งว่าจะต้องตรวจยึดรถและเครื่องเสียงไว้ เพราะเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564

เวลา 13.37 น. สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้าตกลงนำรถยนต์ที่ตำรวจตรวจค้นไปที่ สน.บางซื่อ โดยพบว่าที่หน้าปากซอยบ้านมีรถตำรวจนครบาลสีดำจอดอยู่ไม่น้อยกว่า 4 คัน สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้ารายงานในไลฟ์ว่า มักมีรถตำรวจมาจอดอยู่หน้าปากซอยเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง

รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลไม่น้อยกว่า 4 คันหน้าปากซอยบ้านของกลุ่มทะลุฟ้า

ต่อมาทนายความที่ติดตามไปที่ สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งว่ารถถูกนำไปที่ สน.ดินแดง เมื่อติดตามไปก็พบว่าตำรวจได้เริ่มทำบันทึกการตรวจยึดรถยนต์เครื่องเสียงคันดังกล่าว พร้อมอุปกรณ์เครื่องขยายเสียง ไว้เป็นของกลาง อ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการชุมนุม #ม็อบ10สิงหา

ตำรวจอ้างในบันทึกตรวจยึดว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่แยกดินแดง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม และพบว่ามีรถยนต์คันดังกล่าวติดตั้งเครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์ต่างๆ ใช้ในการชุมนุม และรถคันดังกล่าวยังมาร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามรถคันดังกล่าวไปถึงบ้านพัก และพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการชุมนุม ซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จึงได้ร้องขอหมายค้นจากศาล

หลังการตรวจยึด ทางกลุ่มทะลุฟ้าได้ยื่นขอประกันของกลาง โดยใช้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลักประกัน ในวงเงิน 150,000 บาท และพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันรถเครื่องเสียงของกลางไป โดยนัดหมายให้เจ้าของรถเข้ามาสอบคำให้การในวันที่ 17 ส.ค. 64 ต่อไป โดยยังไม่มีการดำเนินคดีผู้ใด

สมาชิกวีโว่ถูกจับกุม ทนายติดตามไปสน.ดินแดง แต่ตร.ไม่ให้พบผู้ถูกจับกว่าชั่วโมง

ในส่วนของการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. ผู้ชุมนุมไม่สามารถเดินไปถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาปิดกั้น ตั้งตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมตรึงกำลังเจ้าหน้าที่บริเวณแยกพาณิชยการ ก่อนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ

ต่อมาเวลาประมาณ 17.50 น. เจ้าหน้าที่ได้เริ่มมีการฉีดน้ำและยิงแก๊สน้ำตา จนทางกลุ่มทะลุฟ้าได้ประกาศยุติการชุมนุม ต่อมาพบว่าได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และได้เกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนติดตามมา

จนเวลาประมาณ 22.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่ามีสมาชิกกลุ่มวีโว่ถูกจับกุมตัว อยู่บนรถควบคุมตัวใกล้ สน.ดินแดง รวมทั้งมีประชาชนที่ถูกจับกุมไปที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ภายในสโมสรตำรวจ อีกจำนวนหนึ่งด้วย ทนายความจึงได้เดินทางติดตามไป

ในส่วนที่ สน.ดินแดง นั้น เวลา 23.20 น. เมื่อทนายความเดินทางไปถึง พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ทนายเข้าพบผู้ถูกจับกุมในห้องสืบสวน อ้างว่าได้จัดทำบันทึกจับกุมจนเสร็จสิ้นไปแล้ว และเจ้าหน้าที่ คฝ. จะพาตัวไปที่ บช.ปส. ต่อไป ให้ติดตามไปที่นั่นแทน

หลังจากรอจนถึงเวลา 00.25 น. และเมื่อมี ส.ส. จากพรรคก้าวไกลเดินทางไปที่สน. เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ยิงอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้อนุญาตให้ทนายความเข้าไปพบผู้ถูกจับกุม โดยพบว่ามีผู้ถูกจับกุม 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกกลุ่มวีโว่ ที่ตำรวจอ้างว่าขับรถที่ตรวจพบหน้ากากกันแก๊ส จึงจับกุมมา และพบว่าตำรวจยังทำบันทึกจับกุมไม่แล้วเสร็จ เหมือนที่กล่าวอ้างในตอนแรก

จากนั้นเวลาประมาณ 01.25 น. หลังทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้น ตำรวจจึงได้นำตัวไปยัง บช.ปส. เนื่องจากพนักงานสอบสวนไปอยู่ที่นั่น

*บรรยากาศที่หน้า สน.ดินแดง ในช่วงดึกวันที่ 16 ส.ค. 64*

สรุปผู้ถูกจับกุม 13 ราย แยกดำเนินคดี 6 คดี คนส่งพิซซ่า-คนส่งของก็โดนด้วย

ภายใน บช.ปส. หลังจากนำตัวผู้ถูกจับกุมจาก สน.ดินแดง ไปถึงแล้ว มีรายงานสรุปจำนวนผู้ถูกจับกุมรวมทั้งหมด 13 ราย ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนทั้งหมด 5 ราย ถูกดำเนินคดีแยกกันรวมเป็น 6 คดี โดยแยกพิจารณาเป็นกลุ่มๆ ได้ดังต่อไปนี้

1. กลุ่มเยาวชน 4 ราย อายุระหว่าง 15-17 ปี เป็นหญิง 1 ราย ถูกจับกุมจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ชุดจับกุมนำโดย ร.ต.ท.ภาณุพงษ์ ทอนศรี รองสารวัตรสอบสวน สน.บางซื่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นาย

ชุดจับกุมอ้างว่าเวลาประมาณ 21.30 น. หลังตำรวจได้สลายการชุมนุมและ “กระชับพื้นที่” การชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ได้พบทั้งสี่คนขับรถจักรยานยนต์ผ่านจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้หยุดรถ เนื่องจากพบว่าเป็นการออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตำรวจจึงได้จับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้พบว่าเยาวชนชายอายุ 17 ปี รายหนึ่ง มีบาดแผลที่รอบคอเหตุจากการถูกจับกุมอีกด้วย

2. หญิงวัย 18 ปี อีก 1 ราย ถูกจับกุมจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หญิงรายนี้เป็นผู้ร่วมขับขี่รถจักรยานยนต์มากับกลุ่มเยาวชน 4 คน พฤติการณ์การจับกุมเป็นเช่นเดียวกับในกรณีแรก แต่เนื่องจากอายุเลยวัยเยาวชน จึงถูกแยกจัดทำบันทึกและกล่าวหาเป็นอีกคดีหนึ่ง

3. เยาวชนชายอายุ 17 ปี ถูกจับกุมบริเวณหน้าซอยสมปรารถนา ถนนประชาสงเคราะห์ 14 ถูกแจ้งข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยมี พ.ต.ท.ปวีร์ มั่นเมือง รองผู้กำกับปราบปราม สน.นางเลิ้ง พร้อมตำรวจอีก 2 นาย เป็นผู้จับกุม ทั้งมีการยึดรถจักรยานยนต์เป็นของกลาง

ตำรวจอ้างว่าหลังการชุมนุมที่แยกนางเลิ้งยุติ ได้มีผู้ชุมนุมมารวมตัวที่แยกดินแดง และมีการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่อยู่เป็นระยะ จนเวลาประมาณ 20.30 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวบริเวณแยกประชาสงเคราะห์ ต่อเนื่องมาจนถึงแยกสามเสนใน ประมาณ 50 คน พร้อมขวางปาสิ่งของ ประทัด และพลุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับคำสั่งให้นำกำลังมาช่วยเจรจา และเข้าตรวจสอบพิสูจน์ทราบบุคคล

จนเวลา 21.30 น. ได้พบเยาวชนรายนี้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนประชาสงเคราะห์ 14 ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุม ทนายความพบว่าเยาวชนรายนี้มีบาดแผลกฟกช้ำจากการถูกจับกุมที่บริเวณหน้าอกและนิ้วมือด้วย

4. ชาย 3 คน อายุระหว่าง 18-21 ปี ถูกจับกุมบริเวณหน้าซอยพุฒิโพธิ์ ถูกแจ้งข้อหาตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยมี พ.ต.ท.ปวีร์ มั่นเมือง รองผู้กำกับปราบปราม สน.นางเลิ้ง พร้อมตำรวจอีก 2 นาย เป็นผู้จับกุม ทั้งมีการยึดรถจักรยานยนต์ของแต่ละคนเป็นของกลาง

ตำรวจอ้างพฤติการณ์เช่นเดียวกับกรณีเยาวชนอายุ 17 ปี ว่าจับกุมชายกลุ่มนี้ในเวลาประมาณ 21.30 น. โดยได้ขับรถจักรยานยนต์พร้อมส่งเสียงดังก่อกวนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เข้าจับกุม

ต่อมา ทนายความได้ทราบข้อมูลว่าผู้ถูกจับกุมในกลุ่มนี้ 2 ราย เป็นพนักงานส่งพิซซ่าของร้านพิซซ่าในบริเวณดังกล่าว ระหว่างถูกจับกุมยังอยู่ในชุดคนส่งพิซซ่า ไม่ใช่ผู้เข้าร่วมการชุมนุมแต่อย่างใด

5. ชาย 3 คน ถูกจับกุมบริเวณถนนมิตรไมตรี ถูกแจ้งข้อหาตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยมี พ.ต.อ.ฐิติวุธ ร่องแก้ว รองผู้กำกับปราบปราม สน.บางยี่ขัน พร้อมตำรวจอีก 4 นายเป็นชุดจับกุม

ตำรวจอ้างว่าช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 200 คนมารวมตัวกันบนถนนมิตรไมตรี หน้าสน.ดินแดง มีการขว้างปาสิ่งของ พลุ และประทัด เข้ามาภายในพื้นที่สถานีตำรวจ ผู้กำกับสน.ดินแดง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และขอกำลังสนับสนุน โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวได้นำกำลังเข้ามาช่วยรักษาสถานที่ทำการของ สน.ดินแดง

จนเวลาประมาณ 21.30 น. ได้พบชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนมิตรไมตรี จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่อ้างว่าได้พบปืนบีบีกัน 1 อัน ในรถจักรยานยนต์ของชายอายุ 24 ปี จึงทำการจับกุม

ชุดจับกุมกลุ่มเดียวกันนี้ ในเวลา 21.30 น. เช่นเดียวกัน ยังพบชายวัย 32 ปี ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นสมาชิกกลุ่มการ์ดวีโว่ นั่งอยู่ภายในรถยนต์กระบะบนถนนมิตรไมตรี จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ และตรวจค้นรถ ตำรวจอ้างว่าได้พบค้อน 1 อัน, หมวกกันกระแทก 1 อัน, หน้ากากกันแก๊ส 2 อัน ในรถคันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเกี่ยวโยงกับผู้ชุมนุม จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและจับกุมดำเนินคดี

นอกจากนั้น ชุดจับกุมกลุ่มเดียวกันนี้ ในเวลา 21.20 น. ระหว่างชุดจับกุมนำกำลังเข้าช่วยรักษาสน.ดินแดง พบกลุ่มคนยืนตะโกนด่าตำรวจอยู่บนถนนประชาสงเคราะห์ ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ และพบชายวัย 24 ปี วิ่งหลบหนีอยู่ จึงเข้าทำการตรวจค้น และได้พบอาวุธมีดยาวประมาณ 9 นิ้ว ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและจับกุมดำเนินคดี

เฉพาะกรณีชายคนสุดท้ายที่นอกจากถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังถูกตำรวจแจ้งข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท

6. ชายวัย 21 ปี ถูกจับกุมบริเวณถนนมิตรไมตรี ถูกแจ้งข้อหาตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ โดยชุดจับกุมเดียวกับในกรณีก่อนหน้านี้

ตำรวจอ้างว่าในช่วงเวลา 22.17 น. ได้พบชายคนนี้ขับรถจักรยานยนต์มาบริเวณแนวของตำรวจหน้า สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้น และพบมีดพับ 1 เล่ม ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักหน้ารถ จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและจับกุมดำเนินคดี

ต่อมา ทนายความทราบเพิ่มเติมจากผู้ต้องหารายนี้ ว่าเป็นพนักงานส่งของของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ในแฟลตหลัง สน.ดินแดง อยู่ระหว่างกำลังขับรถกลับบ้านหลังเลิกงงาน แต่ระหว่างมีเหตุปะทะกันในช่วงก่อนเคอร์ฟิว ทางครอบครัวได้โทรแจ้งว่าอย่าเพิ่งกลับเข้ามา เนื่องจากเกรงอันตราย เขาจึงรอจนเหตุการณ์สงบลง หลัง 22.00 น. แล้ว จึงเดินทางจะกลับเข้าแฟลต แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นและจับกุม

พ.ต.ท.สุรพล จันทร์สมศักดิ์ พนักงานสอบสวนจาก สน.ดินแดง ยังได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของผู้ถูกจับกุม 10 ราย จาก 13 รายดังกล่าว แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อหาที่ถูกกล่าวหา โดยได้จัดทำเป็นบันทึกการตรวจยึดไว้

หลังการสอบสวนใน บช.ปส. ในเวลา 03.15 น. ส่วนของเยาวชน 5 ราย พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวกลับ พร้อมกับผู้ปกครอง และนัดหมายให้ไปตรวจสอบการจับกุมที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณ 14.00 น.

ส่วนที่เป็นผู้ใหญ่อีก 8 ราย ถูกควบคุมตัวไว้ภายใน บช.ปส. โดยตำรวจจะนำตัวไปขอฝากขังในวันรุ่งขึ้นต่อไป

ตร.ค้านประกันตัว แต่ศาลให้ประกัน ไม่ต้องวางหลักทรัพย์

วันที่ 17 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 11.00 น. ร.ต.อ.พิเชษฐ กัดฟัก พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้นำตัวผู้ถูกจับกุม 8 ราย ไปขอฝากขังที่ศาลแขวงพระนครเหนือ โดยอ้างว่ายังการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ยังต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก นอกจากนั้น พนักงานสอบสวนยังคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยอ้างว่ามีพฤติการณ์กระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ทั้งยังไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม ในภาวะที่เกิดการระบาดของโรคติดต่อโควิด-19

ผู้ต้องหาบางรายยังถูกคัดค้านการประกันตัว โดยพนักงานอ้างเพิ่มเติมในเรื่องพฤติการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เผาทำลายทรัพย์สินราชการ จึงเกรงว่าหากปล่อยตัวชั่วคราว เชื่อว่าจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก

ต่อมาเวลา 13.00 น. ศาลอนุญาตให้ฝากขังตามคำขอของพนักงานสอบสวน แต่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัว ทั้ง 8 คน และมีการกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก

ศาลแขวงพระนครเหนือกำหนดนัดรายงานตัวผู้ต้องหาต่อไปในวันที่ 16 กันยายน 64 เวลา 09.00 น.

ขณะที่ในส่วนของผู้ถูกจับกุมที่เป็นเยาวชน 5 ราย ได้เดินทางไปที่ศาลเยาวชนฯ พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบการจับกุม พนักงานสอบสวนยังได้ยื่นขอออกหมายควบคุมตัวเยาวชน และคัดค้านการประกันตัว โดยระบุเหตุในลักษณะเดียวกับคดีของผู้ใหญ่

ต่อมาศาลมีความเห็นว่าการจับกุมเป็นไปโดยชอบ อนุญาตให้ออกหมายควบคุม แต่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเยาวชนทั้งหมด โดยไม่ต้องวางหลักประกัน โดยนัดให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติที่สถานพินิจฯ บางนา ในวันที่ 24 สิงหาคม ต่อไป