วานนี้ (11 ส.ค. 64) จากกรณีการนัดหมายชุมนุม #ม็อบ11สิงหา บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ของกลุ่มทะลุฟ้า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานกรณีประชาชนถูกจับกุมอย่างน้อย 17 ราย (เป็นผู้ใหญ่ 15 ราย และเยาวชน 2 ราย) ในระหว่างและภายหลังการชุมนุม โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ภายในสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต และมีทนายความติดตามไป
สำหรับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมจากบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 13 ราย เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี 1 ราย ถูกแจ้งข้อหา 4 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน, ข้อหาชุมนุมมั่วสุมตั้งแต่สิบคนใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายฯ และข้อหาเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกและไม่เลิก
ส่วนเยาวชนชายอายุ 15 ปี 1 ราย ถูกจับกุมจากบริเวณหน้ากรมการแพทย์ทหารบก และถูกนำตัวไปภายใน บช.ปส. ก่อนถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกจากเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว
ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกจับบริเวณถนนดินแดงภายหลังการชุมนุม จำนวน 3 ราย ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการชุมนุมมั่วสุม และการออกจากเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว
ในวันนี้ (12 ส.ค.) เยาวชน 2 รายที่ถูกจับที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหน้ากรมการแพทย์ทหารบก ได้ถูกพนักงานสอบสวนนำตัวไปตรวจสอบการจับกุมที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ต่อมาศาลเห็นว่ามีการจับกุมโดยชอบ แต่อนุญาตให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักประกัน มีเงื่อนไขให้มารายงานตัวต่อศาลตามนัด หากผิดนัดหมายให้ปรับผู้ปกครองครั้งละ 5,000 บาท พร้อมกำหนดนัดพบพนักงานคุมประพฤติที่สถานพินิจฯ ธนบุรี ต่อไปในวันที่ 18 ส.ค. 64
ขณะที่ผู้ถูกจับกุมที่เป็นผู้ใหญ่อีก 15 ราย จะถูกควบคุมตัวไว้ภายใน บช.ปส. อีกหนึ่งคืน และพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปขอศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค. 64)
.
กวาดจับผู้ชุมนุม 17 ราย เป็นเยาวชน 2 ราย หลังยุติ #ม็อบ11สิงหา ก่อนแจ้งข้อหาหลัก “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”
+++ กลุ่มที่ 1: ถูกจับที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 13 ราย +++
ในกลุ่มนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 13 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 2 ราย และเยาวชนชาย 1 ราย รวมทั้งนางวรวรรณ แซ่อั้ง ซึ่งรู้จักกันในนาม “ป้าเป้า” ผู้เข้าร่วมชุมนุมมาอย่างต่อเนื่อง การจับกุมส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ตั้งแต่การชุมนุมกำลังจะเริ่มขึ้น และระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้ายึดพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมขึ้น ทั้งหมดถูกนำตัวไปยัง บช.ปส. โดยมีพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เป็นผู้รับผิดชอบคดี
บันทึกจับกุมระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ร้อย 1 นำโดย พ.ต.ท.ฐิติวุธ ร่อนแก้ว รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.บางยี่ขัน และ พ.ต.ท.สมเกียรติ อภัยนอก สารวัตรปราบปราม สน.บางขุนนนท์ พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 7 นาย
บรรยายพฤติการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้รับคําสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า วันที่ 11 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดหมายกันทางสื่อโซเชียลมีเดีย นัดทํากิจกรรม “ไล่ล่าทรราช” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ การจัดกิจกรรมดังกล่าวขวางการจราจรจนทําให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนชุดจับกุมจึงได้นำกําลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจํานวน 1 กองร้อย มาที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เมื่อนํากําลังมาถึงบริเวณดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินปรี่เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงได้ตั้งแนวเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเพื่อจะกระชับพื้นที่ ซึ่งระหว่างที่มีการตั้งแนวของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนนั้น ผู้ชุมนุมได้ขว้างปาสิ่งของ ใช้หนังสติ๊กยิงลูกเหล็ก และปาระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนอย่างต่อเนื่อง
จากนั้น เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงได้ประกาศว่าให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมและให้แยกย้ายกันกลับ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยุติการชุมนุมและยังคงขว้างปาสิ่งของ ใช้หนังสติ๊กยิงลูกเหล็ก และปาระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจควบคุมฝูงชน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงได้รับคําสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าทำการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว ตํารวจควบคุมฝูงชนจึงได้ทําการกระชับพื้นที่และเข้าทําการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 13 ราย ซึ่งชุมนุมอยู่ที่บริเวณที่เกิดเหตุ
.
.
ทั้ง 13 คน ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีจํานวนรวมกันมากกว่า 5 คน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศกําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
2. “ร่วมกันทําร้ายเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธหรือโดยร่วมกระทําความผิดด้วยกัน 3 คน ขึ้นไป”
3-4. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216 “มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กําลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือกระทําการอย่างหนึ่งอยู่ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้มั่วสุมให้เลิกไปแต่ไม่เลิก”
ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม และให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุมและสอบสวน โดยจะยื่นคำให้การเป็นเอกสารในภายหลังต่อไป
โดยในวันนี้ (12 ส.ค.) พนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหารายหนึ่งที่เป็นนักศึกษาในชั้นสอบสวนไป โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 50,000 บาท เนื่องจากมีภารกิจต้องไปสอบในวันนี้
ทั้งนี้ พบว่าผู้ถูกจับกุมบางรายได้รับบาดเจ็บ ข้อศอกซ้ายถลอก มีรอยช้ำที่แขน และมีอีก 2 รายปวดเมื่อยตัว โดยบอกเล่าว่า เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้เข้าใช้กำลังตอนจับกุม ทำให้ปวดแขนและตัว
.
+++ กลุ่มที่ 2: จับผู้ชุมนุม 3 ราย ที่ถนนดินแดง +++
ในกลุ่มนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาย 3 ราย ถูกจับกุมเวลาประมาณ 21.25 น. บริเวณถนนดินแดง ระหว่าง ทางเข้าถนนมิตรไมตรีถึงศูนย์การศึกษาพิเศษส่วนกลาง ทั้งหมดถูกนำตัวไปยัง สน.ดินแดง เพื่อทำบันทึกจับกุมก่อน และแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืน “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” ก่อนถูกนำตัวมาควบคุมที่ บช.ปส. ในช่วงเวลาประมาณ 24.00 น.
บันทึกจับกุมระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย ร.ต.อ.สมเกียรติ คําพจน์ ผู้บังคับหมวด และ ส.ต.อ.สุพัฒชัย นวลศรี ผู้บังคับหมู่กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 4 นายร่วมกันจับกุม
พฤติการณ์การจับกุม ตำรวจระบุว่า หลังกลุ่มทะลุฟ้าประกาศยุติการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมก่อเหตุวุ่นวายหลายจุด มีการวางเพลิงรถยกของ สน.ดินแดง และทําลายตู้จราจร โดยหลังเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม และเข้ากระชับพื้นที่บริเวณถนนดินแดงระหว่างใต้ด่วนดินแดงถึงแยกประชาสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมพบผู้ต้องหา 3 ราย ร่วมชุมนุมอยู่ที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งทั้งสามพยายามวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่สามารถติดตามผู้ต้องหาทั้งสามได้ทันที่บริเวณถนนดินแดง
ตำรวจอ้างว่าได้สอบถามผู้ต้องหา ทั้งสามรับว่าได้มาร่วมกันชุมนุม จึงจับกุมและตรวจค้นตัวผู้ต้องหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง โดยผู้ต้องหาปฎิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาว่าทั้งสามได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนร่วมกันมากกว่า 5 คน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศกําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทํากิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร์โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม
ในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค. 64) สำหรับชุดที่ถูกจับกุมที่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัย พนักงานสอบสวน สน.พญาไท เตรียมยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ส่วนชุดที่ถูกจับกุมที่บริเวณถนนดินแดง พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง เตรียมยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลแขวงพระนครเหนือ
.
+++ กลุ่มที่ 3: เยาวชน ถูกจับอีก 1 รายบริเวณหน้ากรมการแพทย์ทหารบก +++
สำหรับเยาวชนชายอีก 1 ราย อายุ 15 ปี ถูกจับกุมเวลาประมาณ 21.10 น. บริเวณหน้ากรมการแพทย์ทหารบก ก่อนถูกนำตัวไปยัง บช.ปส. เพื่อทำบันทึกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาหลักฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยในคดีนี้มีพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เป็นผู้รับผิดชอบ
บันทึกจับกุมบรรยายพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่เจ้าพนักงานตํารวจนำโดย ด.ต.ประเสริฐ มอญกระโทก ผบ.หมู่กองร้อยที่ 1 กก.คฝ.1 ได้ยืนประจําจุดหลังสลายการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้พบผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณหน้ากรมการแพทย์ทหารบก ซึ่งเป็นการออกนอกเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เจ้าพนักงานตํารวจจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจําเป็นอื่นๆ จากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่”
.
ในช่วงเช้าวันนี้ (12 ส.ค. 64) พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน 2 ราย ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุม ต่อมา ศาลมีคำสั่งว่า การจับกุมชอบด้วยกฎหมาย ก่อนผู้ปกครองยื่นขอปล่อยชั่วคราว
จนกระทั่งเวลา 15.00 น. ศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยไม่ต้องมีหลักประกัน แต่หากผิดนัดหมายให้ปรับผู้ปกครองครั้งละ 5,000 บาท กำหนดนัดอีกครั้งวันที่ 18 ส.ค. 64 เวลา 08.30 น. เพื่อพบพนักงานคุมประพฤติที่สถานพินิจฯ ธนบุรี
.
สำหรับการชุมนุม #ม็อบ11สิงหา หรือ กิจกรรม “ไล่ล่าทรราช” จัดโดยกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กรมทหารราบที่ 1 เพื่อเรียกร้องให้ลาออก
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการปราศรัยโจมตีรัฐบาล ต่อด้วยกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เผาศาลพระภูมิและหุ่นจำลองของ “ชนาธิป เหมือนพะวงศ์” รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ที่มักมีคำสั่งไม่ให้ประกันผู้ต้องขังทางการเมือง
หลังกลุ่มทะลุฟ้าประกาศตั้งขบวน ไม่ถึง 10 นาที เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้เข้าควบคุมสถานการณ์ด้วยการยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และกวาดจับผู้ชุมนุม จนต่อมาเวลา 15.55 น. กลุ่มทะลุฟ้าประกาศยุติการชุมนุมหลังเริ่มกิจกรรมได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง
หลังการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางด้านผูุ้ชุมนุมบางส่วนได้มุ่งหน้าไปยังถนนวิภาวดี แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้คอนเทนเนอร์ปิดกั้นถนนวิภาวดีช่วงบริเวณแยกดินแดง และมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนบนทางด่วนดินแดง เจ้าหน้าที่ยังคงใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตายิงลงมาใส่ผู้ชุมนุมด้านล่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ชุมนุมถอยร่นกลับไป จนกระทั่งเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่เข้ากระชับพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยมีผู้ถูกจับกุมบริเวณถนนดินแดง จำนวน 3 ราย และมีเยาวชนถูกจับกุม บริเวณกรมแพทย์ทหารบก อีก 1 ราย
ผู้ถูกจับหลายรายมีบาดแผลจากการถูกทำร้าย ทั้งแผลจากการถูกกระบองของเจ้าหน้าที่ตี หรือบางรายถูกกระสุนยาง
.