คดีชุมนุม 24 มิ.ย. ราษฎรยืนยันดันเพดาน ตร.แจ้งข้อหาประชาชนแล้ว 7 ราย จาก 33 ราย อ้างฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

วันนี้ (5 ส.ค. 64) ที่ สน.สำราญราษฎร์ เวลา 10.00 น. โชคดี ร่มพฤกษ์ สมาชิกกลุ่มศิลปินราษฎร, มณฑา แสงเปล่ง, พัชรดนัย ระวังทรัพย์ และประชาชนอีก 2 คน เดินทางไปพบ ร.ต.อ. โยธี เสริมสุขต่อ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมชุมนุม “ราษฎรยืนยันดันเพดาน 89 ปี การอภิวัฒน์สยาม” ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและรัฐสภา ในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา “ต๋ง” สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า และ กัลยกร สุนทรพฤกษ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้เดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีเดียวกันไปแล้ว 

ก่อนหน้านี้นักกิจกรรมหลายรายทยอยได้รับหมายเรียก โดยหมายระบุว่าคดีมี พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล กับพวก เป็นผู้กล่าวหา จากการตรวจสอบพบว่าตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้เข้าร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวถึง 34 คน โดยต่อมายังทราบว่าหนึ่งในผู้ได้รับหมายเรียกเป็นสมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว ที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมชุมนุมดังกล่าวแต่อย่างใด ทำให้ตำรวจแจ้งว่าเป็นการออกหมายผิด ทำให้เหลือผู้จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด 33 ราย ซึ่งได้กำหนดทยอยเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา

สำหรับผู้เข้ารับทราบข้อหา 7 รายแรกดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้บรรยายพฤติการณ์คดีว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 กลุ่มผู้ต้องหาได้มาร่วมกิจกรรมใช้ชื่อว่า “ราษฎรยืนยันดันเพดาน รําลึกครบรอบ 89 ปี การอภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องจนถึงรัฐสภา เกียกกาย โดยมีวัตถุประสงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ และยืนยันข้อเรียกร้องดันเพดานเดิม 

พนักงานสอบสวนได้บรรยายกิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนั้น ได้แก่ การติดป้ายผ้าที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, เล่นดนตรี, อ่านประกาศคณะราษฎร (ฉบับที่ 1), และจุดเทียนรําลึกครบรอบ 89 ปี 24 มิถุนายน 2475 โดยกิจกรรมได้เสร็จสิ้นเวลา 06.15 น. และได้มีการนัดหมายกันอีกครั้งในเวลา 10.00 น. เพื่อเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปที่รัฐสภาและยื่นหนังสือแสดงจุดยืนข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 

พนักงานสอบสวนได้ระบุพฤติการณ์กระทำผิดของผู้ต้องหาแต่ละคน โดยโชคดี, มณฑา และผู้ต้องหาอีกรายได้ร่วมกันเล่นดนตรีและร้องเพลง ต๋ง, พัชรดนัย และผู้ต้องหารายหนึ่ง ได้ร่วมกันอ่านประกาศคณะราษฎร ส่วนกัลยกรได้อ่านประกาศจดหมายเปิดผนึกหน้าเวทีชั่วคราวหน้าอาคารรัฐสภา เกียกกาย และชูสามนิ้ว 

พนักงานสอบสวนระบุว่า ในการชุมนุมดังกล่าว มีประชาชนจํานวนมากยืนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นการแออัด ก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นต้นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคเผยแพร่ระบาด นอกจากนั้น ผู้จัดการชุมนุมยังไม่ได้จัดให้มีมาตรการในการป้องกันโรคติดต่อไม่มีการเว้นระยะห่างให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเป็นการกระทําผิดกฎหมาย 

ดังนั้น พนักงานสืบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ใน 4 ข้อหาเหมือนกัน ได้แก่ ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดและประกาศออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการห้ามชุมนุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 “ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ”, ร่วมกันตั้งวางสิ่งของกีดขวางการจราจร และร่วมกันเดินแถวหรือเดินขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ  

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังแจ้งข้อกล่าวหาอื่น ๆ กับต๋งและกัลยกร ในอีก 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ร่วมกันติดตั้งหรือตากวางสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493

นอกจากข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี แล้ว ข้อหาอื่นๆ จะมีอัตราโทษปรับ

ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งเจ็ดได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยต๋งและกัลยกรจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือในวันที่ 19 สิงหาคม ส่วนโชคดี, มณฑา, พัชรดนัย และประชาชนอีก 2 คน จะยื่นคำให้การเพิ่มเติมในวันที่ 20 สิงหาคม 

อนึ่ง กิจกรรมชุมนุม “ราษฎรยืนยันดันเพดาน 89 ปี การอภิวัฒน์สยาม” เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 จัดขึ้นโดยกลุ่มราษฎร ในวันนั้นมีการปราศรัยสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงการร่างรัฐธรรมนูญที่ยุติการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะ และสามารถแก้ไขได้โดยไม่มีข้อยกเว้นในหมวดใด รวมถึงยืนยันข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กิจกรรมยังมีการจำลองหมุดคณะราษฎร, กิจกรรมจุดเทียนรำลึกถึงการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง และการอ่านแถลงการณ์ของคณะราษฎรร่วมกัน

ขณะที่ในวันดังกล่าว ยังมีการจัดกิจกรรมโดยอีกหลากหลายกลุ่มทั้งในช่วงเช้า กลางวัน และเย็น โดยมีรายงานการออกหมายเรียกดำเนินคดีแต่ละกลุ่มอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

.

X