วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน นัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัว นายประสงค์ โคตรสงคราม เป็นครั้งที่ 4 ในคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความวิจารณ์กษัตริย์บนเฟซบุ๊กจำนวน 3 ข้อความ และไม่ได้รับการประกันตัวมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 64 ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยื่นขอประกันตัวมาแล้ว 3 ครั้ง ในวันที่ 9, 11, 12 ก.ค. 2564 โดยศาลไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว อ้างเหตุพฤติการณ์ในคดีร้ายแรง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
สำหรับคดีนี้ ประสงค์ถูกจับกุมมาจากบ้านพักในจังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 ตามหมายจับในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก่อนถูกนำตัวไปแจ้งข้อหาที่ สน.บางพลัด ในกรุงเทพฯ ประสงค์ถูกกล่าวหาว่าแชร์และโพสต์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์จำนวน 3 ข้อความ โดยมีนายฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ ชายที่เคยเป็นข่าวได้รับคำชมจากกษัตริย์รัชกาลที่ 10 ว่า “กล้ามาก กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” เป็นผู้กล่าวหา
จากนั้นในวันที่ 9 ก.ค. พนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังประสงค์ต่อศาลอาญาตลิ่งชัน และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทำให้ประสงค์ถูกส่งไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย จ.นครปฐม ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 เป็นเวลา 21 วัน โดยอ้างมาตรการกักตัวเรื่องโควิด และจนถึงวันนี้ยังถูกคุมขังที่เรือนจำดังกล่าว เหตุที่ขยายระยะเวลาออกไป เนื่องจากพบว่ามีผู้ต้องขังในห้องกักกันโรค ที่ประสงค์ถูกควบคุมตัวอยู่ด้วย ติดโควิด-19
++ ศาลให้ประกัน “ประสงค์” หลังยื่นขอประกันครั้งที่ 4 ทำให้เขาถูกคุมขังระหว่างชั้นสอบสวนรวม 27 วัน ++
เวลา 10.00 น. ศาลได้ทำการไต่สวนคำร้องขอประกันตัวผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยประสงค์ติดต่อมาจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย และพยานสองคน ได้แก่ นางสุปราณี มารดา และนายเอกราช แก้วเสมา อดีตผู้สมัครผู้แทนราษฎรเขต 1 จังหวัดลพบุรี สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ติดต่อมาจากบ้านพักในจังหวัดลพบุรี
ประสงค์แถลงต่อศาลว่า การถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่บ้านพักเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ตนไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน การถูกจับกุมมาจากการออกหมายจับ เพราะเป็นคดีที่มีโทษเกิน 3 ปี และขณะถูกจับกุมตนพักอยู่ที่บ้านกับมารดาใน จ.ลพบุรี อีกทั้งไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนต่อการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉะนั้นตนจึงไม่มีพฤติการณ์หลบหนีแต่อย่างใด
จากนั้น นายเอกราช แถลงว่าตนเป็นอดีตผู้สมัครผู้แทนราษฏรเขต 1 ของจังหวัดลพบุรี ในสังกัดพรรคอนาคตใหม่ และปัจจุบันเป็นสมาชิกของพรรคก้าวไกล ขณะนี้ทำงานเกี่ยวกับการเมืองในจ.ลพบุรี ยังคงมีปฏิสัมพันธ์อันดีกับประชาชนในพื้นที่จ.ลพบุรี ยินดีให้ศาลแต่งตั้งเป็นผู้กำกับดูแลประสงค์
นางสุปราณีแถลงต่อศาล ตนเป็นมารดาโดยพฤตินัยของประสงค์มาตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน ขณะประสงค์ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุมที่บ้านพักตนได้อยู่ด้วย และได้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในบันทึกจับกุมด้วย แถลงว่ายินดีเป็นผู้กำกับดูแลของประสงค์
“นอกจากประสงค์ก็ไม่มีใครที่ไหนคอยดูแลแล้ว ตอนนี้ป่วยเป็นโรคนิ่วในไต ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ต้องกินยาตลอดเวลา หากประสงค์กลับมาอยู่ด้วยจะได้ให้พาไปหาหมอ” สุปราณีพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นและมีน้ำตาบางช่วง
หลังจากการไต่สวน เวลา 12.30 น. ศาลได้มีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงได้เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิดมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า วันนี้ (4 สิงหาคม 2564) มียอดผู้ติดเชื้อในประเทศจำนวน 20,200 คน และเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวประสงค์ โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท พร้อมด้วยเงื่อนไขติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ห้ามกระทำการใดๆ ที่จะสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ศาลยังได้แต่งตั้งนายเอกราช แก้วเสมา สมาชิกพรรคก้าวไกล เป็นผู้กำกับดูแลของประสงค์
สำหรับหลักทรัพย์ประกันตัวจำนวน 100,000 บาท เป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวประสงค์จากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย จ.นครปฐม ไปยังเรือนจำธนบุรี เพื่อทำการปล่อยตัวภายในเย็นวันนี้ และจะต้องเดินทางไปติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ที่ศาลอาญาตลิ่งชันภายในวันพรุ่งนี้ต่อไป
รวมแล้ว ประสงค์ถูกคุมขังระหว่างชั้นสอบสวนอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อยทั้งหมด 27 วัน โดยมีการยื่นขอประกันตัวรวมทั้งหมด 4 ครั้ง กระทั่งศาลให้ประกันตัว
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
บันทึกทนายเยี่ยม “ประสงค์” ผู้ต้องขัง ม.112 : ผมอยากกลับบ้านไปกินข้าวกับแม่แล้ว