ฝ่ายกฎหมาย AIS เบิกความผลตรวจเลข IPในคดีหนูหริ่งโพสต์ชวนชูสามนิ้ว

ศาลทหารนัดสืบพยานฝ่ายกฎหมายจากบริษัท AIS ประเด็นการตรวจสอบหมายเลข IP ในคดีหนูหริ่ง โพสต์ชวนชู 3 นิ้วต้านรัฐประหาร หลังสืบเสร็จศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากถัดไป 5 เมษายนปีนี้

วันนี้(17ม.ค.2560) ศาลทหารมีนัดสืบพยานคดีของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ‘หนูหริ่ง’ นักกิจกรรมรณรงค์ประชาธิปไตย ที่ตกเป็นจำเลยในคดีโพสต์ชวนชู 3นิ้วต่อต้านการรัฐประหารของ คสช. ถูกฟ้องในข้อหาปลุกปั่นยุยง ตามมาตรา116และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จมาตรา14พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พยานที่มาเป็นฝ่ายกฎหมาย ของบริษัท AIS เบิกความในประเด็นการตรวจสอบหมายเลข IP address

พยานเบิกความตอบอัยการทหารสรุปได้ว่าพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ส่งหนังสือราชการขอให้มีการตรวจสอบหมายเลข IP จำนวนสองหมายเลข โดยทั้งสองหมายเลขปรากฏชื่อของนายอนุชา(สงวนนามสกุล) จากการตรวจสอบพบว่ามีการใช้งานจากบ้านหลังหนึ่งในอ.พานทอง จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ทนายความจำเลยได้ถามในประเด็นขั้นตอนการรับเรื่องจาก ปอท. และการตรวจสอบ พยานเบิกความตอบทนายความว่า การตรวจสอบหมายเลข IP ทำได้จากการดูที่เว็บไซต์ปลายทางที่ผู้ใช้บริการอินเตอร์เนตเข้าไปใช้ แต่ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้ระบุว่าได้หมายเลข IP มาได้อย่างไรเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน เขาได้รับเพียงแต่หมายเลข IP มาให้ทางบริษัทตรวจสอบเท่านั้น

พยานเบิกความต่อว่าในการตรวจสอบเป็นการตรวจสอบจากจุดติดตั้งของเสาสัญญาณอินเตอร์เนต ส่วนหมายเลข IPจะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการเชื่อมต่อ แต่เขาไม่ทราบว่าในการซ่อนหมายเลข IP ต้องใช้เว็บไซต์หรือวิธีการใด ส่วนหมายเลข IP ทั้งสองที่ตรวจสอบพบว่าเป็นของนายอนุชา

ทนายความได้ถามว่าทางพนักงานสอบสวนทราบแต่แรกแล้วว่าหมายเลข IP ทั้งสองหมายเลขเป็นของนายอนุชาใช่หรือไม่ พยานตอบว่าเขาไม่ทราบต้องไปถามพนักงานสอบสวนแต่ในเอกสารที่พนักงานสอบสวนส่งมาระบุว่าเป็นหมายเลข IP นายอนุชา ทนายความจึงถามต่อว่าหากไม่ใช่ผู้ให้บริการ พนักงานสอบสวนสามารถหาที่อยู่ของผู้ใช้บริการจากเลข IP ได้หรือไม่ พยานตอบว่าเขาไม่ทราบเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนรู้ชื่อที่อยู่ตามหมายเลข IP อยู่แล้วแต่ก็ยังส่งมาให้ตรวจสอบ

พยานเบิกความตอบทนายอีกว่าผลการตรวจสอบที่ส่งให้พนักงานสอบสวนนั้นเขาไม่ทราบว่าในการตรวจสอบใช้โปรแกรมอะไรในการตรวจสอบ เนื่องจากเมื่อทางพนักงานสอบสวนทำหนังสือมาถึงเขาได้ส่งต่อให้ฝ่ายเทคนิกไปตรวจสอบต่อ อีกทั้งเขาก็ไม่ทราบว่าใครในแผนกเป็นคนตรวจสอบเพราะเขาได้ส่งอีเมล์เข้าเมล์แอดเดรสกลางของแผนก ฝ่ายเทคนิกจะมีการกระจายงานให้ใครเป็นคนตรวจสอบนั้นพยานไม่ทราบ

ทนายความถามถึงนโยบายการเก็บรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าของบริษัท AIS เป็นอย่างไร พยานเบิกความว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ยกเว้นมีการทำหนังสือคำร้องจากหน่วยงานราชการ หากเจ้าหน้าที่ขอข้อมูลโดยไม่มีหมายเรียกก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้

ทนายความถามพยานอีกว่าผลการตรวจสอบไม่พบความเชื่อมโยงกับนายสมบัติซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ใช่หรือไม่ พยานตอบว่าใช่ ในการตรวจสอบพบว่ามีการใช้เฟซบุ๊กผ่านหมายเลข IP เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2557 ในเวลา 17.05น. ชื่อเฟซบุ๊กที่ใช้เป็นชื่อนายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล)

ทนายความต่อว่าจากการทำงานเป็นฝ่ายกฎหมายของพยาน จุดมุ่งหมายของพนักงานสอบสวนที่ให้ทำการตรวจสอบหมายเลข IP คือการตรวจสอว่าใครเป็นผู้ใช้งานและที่อยู่ใช่หรือไม่ พยานตอบว่าการตรวจสอบเพื่อทราบชื่อของลูกค้าที่ขอใช้บริการ ซึ่งที่อยู่จะเป็นไปตามที่ลูกค้าแจ้งเพื่อให้ทางบริษัทเข้าไปติดตั้งเสารับสัญญาณ ซึ่งจะทราบบ้านเลขที่ที่มีการใช้งานและเป็นที่อยู่ของลูกค้าที่จะส่งใบเรียกเก็บค่าบริการไปให้

ทั้งนี้ในวันนี้อัยการทหารได้ส่งหมายถึงพยานสองปากแต่เนื่องจากไม่สามารถส่งหมายถึงพยานอีกปากได้จึงมีการสืบเพียงปากเดียวแต่อัยการยังติดใจที่จะสืบพยานอีกปากหนึ่งอยู่จึงขอเลื่อนออกไปในนัดหน้า ศาลได้นัดสืบพยานอีกในวันที่ 5 และ 24เม.ย.2560

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

สืบพยานโจทก์ “คดีหนูหริ่ง ม.116” พยานเผยแจ้งหมายจับจำเลยที่ค่ายทหาร

ตำรวจปอท.ขึ้นเบิกความคดีม.116ของ บก.ลายจุด พบข้อความชวนชูสามนิ้วแค่ข้อความเดียว

ตรวจพบแค่ข้อความชวนชู 3 นิ้ว สืบพยานโจทก์คดี บก.ลายจุดโพสต์ต้านรัฐประหาร

X