แจ้งเพิ่มอีก! ข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุชุมนุม 29 ก.ค. ที่ท่าน้ำนนท์ฯ ปีที่แล้ว

วันนี้ (14 ก.ค. 64) ที่สภ.เมืองนนทบุรี ปาริชาติ เลิศอัคระรัตน์ เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต” เพิ่มเติม จากการเข้าร่วมการชุมนุม #เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63  เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอกที่ประกาศในการชุมนุม 18 ก.ค. 63

กิจกรรมครั้งนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ ปาริชาติ เลิศอัคระรัตน์, ศศณัฐ เจริญราษฎร สองอดีตสมาชิกกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท และ “ไบรท์” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี โดยทั้งหมดได้ทยอยรับทราบข้อกล่าวหาหลัก “ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. และ 8 ธ.ค. 63  

หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนได้เรียกเฉพาะศศณัฐไปแจ้งข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 63

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาแก่พนักงานอัยการ สำนักอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 64 ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสามยังได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ขอให้พนักงานอัยการไม่ฟ้องคดี เนื่องจากไม่เป็นประโยชนต่อสาธารณะ โดยยืนยันว่าการชุมนุมในวันดังกล่าวนั้นถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอันได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และกติการระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR) 

ต่อมา พนักงานอัยการตีกลับสำนวนการสอบสวนให้พนักงานสอบสวนประสานงานแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค. 64) และเรียกให้เฉพาะปาริชาติเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ 

การแจ้งข้อหาครั้งนี้ มี พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา เป็นผู้บรรยายพฤติการณ์คดีและแจ้งข้อกล่าวหาโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 64 เวลา 15.00 น. ถึงประมาณ 19.50 น. ปาริชาติได้ร่วมกันจัดการชุมนุมบริเวณลานกิจกรรมท่าน้ำนนทบุรี โดยปาริชาติกับพวกได้ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงในการปราศรัย โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องขยายเสียง 

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาติ” ตาม พ.ร.บ.ควมคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4

หลังรับทราบข้อหา ปาริชาติได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 20 วัน ด้านพนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้ให้พนักงานอัยการในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค. 64) 

นับตั้งแต่การชุมนุมเยาวชนปลดแอกเมื่อ 18 ก.ค. 63 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีการดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการจัดการชุมนุมแล้วอย่างน้อย 156 คดี โดยมีถึง 30 คดี ที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีไปแล้ว ขณะที่มีเพียง 1 คดี ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ได้แก่ คดีการชุมนุมที่จังหวัดลำปาง

ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรม #เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ Voice TV รายงานว่ากิจกรรมได้มีมาตรการป้องกัน โควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี มาอำนวยความสะดวกตั้งจุดคัดกรอง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความสงบเรียบร้อยกว่า 20 นาย และมีหน่วย EOD ตรวจหาวัตถุระเบิดภายในพื้นที่ด้วย กิจกรรมมีการสลับกันปราศรัยและวิ่งล้อมวงร้องเพลงแฮมทาโร่ พร้อมเปล่งเสียงสอดรับกันด้วยคำว่า “ประยุทธ์…ออกไป” และยังมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ

X