3 พ.ค. 2564 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ แกนนำมวลชนอาสา We Volunteer หรือวีโว่ ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีปรากฏป้าย #วัคซีนหาซีนให้วัง ในจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งมีการนำรูปไปโพสต์ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เมื่อปลายเดือนมกราคม 2564
การไต่สวนคำร้องครั้งนี้สืบเนื่องจากทนายความเข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวปิยรัฐอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2564 โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเป็นเงินสด 300,000 บาท และมีมารดาเป็นนายประกัน และขอให้ศาลไต่สวนคำร้องประกอบการใช้ดุลพินิจ หลังเคยยื่นขอประกันมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาต จึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 รวม 2 ครั้ง แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันเช่นกัน ทำให้ปิยรัฐถูกขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้จนถึงวันที่ไต่สวนคำร้องเป็นวันที่ 31 แล้ว
ในการไต่สวนคำร้องซึ่งปิยรัฐเข้าร่วมกระบวนการผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์มาจากเรือนจำเช่นเคย ฝ่ายผู้ร้องคือ แม่ของปิยรัฐ ซึ่งเป็นนายประกัน นำพยานเข้าเบิกความรวม 4 ปาก ได้แก่ ปิยรัฐ, แม่, อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และหัวหน้างานควบคุมผู้ต้องขังชาย เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะที่พนักงานสอบสวนเข้าเบิกความคัดค้าน 1 ปาก
หลังเสร็จการไต่สวน ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 5 พ.ค. 2564 เวลา 13.30 น.
คำร้องขอประกันเสนอเงื่อนไข “ไม่ทำกิจกรรมเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ ภายใต้กรอบกฎหมาย”
คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ยื่นต่อศาลครั้งนี้ระบุว่า มีเหตุผลข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหลายประการที่มีเหตุผลเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้ดังนี้
1. หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาจะมาตามนัดหมายของศาลโดยเคร่งครัด และโดยภายใต้กรอบของกฎหมายผู้ต้องหาจะไม่ทำกิจกรรมเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และหากศาลเห็นสมควรกำหนดเงื่อนไขใดที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ผู้ต้องหายินดีปฏิบัติตาม
2. การอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาจะเป็นประโยชน์ต่อเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวคือจะลดความแออัดของจำนวนนักโทษ ลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ทั้งยังสอดคล้องกับแนวปฎิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการคดีในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ฉบับที่ 6
นอกจากนี้ โดยเป็นที่ปรากฏว่าในขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากสภาพความแออัดในเรือนจำ แม้ในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์จะยังไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่ก็มีสภาพความแออัดไม่แตกต่างกัน ผู้ต้องขังหลายคนมีโรคติดต่อทางเดินหายใจ เช่น วัณโรค เป็นกลุ่มเสี่ยงที่หากได้รับเชื้อก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะช่วยทำให้ลดความแอดอัดในสถานที่ดังกล่าว ทำให้การบริหารจัดการเรื่องสถานการณ์โควิดได้ดีขึ้น
3. ผู้ต้องหาได้ปฎิบัติตามกฎเกณฑ์ของเรือนจำเป็นอย่างดี ไม่เคยทำผิดวินัยและเชื่อฟังให้ความร่วมมือในการควบคุมตัวมาโดยตลอด
“โตโต้” แถลงย้ำ ตลอดการพิจารณาคดี งดกิจกรรมที่เสื่อมเสียต่อกษัตริย์ แม่-กก.บห.ก้าวไกล รับดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขศาล
การไต่สวนคำร้องขอประกันเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 10.40 น. โตโต้ ปิยรัฐ เบิกความตอบทนายผู้ต้องหาเป็นปากแรก ความว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ หลังเรียนจบในช่วงปี 2557-2562 ทำงานเป็นนายช่างฝ่ายออกแบบของการไฟฟ้านครหลวง จากนั้นลาออกมาลงสมัครเป็นผู้แทนฯ สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ตลอดเวลาที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลได้ปฏิบัติตามระเบียบของพรรคมาโดยตลอด ปรากฏตามหนังสือรับรองของพรรคก้าวไกลที่ได้อ้างส่งต่อศาล
ในคดีนี้พยานยืนยันตามคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวลงวันที่ 30 เม.ย. 2564 ซึ่งในคำร้องนี้มีสิ่งที่เพิ่มเติมจากครั้งก่อน คือ พยานสัญญาว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขว่า ตลอดเวลาพิจารณาคดีในคดีนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจที่พยานมีต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันหลักของชาติ พยานจะของดเว้นกิจกรรมหรือการกระทำไม่ว่าวิถีทางใด ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ในคดีอื่นที่พยานได้รับการประกันตัวทั้งในศาลอาญาและศาลอื่น พยานไม่เคยปฏิบัติผิดเงื่อนไขการประกันตัวของศาลใด โดยพยานไม่เคยถูกถอนประกันเลย และในคดีนี้พยานยืนยันว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลอย่างเคร่งครัดเช่นกัน
ที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าพยานมีคดีอื่นอีกหลายคดี คดีเหล่านั้นพยานก็ไปตามหมายเรียกหรือกำหนดนัดทุกครั้ง และในคดีนี้ หากพยานได้ประกันตัว เมื่อพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนหรืออัยการจะยื่นฟ้องต่อศาล พยานยินดีจะมาตามศาลกำหนดนัดทุกครั้ง
โตโต้ยังแถลงเพิ่มเติมต่อศาลว่า พยานยังอยู่ในชั้นที่จะมีสิทธิพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และสามารถพิสูจน์ว่าอาจจะไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งต้องพิจารณาในชั้นศาลต่อไป
ที่พนักงานสอบสวนเบิกความต่อศาลเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2564 ว่าจะสอบสวนให้แล้วเสร็จใน 30 วัน พยานคาดว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินการให้แล้วเสร็จตามที่ได้รับปากกับศาลไว้
พยานปากที่ 2 ที่เข้าเบิกความคือ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ระบุว่า พยานเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลสัดส่วนภาคอีสาน ตลอดเวลาที่ปิยรัฐเป็นสมาชิกพรรคไม่เคยทำผิดกฎระเบียบของพรรค
อภิชาติยังเบิกความรับรองว่า ในฐานะกรรมการบริหารพรรคซึ่งมีหน้าที่ดูแลสมาชิกพรรค หากปิยรัฐได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว พยานจะดูแล กำกับ ให้ปิยรัฐปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของศาลทุกประการ
ต่อมา แม่ของปิยรัฐเข้าเบิกความเป็นปากที่ 3 โดยตอบคำถามทนายความเกี่ยวกับปิยรัฐว่า ปกติเป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อย สมัยเด็กชอบทำกิจกรรมในโรงเรียน ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มีผลการเรียนดี ได้รับทุนการศึกษาบ่อยครั้ง เนื่องจากเรียนดีและความประพฤติเรียบร้อย แต่ในด้านสุขภาพ โตโต้เป็นคนที่มีภูมิต้านทานน้อย ไม่ค่อยแข็งแรง มีประวัติเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ เนื่องจากเป็นภูมิแพ้อากาศ
ปิยรัฐเป็นบุตรคนโต เมื่อเรียนจบก็ทำงาน นำรายได้มาจุนเจือครอบครัว ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากโควิด และจากการที่ปิยรัฐถูกขัง ไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวตกอยู่ที่แม่เพียงคนเดียว เนื่องจากพ่อไม่มีรายได้ และน้องชายตกงาน
ก่อนถูกดำเนินคดีนี้ ปิยรัฐค้าขายของเบ็ดเตล็ดอยู่ที่บางเสาธง สมุทรปราการ มีสัญญาเช่าอาคารตามที่อ้างส่งศาล เมื่อปิยรัฐถูกจับกุมและไม่ได้ประกันจึงต้องปิดร้านไป เพราะไม่มีคนดูแล
แม่เบิกความต่อศาลว่า หากปิยรัฐได้รับการประกันตัว จะดูแลให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด
พยานอีกปากของฝ่ายผู้ร้องคือ ศิริ วิชาเถิน หัวหน้างานควบคุมผู้ต้องขังชาย เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เบิกความผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์มาจากเรือนจำเช่นเดียวปิยรัฐ รับรองว่า ตั้งแต่ปิยรัฐถูกฝากขังเข้ามาในเรือนจำเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 ไม่เคยละเมิดกฎระเบียบในเรือนจำ หากทางเรือนจำให้ช่วยงานก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เจ้าหน้าที่เรือนจำยังเบิกความว่า ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์มีผู้ต้องขังกว่า 3,200 คน แต่ละวันมีผู้ต้องขังเข้าใหม่ราว 10-20 คน อย่างไรก็ตาม หัวหน้างานควบคุมผู้ต้องขังยืนยันว่า ทางเรือนจำมีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีการคัดกรองและแยกกักโรคผู้ต้องขังใหม่ 16 วัน รวมทั้งมีการตรวจวัดไข้ และมีแพทย์หลายคนที่จะให้รักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่ป่วย
พงส.ยังค้านประกัน อ้างคดีเยอะ เกรงหลบหนี-ก่อเหตุอื่น ทนายชี้ พงส.เชื่อไปเอง ไม่เคยตรวจสอบว่า โตโต้ไม่มีพฤติการณ์เช่นนั้นในคดีอื่น
เมื่อหมดพยานฝ่ายผู้ร้องแล้ว พ.ต.ท.ไพศาล ใจเกษม สารวัตร (สอบสวน) สภ.ยางตลาด ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ได้เข้าเบิกความคัดค้านการให้ประกัน ระบุเหตุผลเช่นเดิมว่า เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น
อีกทั้งเนื่องจากปิยรัฐเป็นแกนนำการ์ดวีโว่ ซึ่งเป็นองค์กรที่เคลื่อนไหวก่อความไม่สงบในบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ปัจจุบันมีโรคระบาด สังคมไม่ต้องการให้มีการชุมนุม เพื่อไม่ให้โรคแพร่ระบาด หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวจะไปชุมนุม อาจเป็นเหตุให้มีการระบาดของโรคเพิ่มขึ้น และก่อเหตุประการอื่น
นอกจากคดีนี้แล้วพยานทราบว่าปิยรัฐยังมีคดีอื่นๆ ได้แก่ คดีวิ่งไล่ลุงของศาลนี้, คดีของ สน.นางเลิ้ง, สน.พญาไท, สน.ชนะสงคราม และ สน.พหลโยธิน ในความผิดที่เกี่ยวกับการชุมนุม พยานเกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาไป อาจนำตัวมาดำเนินคดีได้โดยยาก เนื่องจากมีหลายคดี ทำให้ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีได้
จากนั้น พ.ต.ท.ไพศาล ได้ตอบคำถามค้านของทนายผู้ต้องหาว่า คดีนี้พยานไม่ได้มีการออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามาให้การก่อนที่จะขอออกหมายจับ ปัจจุบันการสอบสวนยังเหลือพยานอีก 1 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร ซึ่งหากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวก็ไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับการสอบสวนหรือพยานหลักฐานได้
พนักงานสอบสวนยังรับว่า คดีนี้มีการสืบสวนสอบสวนก่อนการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งขณะนั้นปิยรัฐยังไม่ถูกควบคุมตัว ก็ไม่ได้ปรากฏว่าปิยรัฐไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด
ส่วนในคดีต่างๆ ที่พยานอ้างถึงว่า ปิยรัฐถูกดำเนินคดีอีกหลายคดี พยานก็ไม่ได้ตรวจสอบ จึงไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า คดีเหล่านั้นมีการส่งฟ้องหรือยัง ซึ่งตามข้อมูลที่พยานมี คดีเหล่านั้นยังไม่มีคำพิพากษาลงโทษปิยรัฐเลยซักคดี
พ.ต.ท.ไพศาล ตอบทนายผู้ต้องหาอีกว่า ที่พยานอ้างคดีของศาลนี้ ก็น่าจะเป็นคดีตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ที่มีเพียงอัตราโทษปรับเท่านั้น (คดีวิ่งไล่ลุง) และเป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนคดีนี้ อีกทั้งพยานไม่ทราบว่าคดีต่างๆ ทั้งหมด ที่ได้อ้างต่อศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัวปิยรัฐนั้น ปิยรัฐไม่เคยผิดสัญญาประกันจนเป็นเหตุให้เพิกถอนสัญญาประกันเลย
ที่พยานเบิกความว่าผู้ต้องหาเป็นแกนนำการ์ดวีโว่ ก่อความวุ่นวายนั้น เมื่อได้ดูคำสั่งศาลอาญาที่ให้ประกันในคดีดังกล่าว เนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงโดยชัดเจนว่า ปิยรัฐกับพวกมีพฤติการณ์ร้ายแรง พ.ต.ท.ไพศาล ก็รับว่า ข้อเท็จจริงน่าจะเป็นไปตามคำสั่งของศาลอาญาดังกล่าว
ส่วนที่เบิกความว่า หากปิยรัฐได้รับการปล่อยตัวจะไปจัดการชุมนุมนั้น พนักงานสอบสวนได้ยอมรับกับทนายผู้ต้องหาว่า ตั้งแต่ปิยรัฐถูกจับกุมและคุมขัง การชุมนุมก็ยังมีอยู่ตามปกติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาแต่อย่างใด
และที่พยานคัดค้านว่า หากปล่อยตัวผู้ต้องหา ผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุร้ายประการอื่นนั้น ก็เป็นเรื่องที่พยานเชื่อไปเองว่าจะเกิด อีกทั้งในคดีอื่นพยานก็ไม่ทราบว่าผู้ต้องหาได้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่
สุดท้าย พ.ต.ท.ไพศาล รับว่า คดีนี้หากปิยรัฐได้ปล่อยตัวชั่วคราวแล้วไปถูกคุมขังในคดีอื่นอีก พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนหรืออัยการจะส่งฟ้อง ก็สามารถส่งสำนวนหรือส่งฟ้องได้โดยไม่ต้องมีตัวของผู้ต้องหา หรือหากปิยรัฐได้ประกันแล้วไม่มาตามที่พนักงานสอบสวนเรียกให้มาส่งสำนวนหรือส่งฟ้อง พนักงานสอบสวนก็สามารถเพิกถอนสัญญาประกันได้ ดังนั้น การติดตามตัวผู้ต้องหาจึงทำได้โดยง่าย เพราะมีสัญญาประกันอยู่แล้ว
อ่านความเคลื่อนไหวคดีก่อนหน้านี้>> “โตโต้” ปิยรัฐ คดี 112 กรณีป้ายวัคซีนหาซีนให้วังที่กาฬสินธุ์