แจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.จราจร “ชลธิชา-โชคดี” เหตุ #ม็อบ6มีนา เดินขบวน-ชุมนุมหน้าศาลอาญา

วันนี้ (27 เม.ย. 64) ที่ สน.พหลโยธิน 2 นักกิจกรรม ได้แก่ “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว และ “อาเล็ก” โชคดี ร่มพฤกษ์ ได้เข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหา ฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเดินขบวนกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ จากกรณีร่วมกิจกรรม #ม็อบ6มีนา ที่หน้าศาลอาญารัชดา

ที่มาของคดีนี้เกิดจากการกิจกรรม #ขยะในพระปรมาภิไธย หรือ #ม็อบ6มีนา ในวันที่ 6 มี.ค. 64 จัดขึ้นโดยกลุ่ม REDEM ซึ่งนัดรวมตัวกันบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เพื่อเดินขบวนไปยังศาลอาญา รัชดาฯ จุดประสงค์เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นําขยะไปทิ้งหน้าศาลอาญา พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัว 4 แกนนำราษฎรซึ่งถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีมาตรา 112 จากการชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น.

ก่อนหน้านี้นักกิจกรรมทั้งสองราย ได้รับหมายเรียกในคดีที่มี พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา เป็นผู้กล่าวหา โดยทราบว่าพนักงานสอบสวนมีการออกหมายเรียกผู้ชุมนุมสามราย นอกจากชลธิชาและโชคดีแล้ว ยังมีการออกหมายเรียก “พรชัย” ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ซึ่งเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำกลางเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา และพบว่าตนเองติดเชื้อโควิดจากเรือนจำ ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาตามนัดได้

พ.ต.ท.ศักดินาถ หนูฉ้ง สารวัตร (สอบสวน) สน.พหลโยธิน เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ในคดี  มีเนื้อหาโดยสรุปว่าเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 64 ผู้ชุมนุมของกลุ่ม REDEM ได้รวมตัวกันบริเวณแยกลาดพร้าว มีการจัดกิจกรรมแสดงดนตรี กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มมวลชนดังกล่าวได้ลงพื้นผิวจราจร ทําให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกที่จะใช้ทางสาธารณะ โดยตั้งแถวเดินขบวนจากห้าแยกลาดพร้าวมุ่งหน้าสี่แยกรัชโยธิน เดินไปตามถนนรัชดาภิเษก ไปยังศาลอาญา และผู้ชุมนุมของกลุ่ม REDEM ประมาณ 1,700 คน ได้มีการชุมนุมอยู่หน้าศาลอาญา และทํากิจกรรมนําขยะไปทิ้ง และเผาขยะเป็นเชิงสัญลักษณ์ 

การร่วมกันชุมนุม หรือทํากิจกรรมดังกล่าวข้างต้น เป็นการทํากิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัด ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจํานวนมาก และมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันโดยง่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งการร่วมกันชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด เป็นความผิดตามประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินใน ส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง (ฉบับที่ 5) เรื่องห้ามการชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุม ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 6 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 ซึ่งผู้ต้องหาได้เข้าร่วมการชุมนุมในการจัดกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น

พนักงานสอบสวน สภ.พหลโยธิน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาหาทั้งสอง ทั้งหมด 2 ข้อหา ได้แก่

  1. ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ฝ่าฝืน พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 108 ร่วมกันเดินเป็นขบวนแห่ หรือเดินเป็นขบวนใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

เบื้องต้นทั้งสองรายให้การปฎิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยชลธิชาไม่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา และทั้งคู่จะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 20 วัน 

พนักงานสอบสวนได้นัดส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการต่อไปในวันที่ 21 พ.ค. 64 เวลา 10.30 น.

ทั้งนี้น่าสังเกตว่าผู้ถูกออกหมายเรียกทั้งสามคนไม่ได้เป็นผู้จัดกิจกรรมการชุมนุมดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกันรูปแบบการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีแกนนำที่ชัดเจน ทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าหน้าที่อาศัยหลักเกณฑ์ใดในการกล่าวหาหรือดำเนินคดีบุคคล ในกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

X