ตร.ขอนแก่น เร่งสรุปสำนวน 3 คดี ส่งอัยการ แม้นักกิจกรรม ‘ราษฎรโขงชีมูล’ ยังไม่ได้ยื่นคำให้การเพื่อต่อสู้คดี

19 เม.ย. 2564 เวลา 13.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นัดนักกิจกรรม #ราษฎรโขงชีมูล 16 ราย ที่ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมและจัดกิจกรรมแสดงออกทางการเมืองรวม 3 คดี ส่งตัวพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงขอนแก่น หลังสรุปสำนวนแล้วมีความเห็นควรสั่งฟ้อง 

คดีทั้งสาม ได้แก่ (1) คดีจากการชุมนุมที่สวนเรืองแสงและชุมนุมต่อเนื่องที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2564 มีผู้ถูกดำเนินคดี 10 คน (2) คดีจากการชุมนุมที่ สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2564 มีผู้ถูกดำเนินคดี 9 คน ทั้งสองคดีตำรวจแจ้งข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, พ.ร.บ.จราจรฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ เช่นเดียวกัน และ (3) คดีชักธงปฏิรูปกษัตริย์ที่ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2564 ตำรวจแจ้งข้อหา 3 นักศึกษา ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ธงฯ

มีนักศึกษา นักกิจกรรมเดินทางมาตามนัด 12 คน ส่วนอีก 4 คน ไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากติดนัดหมายในคดีอื่น และติดกักตัวโควิด ได้แก่ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์, “นิว” จตุพร แซ่อึง, วีรภัทร ศิริสุนทร และพชร สาธิยากุล ซึ่งปัจจุบันบวชเป็นพระ ทนายความจึงได้ทำหนังสือขอเลื่อนวันรายงานตัวต่ออัยการไปเป็นวันที่ 5 พ.ค. 2564 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่นักกิจกรรมเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา  ทั้ง 16 คน ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะยื่นคำให้การเป็นหนังสือภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 21 เม.ย. 2564 ในวันนี้ทั้งหมดจึงยังไม่ได้ยื่นคำให้การ แต่กลับปรากฏว่า พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว

     >> ‘ราษฎรอีสาน’ 16 ราย เจอ 3 คดี ชุมนุม #ปล่อยหมู่เฮา – ชักธง ‘ปฏิรูปกษัตริย์’ นักศึกษาชี้ รัฐใช้กฎหมายปิดปาก

ทนายความพร้อมทั้งนักกิจกรรมซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาจึงได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่ได้ยื่นคําให้การต่อพนักงานสอบสวน และยังมีความประสงค์ที่จะยื่นคําให้การต่อพนักงานสอบสวนอยู่ตามที่กำหนดนัดหมายไว้ จึงขอความเป็นธรรมต่ออัยการให้มีคําสั่งเลื่อนการพิจารณาฟ้องคดีออกไปก่อน เพื่อให้โอกาสจําเลยได้ยื่นคําให้การต่อสู้คดี 

นอกจากนี้ ทนายความยังได้ขอพบพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนเพื่อชี้แจงเหตุดังกล่าว แต่ไม่มีอัยการออกมาพบ มีเพียงเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ทั้งสามคดีอัยการนัดให้มารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งในวันที่ 22 เม.ย. 2564 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดผัดฟ้องครั้งที่ 5 พร้อมทั้งจัดทำบันทึกรับทราบนัดให้ผู้ต้องหาเซ็นว่าจะมาตามกำหนดนัด

วิศัลยา งามนา นักศึกษานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมหน้า สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงสอบไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม และจากสถานการณ์โควิด นักศึกษาต้องทำข้อสอบอยู่ที่บ้าน ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร การที่อัยการนัดฟังคำสั่งวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งถัดไปจากนี้แค่ 3 วัน ส่งผลกระทบกับพวกเราที่เป็นนักศึกษา โดยมีนักศึกษาถูกดำเนินคดีถึง 7 คน นอกจากนี้ บางคนต้องเดินทางมาจากจังหวัดอื่น ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิดตอนนี้ก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงให้พวกเขา ไม่ทราบว่าทางตำรวจและอัยการได้พิจารณาในมุมนี้หรือไม่

ในวันนี้ สภ.เมืองขอนแก่น จัดเตรียมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 30 นาย ควบคุมพื้นที่ทั้งด้านนอกและหน้าอาคารสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงขอนแก่น โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารีกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น มากำกับการดำเนินการต่างๆ ด้วยตนเอง พร้อมทั้งมี อส.จากฝ่ายปกครองร่วมสนธิกำลังด้วย 

มีรายงานด้วยว่า เวลาประมาณ 15.00 น. มีตำรวจในเครื่องแบบ 2 นาย ขี่รถมอเตอร์ไซค์ตำรวจเข้าไปที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย ซึ่ง พชร สารธิยากุล หนึ่งในนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีในคดีนี้ บวชเป็นพระและจำพรรษาอยู่ ตำรวจขี่รถเข้าไปแล้วผ่านออกไป ในลักษณะมาติดตามดูบุคคลเป้าหมาย โดยก่อนหน้านั้นตั้งแต่เวลา 13.00 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมายเข้ารายงานตัว มีรถเก๋งซึ่งไม่ใช่รถของวัดหรือของประชาชนที่เคยมาวัด มาจอดติดเครื่องในวัดจนถึงเวลาประมาณ 15.00 น. จึงขับออกไป โดยบุคคลในรถไม่ได้ลงจากรถเลย 

พระพชรคาดว่า จะเป็นเจ้าหน้าที่มาติดตามดูว่า ตนจะไปรายงานตัวตามนัดหมายหรือไม่ ซึ่งตนได้แจ้งทนายความไปแล้วว่าขอเลื่อนเนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทาง ทั้งจากสถานการณ์โควิดและจากการที่เป็นพระบวชใหม่ 

คดีทั้งสามของกลุ่มราษฎรโขงชีมูล มีเหตุมาจากการชุมนุมและแสงดออกเพื่อเรียกร้องให้รัฐทำในสิ่งที่จะเป็นหลักประกันความปลอดภัย และไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน เช่น การเรียกร้องให้ประกันตัวแกนนำ 4 ราษฎร จากคดี 112,  การประณามและส่งสัญญาณให้รัฐเลิกใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมหลังการสลายการชุมนุม #ม็อบ28กุมภา ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ รวมถึงการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งข้อเรียกร้องเหล่านี้ก็ไม่เคยได้รับการตอบสนองหรือนำไปพิจารณา แต่ผู้เรียกร้องกลับถูกดำเนินคดี เช่นเดียวกับประชาชนที่ออกมาเรียกร้องทั่วประเทศ 

     >> มีนาคม 64: เดือนเดียวผู้ถูกดำเนินคดีการเมืองเพิ่มเกือบ 200 ราย ยอดพุ่งไปอย่างน้อย 581 คน ใน 268 คดี

มีรายงานอีกว่า ในการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาใน 3 คดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2564 ซึ่งมีกลุ่มราษฎรโขงชีมูลและประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจ แต่กลับถูก สภ.เมืองขอนแก่น ปิดกั้น ไม่ให้เข้าในสถานีตำรวจ โดยการติดตั้งลวดหนามบนรั้ว วางแบริเออร์ปิดกั้นทางเข้า ติดป้าย “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” พร้อมทั้งวางกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนพร้อมโล่และกระบองร่วม 300 นาย ทำให้ผู้ที่เดินทางมาให้กำลังใจต้องตั้งเต็นท์บริเวณถนน และปราศรัย รวมทั้งทำกิจกรรมแสดงความไม่พอใจตำรวจนั้น  จะมีการออกหมายเรียก บุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหานั้น พ.ต.ท.ศุภมินทร์ ล้วนโสม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกหมายเรียกนักกิจกรรมและประชาชนอีก 7 ราย เข้ารับทราบข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในวันเดียวกันนี้  โดยมี พ.ต.ท.สุกฤษฏิ์ พุทธิทัยธีรธร สว.(สส.)สภ.เมืองขอนแก่น เป็นผู้กล่าวหา แต่ต่อมา ได้แจ้งเลื่อนวันเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน โดยยังไม่ได้กำหนดวันนัดใหม่

บรรยากาศหน้า สภ.เมืองขอนแก่น วันที่นักกิจกรรม 16 รายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาใน 3 คดี

 

ขอบคุณภาพปกและภาพประกอบโดย อติเทพ จันทร์เทศ The Issan Record

 

X