กลุ่มคนรักสถาบันฯ เข้าคุกคาม – ทำร้าย 3 ประชาชน เหตุชู 3 นิ้ว ใกล้ที่ชุมนุมหน้าหอศิลป์ ผู้ถูกคุกคามรุดแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุ

เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายได้รับแจ้งจากประชาชน 3 ราย ซึ่งถูกคุกคาม ทำร้ายโดยกลุ่มผู้ชุมนุมคนรักสถาบันฯ ที่มารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมูลเหตุจากการคุกคามทำร้ายสืบเนื่องจาก 1 ในประชาชน 3 รายดังกล่าว ได้ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว บริเวณด้านบนของสกายวอล์คใกล้กับที่ชุมนุม ก่อนที่เขาจะถูกล็อคคอ ผลัก กระชากตัวและตบหน้าโดยกลุ่มผู้ชุมนุม

เอ (นามสมมติ) บัณฑิตวัย 23 ปี ผู้ชู 3 นิ้วใกล้ที่ชุมนุมซึ่งมีมวลชนจากหลากหลายกลุ่มมารวมตัวกัน เช่น กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ, กลุ่มนักรบอิสระปกป้องสถาบันฯ, กลุ่มปกป้องสถาบันไทย ฯลฯ ได้อธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ เขาเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 . ระหว่างที่เดินจากฝั่งสยามสแควร์ไปยังหอศิลป์กับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อชมนิทรรศการงานศิลปะ ทั้ง 3 คนได้หยุดยืนดูกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่ด้านล่างบริเวณลานด้านหน้าหอศิลป์ เอได้ชู 3 นิ้ว เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จากนั้นมีการ์ดผู้หญิงรายหนึ่งเดินเข้ามาหาเอ ถามว่า ทำไมต้องชู 3 นิ้ว ทำไมไม่ลงไปชูข้างล่างต่อหน้าผู้ชุมนุม เอได้ชี้แจงว่า การแสดงออกดังกล่าวเป็นสิทธิของเขา เขาย่อมต้องมีสิทธิในการแสดงออกเช่นเดียวกับมวลชนอีกฝั่ง

ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเอง มีชายไม่ทราบชื่อ ไม่แน่ใจว่าเป็นการ์ดของผู้ชุมนุมหรือไม่ พุ่งเข้ามาชนเอจนล้ม ต่อมาเกิดปากเสียงกัน มีการตะโกนด่า ไม่นานการ์ดของผู้ชุมนุมหลายรายกรูเข้ามารุมเอ เขาถูกผลักจนชนกับรั้วเหล็กของสกายวอล์ค ถูกกระชากเสื้อ บีบคอ มีการข่มขู่เอาชีวิต ชายที่เข้ามาชนเอในช่วงแรกถลาเข้าตบหน้าเขาอีกท่ามกลางสายตาของเพื่อนอีก 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนคนหนึ่งพยายามจะดึงเอออกจากกลุ่มมวลชนที่รุมทำร้าย ทั้งสองหนีเข้าไปหอศิลป์ พยายามที่จะเลี่ยงการปะทะ ขณะที่เพื่อนของเออีกรายผู้ซึ่งคอยถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกต้อนลงไปเผชิญหน้ากับมวลชนที่ด้านล่าง บริเวณหน้าหอศิลป์ แต่เขาไม่ได้ถูกทำร้ายใดๆ นอกเหนือจากมีปากมีเสียงกันเล็กน้อย

อีกด้านในหอศิลป์ เอกับเพื่อนพยายามเข้าขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกว่า 5 ราย ติดตามทั้งคู่เข้าไป มีทั้งคนที่ผูกผ้าพันคอเหลือง คาดว่าน่าจะเป็นคนจากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ และคนที่ใส่ชุดลำลองทั่วไป แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับหรือช่วยเหลือใดๆ จากตำรวจ เอและเพื่อนถูกทำร้ายด้วยการกระชากตัวและล็อคคออีกครั้ง ท่ามกลางสายตาของคนจำนวนมากที่เดินทางมาชมงานศิลปะที่หอศิลป์ โดยมีคนบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ นำไปโพสต์และส่งต่อกันไปอย่างแพร่หลายในโลกทวิตเตอร์

เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่บริเวณสกายวอล์คจนเข้าไปในหอศิลป์ กินเวลากว่าครึ่งชั่วโมง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบพยายามเข้ามาห้ามปราม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบอีกคนจะเข้ามาพาทั้งสองเดินออกประตูหอศิลป์อีกด้านที่ไม่มีการชุมนุม  

ผลจากการคุกคามทำร้ายปรากฏเป็นรอยแดงช้ำรอบคอของเอ เมื่อออกจากหอศิลป์มาได้ เอและเพื่อนได้เข้าแจ้งความที่ สน. ปทุมวัน ตำรวจเพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และส่งตัวเอไปตรวจร่างกายที่ รพ. ตำรวจ ทาง รพ. แจ้งว่า ให้เอเดินทางมาเพื่อติดตามผลตรวจอีกครั้งในวันอังคารที่ 16 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งว่าให้เอรวบรวมหลักฐานมาเพิ่ม ถึงจะสามารถแจ้งความได้ แต่ไม่ได้แจ้งว่าหลักฐานที่ต้องการคืออะไร

ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 16 มีนาคม 2564 เอและทนายความได้เดินทางไปติดตามผลตรวจ ทาง รพ.ตำรวจ แจ้งว่า จะส่งเอกสารการตรวจร่างกาย อาการบาดเจ็บให้กับฝ่ายสืบสวนของตำรวจ จากนั้น เอและทนายได้เดินทางกลับไปที่ สน. ปทุมวันอีกครั้งเพื่อแจ้งความ โดยในครั้งนี้ตำรวจได้รับแจ้งความ มีการทำรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐาน และได้มอบบันทึกคำร้องขอคัดลอกไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดให้เอเอาไปยื่นต่อห้างมาบุญครองเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

เอและทนายยังได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า พยาน 2 ราย นั่นก็คือเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์กับเอ จะเข้าให้การพร้อมกันในวันหลัง โดยจะแจ้งวันนัดกับตำรวจอีกครั้ง

ภายหลังเข้าแจ้งความ เอได้สะท้อนความรู้สึกของเขาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รู้สึกตกใจมากและไม่ได้คิดว่าเรื่องจะบานปลาย คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่อีกฝ่ายตั้งใจจะให้เกิด มีการสร้างสถานการณ์ เพราะถ้าไม่มีเหตุทำร้ายกัน เรื่องก็คงไม่บานปลายขนาดนี้

 

ขอบคุณรูปประกอบจาก Voice TV

X