จับกุมหนุ่มแม่ฮ่องสอน แจ้งข้อหา ม.112-116 ก่อนศาลไม่ให้ประกัน ระบุ “ข้อความ” ที่โพสต์เป็นเรื่องร้ายแรง

วานนี้ (10 มี.ค. 64) ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 9.10 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานว่ามีนาย “พรชัย” อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย เข้าจับกุมบริเวณหอพักย่านรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่

หมายจับดังกล่าวลงวันที่ 8 มี.ค. 64 มีผู้ร้องขอออกหมายจับคือผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) และนายศักดิ์ฤทธิ์ งามมิตรสมบูรณ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้อนุมัติหมายจับ 

จากการติดตามเพิ่มเติม พรชัยให้ข้อมูลว่า วันที่ 10 มี.ค. 64 เวลา 07.00 น. พรชัยถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย เข้าจับกุมบริเวณหอพัก โดยเจ้าหน้าที่นายหนึ่งแสดงตนเป็นพนักงานสอบสวน แสดงบัตรประจำตัวพนักงานสอบสวน 

เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์มือถือของพรชัยไป ทำให้ไม่สามารถติดต่อทนายความและผู้ไว้วางใจได้ ก่อนนำตัวไปตรวจค้นห้องพัก ก่อนได้มีการยึดเสื้อผ้าและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพการค้นห้องพักและสิ่งของที่ถูกยึดไว้ด้วย พรชัยระบุว่าการค้นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่ทำการแสดงหมายค้น และไม่ได้มีหมายสำหรับการตรวจยึดเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ 

จากนั้นพรชัยถูกนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ก่อนถูกนำตัวไปยังกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งไม่ใช่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่มีการจับกุม หรือสถานีตำรวจเจ้าของคดี แต่เขาระบุว่าไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ในสถานที่ดังกล่าว

จนในช่วงเวลาประมาณ 16.10 น. จึงมีรายงานว่าพรชัยถูกนำตัวกลับมาที่สภ.รัตนาธิเบศร์ พรชัยให้ข้อมูลว่าเขาถูกสอบสวนโดยไม่มีทนายความเข้าร่วมด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายสถานี อาทิ สน.ปทุมวัน, สน.พหลโยธิน และ สภ.บันนังสตา เข้าไปสอบสวนด้วย 

ต่อมามีการประสานงานให้ตำรวจจากสภ.แม่โจ้ ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เดินทางมารับตัวไป โดยตำรวจระบุว่าจะนำตัวเดินทางโดยรถ

ในเช้าวันนี้ (11 มี.ค. 64) ทนายเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินทางไปติดตามผู้ถูกจับกุมที่สภ.แม่โจ้ ก่อนพบว่าพนักงานสอบสวนสภ.แม่โจ้ได้ไปแจ้งข้อกล่าวหา และสอบปากคำผู้ต้องหาตั้งแต่ราว 02.00 น. ของคืนที่ผ่านมาระหว่างไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แล้ว โดยไม่มีการประสานให้ทนายความเข้าร่วม เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา 

ต่อมา ทนายยืนยันขอรอพบผู้ต้องหาที่สภ.แม่โจ้ เพื่อเซ็นเอกสารแต่งตั้งทนายความ รอจนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจจึงได้นำตัวพรชัยมาถึงสถานีตำรวจ ก่อนจะได้พบทนายความชั่วครู่หนึ่ง 

จากนั้นได้มีการนำบันทึกการจับกุม บันทึกสอบปากคำ และบันทึกการตรวจยึดทรัพย์สิน มาสอบถามผู้ต้องหาและทนายความอีกครั้งว่าผู้ต้องหาจะลงชื่อในเอกสารดังกล่าวหรือไม่ ผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ขอลงชื่อ เนื่องจากระบุข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงหลายส่วน อีกทั้งไม่มีทนายความร่วมอยู่ระหว่างการสอบปากคำและการตรวจยึดทรัพย์สินเหล่านั้น ก่อนที่พรชัยจะถูกนำตัวเข้าห้องคุมขัง 

ต่อมาเวลา 11.25 น. พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการขอฝากขังผู้ต้องหา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากสภ.แม่โจ้ โดยอ้างเรื่องการต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 3 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติอาชญกร และศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาเป็นผัดแรก ระยะเวลา 12 วัน  

เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง ทางตำรวจสภ.แม่โจ้ ได้แสดงเอกสารที่ระบุว่าเป็นหมายขังของศาลจังหวัดเชียงใหม่ให้ดู  แต่ทนายความและผู้ต้องหาไม่เห็นรายละเอียดชัดเจน  ก่อนนำตัวพรชัยไปที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่อำเภอแม่แตงทันที โดยนำตัวออกจากประตูหลังสถานีตำรวจ และนำตัวขึ้นรถตู้ตำรวจไป 

เวลา 13.30 น. นายประกันได้ยื่นหลักทรัพย์จากกองทุนดาตอร์ปิโด ในวงเงิน 150,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่

จนเวลา 14.50 น. นายภิญโญ โมกขมรรคกุล ผู้พิพากษา ได้มีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัว โดยระบุว่า พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา ข้อความที่ผู้ต้องหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และพฤติการณ์แห่งคดี ถือเป็นเรื่องร้ายแรง พนักงานสอบสวนได้คัดค้าน หากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาอาจไปกระทำในลักษณะเดียวกันนี้อีก เกรงว่าจะหลบหนียากแก่การติดตามตัวมาศาล 

จากการตรวจสอบบันทึกการจับกุม พบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ลงชื่อเป็นผู้เข้าทำการจับกุมพรชัยทั้งหมด 11 นาย มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.3 บก.ส.1 บช.ส. นำโดย พ.ต.อ.ศราวุธ วินัยประเสริฐ และตำรวจจาก กก.1 บก.ส.1 บช.ส. นำโดย พ.ต.ต.ระบิล สังคหะ และยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของทหาร 1 นาย ชื่อ พ.ต.ปรเมษฐ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จาก ผบ.ขกท.ศปภ.ทภ 1 

บันทึกจับกุมยังไม่ได้ระบุว่ามีการนำตัวไปที่ บก.ตชด.ภาค 1 ด้วยแต่อย่างใด โดยที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และไม่ยินยอมลงชื่อในบันทึกดังกล่าว 

หลังจากทราบผลคำสั่งไม่ให้ประกันตัวของพรชัยแล้ว ทนายความและนายประกัน เพิ่งได้ทราบเหตุที่นายพรชัยถูกกล่าวหาในคดีนี้ จากคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวนสภ.แม่โจ้ 

พฤติการณ์ในคดีนี้ระบุไว้ว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 63 ผู้กล่าวหาคดีนี้ ได้พบการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในวันที่ 18 พ.ย. 63 โดยมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัชกาลที่ 10 รัฐบาลประยุทธ์ และรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ 

ผู้กล่าวหาอ้างว่าเมื่อพิจารณาเนื้อหาข้อความแล้ว ถือเป็นการด่า ดูถูกเหยียดหยาม และสบประมาท พระมหากษัตริย์และเป็นการใส่ความหรือกล่าวหาพระมหากษัตริย์ ซึ่งเมื่อบุคคลทั่วไปได้ทราบหรือได้อ่านแล้ว ทำให้เข้าใจได้ว่าพระมหากษัตริย์เป็นคนไม่ดี อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนดูหมิ่นหรือเกลียดชังพระมหากษัตริย์ อันถือเป็นการจาบจ้วงล่วงเกินองค์พระมหากษัตริย์ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอันเป็นที่เคารพสักการะของปวงประชาชนคนไทย 

ทั้งนี้เอกสารไม่ได้มีการระบุว่าใครเป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 63 จนถึงวันที่ 11 มีนาคม 64 มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 แล้วอย่างน้อย 67 ราย ใน 54 คดี 

>> สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64

 

X