ฟ้อง “จัสติน” ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2 คดีรวด กรณี #ม็อบ29ตุลา และ #ม็อบ1พฤศจิกา ที่บางนา

25 กุมภาพันธ์ 2564 ชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ “จัสติน” นักกิจกรรมกลุ่มราษฎร ถูกอัยการศาลอาญาพระโขนงยื่นฟ้อง 2 คดีรวด หลังเดินทางไปฟังคำสั่งอัยการตามนัด จากกรณี #ม็อบ29ตุลา หน้าสำนักงานสำนักข่าวเนชั่น และ #ม็อบ1พฤศจิกา บริเวณแยกอุดมสุข เดินขบวนไปยังสี่แยกบางนา โดยคดีหลังมีนันทพงศ์ ปานมาศ นักกิจกรรมกลุ่มราษฎรอีกรายถูกฟ้องด้วย  ก่อนจะได้รับประกันตัวทั้งสองคดี โดยต้องใช้เงินสดวางเป็นหลักประกันใน 2 คดี รวม 60,000 บาท

ในคดี #ม็อบ29ตุลา นพฎล พรไชยา พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาพระโขนง 3 ยื่นฟ้องชูเกียรติ รวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และกีดขวางทางสาธารณะฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 โดยบรรยายฟ้องแยกเป็น 2 กรรมดังนี้

  1. เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 จําเลยกับพวก ซึ่งเป็นแกนนําหรือผู้จัดให้มีการชุมนุมทางการเมือง บนถนนเทพรัตน์ บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ฝั่งตรงข้ามที่ทําการสํานักข่าวเนชั่น เขตบางนา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 100 คน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมโดยไม่มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกําหนด อีกทั้งยังเป็นการกีดขวางการจราจรบนถนนเทพรัตน์ ซึ่งเป็นทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร
  2. ในการชุมนุมดังกล่าว จําเลยกับพวกได้ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

พร้อมกันนี้ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาพระโขนง 3 ยังยื่นฟ้องชูเกียรติ และนันทพงศ์ ปานมาศ ในคดี #ม็อบ1พฤศจิกา รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, เดินขบวนกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ และกีดขวางทางสาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 โดยบรรยายฟ้องแยกเป็น 2 กรรมเช่นกันดังนี้

  1. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 จําเลยทั้งสองกับพวก และเยาวชนซึ่งได้แยกดําเนินคดีต่างหากแล้ว ซึ่งเป็นแกนนําหรือผู้จัดให้มีการชุมนุมทางการเมือง บริเวณถนนแยกอุดมสุขถึงบริเวณสี่แยกบางนาต่อเนื่องถึงบริเวณหน้าอาคารเดอะโค้ท เขตบางนา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 200 คน ได้จัดกิจกรรมโดยไม่มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกําหนด อีกทั้งจําเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันเดินขบวน อันเป็นการกีดขวางการจราจรและทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร
  2. ในการชุมนุมดังกล่าว จําเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังอัยการยื่นฟ้องทั้ง 2 คดี ต่อศาลอาญาพระโขนง ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวนักกิจกรรมทั้งสองแบบไม่มีหลักประกัน ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับประธานศาลฎีกาว่า ด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจําเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 (ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี ให้ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้โดยไม่ต้องมีประกัน) อีกทั้งตามคำฟ้องของโจทก์ จําเลยมีพฤติการณ์เพียงเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมที่รับรองและคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีพฤติการณ์ยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

ก่อนศาลพระโขนงมีคำสั่งว่า “พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีตามคำฟ้องของพนักงานอัยการและบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำตามที่ถูกกล่าวหาในช่วงเวลาที่มีประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยไม่เคารพต่อกฎหมายของบ้านเมือง หากปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน อาจหลบหนีได้ ให้ยกคำร้อง”ทนายความจึงได้ยื่นขอประกันตัวโดยวางเงินสดเป็นหลักประกันคนละ 20,000 บาท ในทั้ง 2 คดี รวมเป็นเงินสด 60,000 บาท ซึ่งต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัว โดยไม่กำหนดเงื่อนไข พร้อมทั้งนัดคุ้มครองสิทธิและตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 13.00 น.

น่าสนใจว่า ณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ ซึ่งถูกฟ้องไปก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 จากเหตุการณ์ชุมนุมทั้งสองครั้ง โดยมีพฤติการณ์ ข้อเท็จจริง รวมทั้งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในฐานความผิดเดียวกันกับชูเกียรติและนันทพงศ์ แต่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวณัฐวุฒิโดยไม่ต้องมีหลักประกัน

ทั้งนี้ คดี #ม็อบ29ตุลา มีผู้ถูกดำเนินคดี 3 ราย ได้แก่ ณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์, ชูเกียรติ แสงวงค์ และสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “นิว” โดยณัฐวุฒิถูกฟ้องไปก่อนแล้ว ส่วนสิรวิชญ์ขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งของอัยการในวันเดียวกับชูเกียรติออกไปเป็นวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เนื่องจากอยู่ระหว่างศึกษาต่อในหลักสูตรระยะสั้นที่ต่างประเทศ

ส่วนคดี #ม็อบ1พฤศจิกา มีผู้ถูกดำเนินคดี 5 ราย ได้แก่ ณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์, สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, ชูเกียรติ แสงวงค์, นันทพงศ์ ปานมาศ และ “ธนกร” ซึ่งยังเป็นเยาวชนอยู่ เช่นกัน ณัฐวุฒิถูกฟ้องไปก่อนแล้ว และสิรวิชญ์เลื่อนฟังคำสั่งไปเป็นวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ส่วนธนกรแยกดำเนินคดีเป็นคดีเยาวชน โดยอัยการฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้วเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564

สำหรับเหตุการณ์ทั้งชุมนุม #ม็อบ29ตุลา และ #ม็อบ1พฤศจิกา  เกิดจากกลุ่มคณะราษฎรร่วมกันชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุม ให้มาร่วมชุมนุมบริเวณแยกอุดมสุข เพื่อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย โดยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก และให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หลังการชุมนุมดังกล่าว ร.ต.อ.ไพบูลย์ มาลา รอง สว.สอบสวน สน.บางนา และ พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว รอง ผกก.สืบสวน สน.บางนา เป็นผู้กล่าวหาดำเนินคดีกับนักกิจกรรมที่เข้าร่วมการชุมนุมและขึ้นปราศรัย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อหาฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เยาวชน 17 ปีอีกราย หลังร่วมชุมนุม #ม็อบ1พฤศจิกา แยกอุดมสุข

สน.บางนาแจ้งข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 3 แกนนำกรณี #ม็อบ29ตุลา และ #ม็อบ1พฤศจิกา

 

X