วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2564) กลุ่มประชาชนนัดรวมตัวกันบริเวณสกายวอล์ค ห้างมาบุญครอง เพื่อชุมนุมกันในชื่อ ‘รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ’
ตั้งแต่เวลา 15.00 น. มีรายงานว่าตำรวจเตรียมกำลังและรถฉีดน้ำไว้ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ ขณะที่ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยมาในพื้นที่ มีรายงานว่ารอบลานหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครมีการ์ดเต็มไปหมด โดยไม่ทราบว่าเป็นการ์ดกลุ่มอะไรบ้าง บริเวณหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีการตั้งด่านตรวจรถ และบริเวณทางเชื่อมสกายวอล์คระหว่างหอศิลป์และบีทีเอสมีจุดตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่
เวลา16.15 น. มีรายงานว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อมาปรากฎชื่อบุญรักษา ถูกตำรวจควบคุมตัว หลังพยายามพ่นข้อความสีชมพู โดยมีข้อความเพียง “no ju” ซึ่งคาดว่าต้องการพ้นว่า “no justice no peace” แต่ถูกควบคุมตัวไป สน.ปทุมวัน ก่อนพ่นเสร็จ ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ตรวจยึดวัตถุคล้ายระเบิด (พลุควัน) 51 อัน จากวัยรุ่นคนหนึ่ง และมีรายงานด้วยว่า ‘ภูมิ ศศลักษณ์’ เยาวชนอายุ 17 ปี และประชาชนจำนวนหนึ่ง ถูกนำตัวไป สน. ปทุมวันตั้งแต่ช่วง 15.00 น.แล้วด้วย
เวลา 17.05 น. ตำรวจนำเครื่องเสียงมาประกาศเรื่องมาตรการควบคุมโรคโควิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนพร้อมโล่และอุปกรณ์ตั้งแถวบริเวณถนนหน้ามาบุญครอง ตรงข้ามผู้ชุมนุมที่รวมตัวอยู่ฝั่งหอศิลป์ฯ ตำรวจที่ตั้งแถวยังจำนวนน้อยกว่าผู้ชุมนุมมาก
17.20 น. พบเห็นตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมโล่และกระบองหลายร้อยนายอยู่ในบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งนั่งพักผ่อนอยู่ ไม่มีท่าทีจะตั้งแถวเพื่อเดินออกมาหาผู้ชุมนุมที่รวมตัวอยู่บริเวณหน้าหอศิลป์
18.00 น. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ยึดเอาป้ายที่มีคำว่า No God No King Only Human และ มีคนตายเพราะ 112 และป้ายสีแดง มีข้อความว่า 112+10=ชิบ ลงจากที่แขวน เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ จึงยึดป้ายผ้าเป็นของกลางของความผิดซึ่งหน้า และคืนให้ไม่ได้
ที่ สน.ปทุมวัน สรุปข้อมูลผู้ถูกจับกุม ดังนี้
- บุญรักษา ถูกตั้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ มาตรา 12 จากการฉีดพ่นข้อความ “ยกเลิก 112” บริเวณป้ายโฆษณา ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท แล้วปล่อยตัว
2.พอร์ช ถูกตั้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธ (ดิ้ว หรือกระบองเหล็กยืดหด) ไปในที่สาธารณะ ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 100 บาท แล้วปล่อยตัว
3.ศศลักษณ์ หรือ ภูมิ เยาวชนอายุ 17 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวหา มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคม (วอดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและตรวจค้นตัวพบวิทยุ 1 เครื่อง เหน็บอยู่ที่เสื้อกั๊ก ภูมิให้การปฏิเสธ
4.ฟีฟ่า เยาวชนอายุ 16 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวหา มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคม (วอดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและตรวจค้นรถจักรยานยนต์ พบวิทยุ 1 เครื่อง ไม่มีแบตเตอรี่ ไม่มีเสาสัญญาณ อยู่ใต้เบาะรถ ฟีฟ่าให้การปฏิเสธ
- ต้า พกพาอุปกรณ์ที่ประกอบเป็นวิทยุ (วอดำ) โดยไม่มีแบตเตอรี่ ไม่มีเสาสัญญาณ (ข้อมูลจาก iLaw)
6.เมธี พกพาพลุควัน
7.จั๊ด พกพายุทธภัณฑ์ คือ หน้ากากกันแก๊ส (ข้อมูลจาก iLaw)
8.นนท์ พกพายุทธภัณฑ์ คือ หน้ากากกันแก๊ส (ข้อมูลจาก iLaw)
สำหรับต้า เมธี จั๊ด และนนท์ ตำรวจได้ทำบันทึกการตรวจยึด และปล่อยตัวไป โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา
เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อกดดันให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะให้ประกันเยาวชน 2 ราย ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา พกพาวิทยุ โดยให้วางเงินสดคนละ 5,000 บาท โดยมีที่ปรึกษากฎหมายเป็นนายประกัน และในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ. 2564) เยาวชนทั้งสองจะต้องไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อให้ศาลตรวจสอบจับการจับกุม
เวลา 20.20 น. มีรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดัง 3-4 ครั้งในที่ชุมนุมบริเวณ สน.ปทุมวัน 20.30 น. ฐปนีย์ เอียดศรีไชย นักข่าว The Reporter ระบุว่า ได้กลิ่นแก๊สน้ำตา และมีการระคายเคืองบริเวณผิวหน้า กระทั่งมีการยืนยันจากกลุ่มนักข่าวว่ามีการยิงแก๊สน้ำตา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันกับศิโรฒน์ คล้ามไพบูลย์ พิธีกร Voice TV ว่า ไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา
20.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ให้สื่อมวลชนเว้นระยะห่างอย่างน้อย 5 เมตร จากการตั้งแนวของตำรวจควบคุมฝูงชน ทั้งยังมีผู้พบซากกระป๋องแก๊สน้ำตาตกอยู่ใกล้กับ สน.
21.00 น. มีการประกาศยุติการชุมนุม และผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางกลับ