วันนี้ (2 พ.ย. 2563) ศาลแขวงปทุมวัน และศาลแขวงระยอง ยกคำร้องขอฝากขัง รุ้ง ปนัสยา-ไมค์ ภาณุพงศ์ ศาลชี้ ไม่ปรากฏว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุภยันตรายประการอื่น จึงไม่มีเหตุให้คุมขัง
เวลา 12.23 น. ศาลแขวงปทุมวัน ยกคำร้องขอฝากขังรุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการชุมนุม #ทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิม เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 63 และ #อ่านประกาศคณะราษฎร เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 63 ที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน
คดีนี้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ในระหว่างการสอบสวน ด้านทนายความยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง หลังศาลไต่สวนพยานทั้งสองฝ่ายในห้องพิจารณา ได้มีคำสั่งยกคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวน
ศาลให้เหตุผลที่ยกคำร้องว่า พิเคราะห์คำร้อง คำคัดค้าน ประกอบคำไต่สวนของผู้ร้องแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ต้องหาคดีนี้ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดกับผู้ต้องหาอื่นอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน การสอบสวนได้กระทำเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้ส่งสำนวนการสอบสวนผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดอีก 2 คนไปให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินการฟ้องคดี
สำหรับผู้ต้องหาคดีนี้เหลือเพียงรอผลการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเท่านั้นประกอบกับผู้ต้องหายังเป็นนักศึกษามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดต่อได้ ไม่ปรากฏว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุภยันตรายประการอื่น จึงไม่มีเหตุให้คุมขังผู้ต้องหาไว้ ยกคำร้องขอฝากขังและให้เพิกถอนหมายจับผู้ต้องหาด้วย
ต่อมา ในเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ศาลแขวงระยองยกคำร้องของพนักงานสอบสวนที่ขอฝากขัง ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก คดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชูป้ายประท้วงไล่นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 เนื่องจากศาลเห็นว่า ไมค์รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์หลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงไม่จำเป็นต้องฝากขัง นอกจากนี้ ศาลยังอนุญาตให้พนักงานสอบสวนผัดฟ้องไปอีก 6 วัน เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ
ศาลระบุเหตุผลว่า “พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จากการไต่สวนได้ความว่าได้ทำการสอบสวนแล้ว คงเหลือแต่รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร ซึ่งผู้ร้องเบิกความว่าในส่วนนี้สามารถดำเนินไปได้แม้ไม่มีการควบคุมผู้ต้องหา จึงเป็นเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถฟ้องจำเลยได้ทัน จึงอนุญาตให้ผัดฟ้องผู้ต้องหาอีก 6 วัน
กรณีมีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่า มีเหตุที่จะอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาหรือไม่ ผู้ร้องเบิกความยืนยันว่าการดำเนินการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหา เป็นขั้นตอนที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการควบคุมตัวผู้ต้องหา ปัจจุบันผู้ต้องหาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ตามใบรับรองแพทย์ที่แนบท้ายคำร้องนี้ จึงไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีประการอื่นหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในชั้นนี้จึงไม่มีความจำเป็นที่จะอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา”
อ่านข่าวก่อนหน้า
> ตร.สน.ปทุมวัน ไปถึง ร.พ. แจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รุ้ง 2 คดี