ภายหลังจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสลายการชุมนุม #ม็อบ14ตุลา ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ได้มีประชาชนออกมาแสดงความไม่พอใจและไม่เห็นจำนวนมากจนเกิดการชุมนุมขึ้น
วันที่ 16 ต.ค. 63 มีการนัดหมายชุมนุม #ม็อบ16ตุลา #16ตุลาไปราชประสงค์ #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. การชุมนุมดำเนินไปจนกระทั่งเวลาประมาณ 18.48 น. เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากพร้อมอุปกรณ์ครบมือเข้าสลายการชุมนุม เริ่มด้วยการประกาศให้ยุติการชุมนุม ตามมาด้วยการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำเปล่า, น้ำผสมสี และน้ำผสมสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง ผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมจากบริเวณแยกเฉลิมเผ่า จนกลุ่มผู้ชุมนุมค่อยๆ ถอยร่นไปจนถึงบริเวณแยกปทุมวัน ก่อนจะยึดพื้นที่บริเวณแยกปทุมวัน หลังใช้เวลาในการเข้าสลายการชุมนุมกว่า 2 ชั่วโมง
ปฏิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ได้มีการจับกุมผู้ชุมนุมระหว่างการสลายการชุมนุม จำนวน 9 ราย ขณะเดียวกันภายหลังจากการชุมนุมยุติลงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าแสดงหมายจับตามที่ออกตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ มาตรา 12 เข้าจับกุมตัวแกนนำการชุมนุมก่อนหน้านี้จำนวน 3 ราย โดยรายชื่อผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ถูกจับกุมตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ลงวันที่ 16 ต.ค. 2563 ในความผิดฐานเป็นบุคคลตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9
- ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมกลุ่มนนทบุรีปลดแอก
- ทัดเทพ เรืองประไพกิจเสรี นักกิจกรรมกลุ่มเยาวชนปลดแอก
- สมบัติ ทองย้อย คนเสื้อแดง
กลุ่มที่ 2 ผู้จับกุมตัวในขณะเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม
- ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน บรรณาธิการบริหาร Spaceth.co
- อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ นักกิจกรรมกลุ่มเส้นทางสีแดง
- กิตติ พันธภาค ผู้สื่อข่าวประชาไท
- เอฐ์เรียฐ์ ฟอฟิ นักกิจกรรมกลุ่มศิลปินปลดแอก
- ชลธิชา คุ้มจันทร์อัด
- พรพสุ ชูรอด
- คณิติน ติเยาว์
- อรรคพล วันทะไชย
- อินทราช แสงมณี
.
ผู้ถูกจับกุมตัวทั้งหมดได้ถูกส่งไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภาค 1) เพื่อจัดทำบันทึกจับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา และสอบปากคำ
มีรายงานข่าวว่า หนึ่งในผู้ต้องหาคือ ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน บก.บริหารของเว็บไซต์ Spaceth.co ถูกจับกุมขณะพยายามนำ #โบว์ขาว ไปมอบให้ตำรวจที่เข้าสลายการชุมนุม
ต่อมาเวลา 01.45 น. ของวันที่ 17 ต.ค. 63 กิตติ พันธภาค ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้ถูกปล่อยตัวด้านหน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน และได้เปรียบเทียบปรับจำนวน 300 บาท
จนเวลาประมาณ 03.00 น. หลังกลุ่มนักวิชาการ ทนายความ ญาติของผู้ถูกจับกุมและสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรคฝ่ายค้านเดินทางไปเพื่อขอเข้าเยี่ยมผู้ถูกจับกุม มีเพียง ส.ส.และทนายความที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมผู้ถูกจับกุมภายใน บก.ตชด.ภาค 1 เท่านั้น
ภายหลังเข้าเยี่ยมผู้ถูกจับกุม ส.ส.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า มีผู้ถูกจับกุมเพียง 12 รายและจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 100 ราย จริงหรือไม่ ตำรวจใน บก.ตชด.ภาค 1 ไม่สามารถตอบคำถามได้ แต่ภายในห้องควบคุมตัวดังกล่าวได้มีการจัดเตรียมสถานที่พักเพื่อรองรับผู้ถูกจับกุมจำนวน 100 รายไว้พร้อมแล้ว ( https://www.facebook.com/TheReportersTH/videos/1067733423676153/)
จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. พนักงานสอบสวนจัดทำบันทึกจับกุม บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำผู้ต้องหาจำนวน 11 คน จนแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนได้แจ้งว่า จะนำผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ไปขออำนาจศาลแขวงปทุมวันฝากขังในเวลา 09.00 น.
สำหรับ ชินวัตร, ทัดเทพ และสมบัติ ซึ่งถูกจับกุมตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ซึ่งระบุว่า “เป็นบุคคลตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9” พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยชุมนุมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย”
จากพฤติการณ์ ที่ระบุเพียงสั้นๆว่า “ผู้ต้องหาได้ไปปรากฏตามในพื้นที่ที่มีการชุมนุม บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63” ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2553 เวลา 04.00 น. โดยผู้ต้องหาทั้งสามรายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนผู้ถูกจับกุมตัวขณะสลายการชุมนุมอีก 8 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. อนุรักษ์, เอฐ์เรียฐ์, คณิติน, อินทราช, อรรถพล, ณัฐนนท์ ถูกกล่าวหาว่า “ชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปหรือกระทําการอันเป็นการยั่วยุให้ เกิดความไม่สงบเรียบร้อย อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548”
จากพฤติการณ์การชุมนุมในวันที่ 16 ต.ค. 63 บริเวณแยกปทุมวัน ที่มีผู้ชุมนุมประมาณ 50-60 คน แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีดำ พร้อมตะโกนขับไล่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งมีการแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ กองกํากับการควบคุมฝูงชนทําการกระชับพื้นที่ โดยประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงกระชับพื้นที่ด้วยการฉีดน้ำ แต่ปรากฏว่าผู้ถูกจับไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมเห็นว่าผู้ถูกจับทําการฝ่าฝืนข้อกําหนดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จึงจับกุมตัวผู้ถูกจับนําส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน
2. พรพสุธ และชลธิชา ถูกกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกําหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือกระทําการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และนํายานพาหนะซึ่งบรรทุกเครื่องขยายเสียงและเครื่องกําเนิดไฟฟ้า เคลื่อนที่เข้ามาใช้ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดรถยนต์, เครื่องกําเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่, แท่นขยายเสียง, ลําโพง , ไมค์ , แอมป์ขยายเสียง, ปลั๊กพ่วง และถังสี ไว้เป็นของกลาง พรพสุธ ให้การภาคเสธ รับว่ารถยนต์ของกลางเป็นของตนเองและเป็นผู้ขับเข้าที่ชุมนุม แต่เครื่องเสียงไม่ใช่ของตน ส่วนชลธิชา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับพฤติการณ์ที่ทั้งสองถูกกล่าวหาคือ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 63 ผู้ถูกจับได้ร่วมกับพวกจัดการชุมนุม หลังมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร พรพสุธได้ขับรถยนต์พร้อมเครื่องเสียงเข้าไปยังพื้นที่ชุมนุมบริเวณสี่แยกปทุมวัน ใช้เป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ ชุดจับกุมจึงได้เข้าแฝงตัวเป็นผู้ร่วมชุมนุมเพื่อบันทึกภาพในระยะใกล้ชิด และได้เห็นพฤติการณ์การกระทําความผิด โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้เคลื่อนตัวออกจากแยกปทุมวันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ยุทธวิธีในการสลายการชุมนุม ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามเพื่อทําการจับกุมในทันทีทันใดและโดยขณะก่อนเข้าทําการจับกุม ชุดจับกุมได้แต่งกายนอกเครื่องแบบเพื่ออําพรางสะกดรอยติดตามกลุ่มผู้กระทําความผิด ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดําเนินการตามกฎหมาย
.
ไม่อนุญาตฝากขัง 8 ผู้ต้องหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จาก #ม็อบ16ตุลา
17 ต.ค. 63 เวลา 9.50 น. ผู้ถูกจับกุมจากการสลายการชุมนุม #ม็อบ16ตุลา คืนวานนี้ รวม 8 คน ถูกควบคุมตัวถึงศาลแขวงปทุมวัน พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องและฝากขังผู้ต้องหาทั้งแปดไว้ในระหว่างการสอบสวน เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่ 17-22 ต.ค. 63
ต่อมา เวลา 10.40 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานสอบสวนผัดฟ้อง เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่ยกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ผู้ถูกจับกุมทั้งแปดจึงได้รับการปล่อยตัวแล้ว
.
.
ให้ประกันตัว ทัตเทพ-สมบัติ-ชินวัตร ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์
17 ต.ค. 63 เวลา 11.30 น. ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี แกนนำเยาวชนปลดแอก, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมกลุ่มนนทบุรีปลดแอก และสมบัติ ทองย้อย คนเสื้อแดง ถูกควบคุมตัวถึงศาลแขวงปทุมวันเพื่อขออำนาจศาลฝากขังไว้ในระหว่างสอบสวน หลังในช่วงดึกคืนวานนี้ ทั้งสามถูกจับกุมตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ลงวันที่ 16 ต.ค. 63 ฐานเป็นบุคคลตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี เป็นเวลา 1 คืน เพื่อทำบันทึกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา
พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอผัดฟ้องและฝากขังผู้ต้องหา เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-22 ต.ค. 63 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาเพียง 48 ชั่วโมงก่อนส่งฟ้อง ทั้งนี้ หากศาลอนุญาต ทั้งสามจะถูกนำตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
เวลา 11.43 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผัดฟ้องและฝากขังผู้ต้องหาทั้งสาม ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากเป็นการจับตามหมายจับ
ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสามคนโดยใช้เงินสดจากกองทุนนิรนามเป็นหลักทรัพย์ประกันคนละ 20,000 บาท ซึ่งศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยให้ทั้งสามมารายงานตัวในวันที่ 16 พ.ย. 63
ทัตเทพ-ชินวัตร-สมบัติ ถูกกล่าวหาว่า ฝ่าฝืนข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปหรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย จากพฤติการณ์ “ปรากฏตามในพื้นที่ที่มีการชุมนุม บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63” ในชั้นสอบสวนทั้งสามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ในระหว่างควบคุมตัวทัตเทพไป บก.ตชด.ภาค 1 กลางดึกคืนวาน โดยมี เจมส์-ภานุมาศ ติดตามขึ้นรถไปด้วยในฐานะผู้ไว้วางใจ และเจมส์ได้ใช้โทรศัพท์มือถือไลฟ์สดเพื่อรายงานสถานการณ์บนรถ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจห้าม และพยายามแย่งโทรศัพท์จากเจมส์ จนเจมส์เลือดออก และยุติการไลฟ์ไป
.