ศาลให้รอการลงโทษจำคุก 10 ผู้รับสารภาพแชร์เพจ “KonthaiUk” ส่วนอีก 11 คนยืนยันสู้คดีต่อ

วันนี้ (3 ส.ค. 63) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีแชร์ข้อความจากเพจ KonthaiUK (คนไทยยูเค) จากโพสต์ที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในกรณีการทุจริตจัดซื้อดาวเทียม เมื่อเดือนมิ.ย. 61 คดีนี้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6) เป็นโจทก์ฟ้องนายสุทัศน์ ปะตัง กับพวกรวม 21 คน ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2) 

เบื้องต้นในกรณีนี้มีจำเลย 11 คน ที่ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และจำเลยอีก 10 คน ให้การรับสารภาพ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาจำเลยส่วนคดีที่รับสารภาพ และนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ปฏิเสธข้อกล่าวหา แยกคนละห้องพิจารณาคดีกัน

ในส่วนของ 10 คนที่ให้การรับสารภาพ ศาลนัดฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 708 เวลา 9.00 น. จำเลยทั้งสิบเดินทางมาฟังการพิจารณา โดยศาลอ่านคำพิพากษาในเวลาประมาณ 10.50 น. ก่อนอ่านศาลได้ถามจำเลยทั้งสิบอีกครั้งว่ายืนยันให้การรับสารภาพใช่หรือไม่ หลังจำเลยทั้งสิบยืนยัน ศาลจึงอ่านคำพิพากษา 

ศาลพิเคราะห์แล้ว จำเลยทั้งสิบมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2) เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ศาลลงโทษจำคุกจำเลยทั้งหมด คนละ 2 ปี ปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 1 ปี และปรับ 20,000 บาท พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะแล้ว เห็นว่าจำเลยทั้งหมดไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดมาก่อน จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุก จึงให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 2 ปี และให้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษา

หลังจากอ่านคำพิพากษา จำเลย 4 ราย ยังได้แจ้งต่อศาล ว่าตนไม่มีเงินชำระค่าปรับตามคำพิพากษา ศาลจึงได้มีคำสั่งให้บำเพ็ญประโยชน์แทนการเสียค่าปรับ

ด้าน 11 คนที่ให้การปฏิเสธ ห้องพิจารณาคดีที่ 909 ศาลนัดถามคำให้การ และตรวจพยานหลักฐานในเวลา 09.00 น. จำเลยทั้ง 11 ยังยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้องของโจทก์ 

อัยการโจทก์ได้แถลงนำว่าจะนำสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 14 ปาก โดยพยานลำดับที่ 8-14 เป็นคณะทำงานของพนักงานสอบสวน ที่ร่วมสอบจำเลยแต่ละราย โจทก์ได้สอบถามฝ่ายจำเลยว่าจะรับเอกสารคำให้การของพยานกลุ่มนี้ได้หรือไม่  แต่ทนายความจำเลยทั้ง 11 แถลงไม่รับ อัยการจึงจะนำพยานเข้าสืบจำนวน 14 ปาก ส่วนฝ่ายจำเลย จำเลยแต่ละรายจะขึ้นเบิกความในฐานะพยานด้วยตนเอง ทั้งหมด 11 ปาก

ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานให้ฝ่ายโจทก์ จำนวน 4 นัด ในระหว่างวันที่ 13-16 ก.ค. 2564 และกำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยจำนวน 2 นัด ในระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค. 2564 

มูลเหตุคดี

คดีนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตั้งแต่ช่วง มิ.ย. 2561 โดยในช่วงเวลานั้นตำรวจท่องเที่ยวได้นำตัวผู้ต้องหา 7 คน มาร่วมแถลงข่าวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ด้วยการแสดงหมายเรียก พร้อมนำตัวผู้ต้องหามาจากบ้านและที่ทำงาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องหาที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม คดีไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอีกหลังจากนั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 พนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหามาส่งตัวที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 จนนำมาสู่การสั่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 63

ทั้งนี้ พฤติการณ์ของจำเลยแต่ละคนที่เป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาและดำเนินคดีในคดีนี้แตกต่างกันไป โดยมีจำนวนโพสต์ที่แชร์จากเพจไม่เท่ากัน บางคนเพียงแค่แชร์โพสต์ บางคนแชร์และแสดงความคิดเห็นประกอบด้วย โพสต์ที่ถูกแชร์มาจากเพจมีเนื้อหา ได้แก่ 

  • ภาพพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกอบกับข้อความว่า “เรือเหาะ…ก็ซื้อมาซ่อม ยังจะซื้อดาวเทียม 91200 มาแดกอีก… จะยอมมันอีกไหม”
  • ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบกับข้อความว่า “ตู่ ขอ คนหนีคดีที่อยู่ต่างแดนกลับมาพิสูจน์ความผิดในไทย ขายชาติ ทะหมาอย่างมึง ทำผิด…แต่ไม่ขอรับผิด! คงมีแต่คนเสียสติเท่านั้น ที่จะกลับมาสู้คดี ที่มีแต่กฎหมา เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด”
  • ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและภาพพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกอบกับข้อความว่า “คสช. รัฐบาลเถื่อนคณะตัวเหี้ยแห่งชาติ พวกขายชาติตัวจริง งบประมาณมีไว้กิน แผ่นดินมีไว้ขาย กฎหมายมีไว้เลี่ยง คะแนนเสียงมีไว้ซื้อ สื่อมีไว้ใส่ไฟประชาธิปไตยมีไว้บังหน้า”

กรณีแชร์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและ คสช. จากเพจ “KonthaiUk” ในเดือน มิ.ย. 2561 นี้ ปอท. ดำเนินคดีผู้ใช้เฟซบุ๊กแยกออกเป็น 2 คดี นอกจากคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาลนี้แล้ว ในอีกคดีหนึ่ง คือคดีแชร์โพสต์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หนีข้อหากบฏไปประเทศอังกฤษ ศาลได้พิพากษายกฟ้องจำเลย 10 ราย ไปเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่อย่างใด

รวมแล้วคดีแชร์เพจ “KonthaiUK” มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 31 คน โดยในจำนวนนี้ ไม่ได้รวมนางวัฒนา เอ็บเบจช์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแอดมินเพจ แต่พำนักอาศัยอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: 

ฟ้อง 21 จำเลย เหตุแชร์โพสต์ “KonthaiUk” วิจารณ์ คสช.

อัยการแยกฟ้องคดี 11 ผู้แชร์เพจ “KonthaiUk” วิจารณ์ “ประยุทธ์-ประวิตร” ซึ่งยังยืนยันสู้คดี

X