เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 ประชาชนจากหลายจังหวัดทั่วประเทศได้ลุกขึ้นมาแสดงออก ภายใต้กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” (Run Against Dictatorship) ซึ่งริเริ่มโดยธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือ “บอล” นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิสิต นักศึกษา จากสถาบันต่างๆ ในนาม “คณะกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงเพื่อประโยชน์ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนประเทศไทย” มีวัตถุประสงค์ให้เป็นกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และเพื่อ “ต่อต้านตัวถ่วงความเจริญของประเทศ”
แม้งานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” จะถูกปฏิเสธจากสถานที่จัดงานถึง 2 ครั้ง ทั้งที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) และโรงแรมรัตนโกสินทร์ แต่ท้ายที่สุดผู้จัดก็ใช้พื้นที่บริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการแถลงข่าวเปิดตัวงานดังกล่าว ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 หลังจากนั้น ตลอดเดือนธันวาคมจนถึงก่อนหน้าวันวิ่ง ก็ได้มีการประกาศจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง จากนักกิจกรรมและประชาชนในอีกหลายพื้นที่ของประเทศอย่างต่อเนื่อง กระทั่งกลายเป็นงานใหญ่ครั้งหนึ่ง ระดับที่มีการจัดกิจกรรมนี้ในพื้นที่อย่างน้อย 39 จังหวัด บางจังหวัดก็มีการออกวิ่งจากหลายจุด
การจัดงานวิ่งในแทบทุกจังหวัดต้องเผชิญกับปัญหาการใช้สิทธิเสรีภาพในการจัดกิจกรรม ไม่แตกต่างไปจากการจัดกิจกรรมทางการเมืองในสมัยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังดำรงอยู่ แม้แนวโน้มโดยรวมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจะสามารถจัดขึ้นได้ในแทบทุกจังหวัด แต่ก็ประสบปัญหาการละเมิดสิทธิในลักษณะต่างๆ อาทิ ปัญหาการข่มขู่ คุกคาม ติดตามจากเจ้าหน้าที่รัฐ, การใช้กฎหมายเกี่ยวกับชุมนุมสาธารณะเข้ามาควบคุมปิดกั้น, การกดดันแทรกแซงกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ หรือแม้แต่ในพื้นที่ที่ไม่ได้จัดกิจกรรม ก็กลับมีการติดตามคุกคามประชาชนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจเช็คข้อมูลและพยายามไม่ให้มีการจัดวิ่งเกิดขึ้นได้อีกด้วย ทำให้กิจกรรมในแต่ละพื้นที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ขนาดกิจกรรมเล็กลง พื้นที่ในการจัดกิจกรรมจำกัดลง หรือการแสดงออกต่างๆ ไม่สามารถกระทำได้ (อ่านประมวลกิจกรรมวิ่งไล่ลุง)
ภายหลังกิจกรรมเสร็จสิ้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า มีการดำเนินคดีกับผู้จัดและผู้ที่เจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นผู้จัดงาน “วิ่งไล่ลุง” ในหลายพื้นที่ โดยจากการรวบรวมข้อมูลจนถึงวันที่ 12 มี.ค. 63 มีจำนวนอย่างน้อย 16 คดี
- 14 คดี ถูกแจ้งข้อหาไม่แจ้งการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 10 แยกเป็นผู้ถูกดำเนินคดี 18 ราย โดยที่จังหวัดเชียงรายมีผู้ถูกดำเนินคดีพร้อมกัน 5 รายในข้อหานี้
- 3 แห่ง มีการแจ้งข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 (จังหวัดกาฬสินธุ์, แพร่ และตรัง)
- 1 แห่ง แจ้งข้อหาใช้เส้นทางผิวการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 148 (จังหวัดกาฬสินธุ์)
- ที่นครสวรรค์ ตำรวจยังแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 และกีดขวางการจราจร ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 108 ร่วมด้วย
ทั้งนี้ ข้อหา “ไม่แจ้งการชุมนุม” มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ไม่มีโทษจำคุก เช่นเดียวกับข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งปรับไม่เกิน 200 บาท และข้อหาใช้เส้นทางผิวการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งปรับไม่เกิน 500 บาท ทำให้ผู้ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ เนื่องจากไม่ต้องการเป็นคดีความยืดเยื้อ
แต่ในจำนวนนี้ก็ยังมีอีก 8 คดี รวมจำนวนผู้ถูกดำเนินคดี 12 คน ที่ยังยืนยันต่อสู้คดี เนื่องจากเห็นว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นกิจกรรมการกีฬา ซึ่งได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ให้ไม่ต้องแจ้งการชุมนุม รวมทั้งบางคนยืนยันว่าเป็นเพียงผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น ไม่ใช่ผู้จัดกิจกรรมแต่อย่างใด
คดีที่ผู้ต้องหายืนยันการต่อสู้คดีเหล่านี้ กำลังทยอยถูกส่งฟ้องสู่ชั้นศาล จึงต้องจับตาแนวทางการพิจารณาของศาลในประเด็นการใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กับกิจกรรมวิ่งไล่ลุงต่อไป
หลังกิจกรรมจบไปแล้วเกือบ 1 ปี ทั้ง 16 คดี มีความเคลื่อนไหวดังนี้ (คลิกชื่อจังหวัดเพื่อดูรายละเอียดและความคืบหน้าของคดี โดยเฉพาะ สีส้ม ซึ่งเป็นคดีที่ศูนย์ทนายฯ ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย)
**มีการปรับปรุงข้อมูลเมื่อ 23 ธ.ค. 2563
รายชื่อผู้ถูกดำเนินคดีจากกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 63 | ||||||
ลำดับที่ | จังหวัด | ชื่อ-สกุล | ข้อหา | สถานีตำรวจ | การต่อสู้คดี | สถานะคดี |
ภาคกลาง | ||||||
1. | กรุงเทพฯ | นายธนวัฒน์ วงค์ไชย | ไม่แจ้งการชุมนุม | สน.บางซื่อ | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี | ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น (สืบพยาน 21-23 เม.ย. 64) |
2. | นนทบุรี | นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.รัตนาธิเบศร์ | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี | ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับ 3,000 บาท อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ |
3. | นครสวรรค์ | นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี | ไม่แจ้งการชุมนุม, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน, ทำให้เดือดร้อนรำคาญ, กีดขวางการจราจร | สภ.เมืองนครสวรรค์ | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี | ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น (นัดสอบคำให้การ 2 ก.พ. 64) |
4. | กรุงเทพฯ (เขตบางขุนเทียน) | นายวิเชียร กันทาทรัพย์ | ไม่แจ้งการชุมนุม | สน. ท่าข้าม | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท/คดีสิ้นสุด |
(ยังไม่เป็นคดี) | สมุทรปราการ | นางวิภา มัจฉาชาติ | – | สภ.สมุทรปราการ | – | ได้รับหมายเรียกเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน |
นายเซีย จำปาทอง | ||||||
ภาคเหนือ | ||||||
5. | พิษณุโลก | นายวรชิต กาญจนกำเนิด | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองพิษณุโลก | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท/คดีสิ้นสุด |
6. | ลำพูน | นายสุรชัย ซาวบุญตัน | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองลำพูน | รับสารภาพ | ศาลจังหวัดลำพูนพิพากษาปรับ 400 บาท ลดครึ่งเหลือปรับ 200 บาท/คดีสิ้นสุด |
7. | เชียงราย | นายเอกรัฐ มัชฌิมา | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองเชียงราย | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี | ชั้นสอบสวน (ฟังคำสั่งอัยการ 5 ม.ค. 64) |
8. | นางสาวนรินนิราน์ แสงขาม | |||||
9. | นายกฤตตฤณ สุขบริบูรณ์ | |||||
10. | นายภัทรกฤต ดวงสนิท | |||||
11. | นายนิรุตติ์ แก้วกันทา | |||||
12. | แพร่ | ประเสริฐ หงวนสุวรรณ | ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับ200 บาท/คดีสิ้นสุด | |
ภาคอีสาน | ||||||
13. | บุรีรัมย์ | น.ส.อิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.สตึก | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี (ยื่นศาล รธน. วินิจฉัย พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ขัด รธน.) | ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น (สืบพยาน 4 มี.ค. 64) |
14. | นครพนม | นายพิศาล บุพศิริ | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองนครพนม | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี (ยื่นศาล รธน. วินิจฉัย พ.ร.บ.ชุมนุมฯ) | ศาลชั้นต้น (นัดฟังคำพิพากษา 17 มี.ค. 64) |
15. | สุรินทร์ | นายนิรันดร์ ลวดเงิน | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองสุรินทร์ | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท/คดีสิ้นสุด |
16. | ยโสธร | นายชัยวัฒน์ สายสีแก้ว | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองยโสธร | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 3,000 บาท/คดีสิ้นสุด |
17. | กาฬสินธุ์ | นายปิยรัฐ จงเทพ | ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต , ใช้ผิวจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต | สภ.เมืองกาฬสินธุ์ | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 700 บาท/คดีสิ้นสุด |
กาฬสินธุ์ | นายปิยรัฐ จงเทพ | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.เมืองกาฬสินธุ์ | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี | ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น (สืบพยาน 19-21 ม.ค. 64) | |
ภาคใต้ | ||||||
18. | พังงา | นายประเสริฐ กาหรีมการ | ไม่แจ้งการชุมนุม | สภ.ตะกั่วป่า | ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี (ยื่นศาล รธน. วินิจฉัย พ.ร.บ.ชุมนุมฯ) | ศาลชั้นต้น (จำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอฟังคำวินิจฉัยของศาล รธน.ก่อน) |
19. | ตรัง | นายรัฐประชา พุฒนวล | ไม่แจ้งการชุมนุม, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต | สภ.เมืองตรัง | รับสารภาพ | ตำรวจเปรียบเทียบปรับข้อหาไม่แจ้งชุมนุม 4,000 บาท, ข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงฯ 200 บาท/คดีสิ้นสุด |
.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีวิ่งไล่ลุง
วิ่งไล่ลุงทำได้ : ข้อพิจารณาทางกฎหมายเบื้องต้นต่อการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง”
ผู้จัดวิ่งไล่ลุงลำพูน ถูกตร.เรียกไปแจ้งข้อหาไม่แจ้งชุมนุม ก่อนถูกส่งศาลลงโทษปรับ 400 บาท
ผู้จัดวิ่งไล่ลุงพิษณุโลก ถูกปรับไม่แจ้งชุมนุม 2 พัน เจ้าตัวยันไม่เคยเห็นว่าเป็นความผิด
การออกวิ่งที่เต็มไปด้วยขวากหนาม: ภาพรวมการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในกิจกรรม #วิ่งไล่ลุง ทั่วไทย
ถูกปรับแล้ว 2 รายในภาคอีสาน หลังรับว่าเป็นผู้จัด “วิ่งไล่ลุง” อีก 2 ยืนยันสู้คดี