อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีทนายศิริกาญจน์ ความผิดฐานซ่อนเร้นพยานหลักฐานและขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน

(Photo Credit: Thai Lawyers for Human Rights)

ศิริกาญจน์ เจริญศิริ หรือทนายจูน ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จะเดินทางเข้าฟังคำสั่งอัยการสูงสุดซึ่งมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี จากกรณีที่ศิริกาญจน์ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานซ่อนเร้นพยานหลักฐานและทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 142 และมาตรา 368 เพราะเหตุสืบเนื่องจากการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่นักศึกษาเเละนักกิจกรรมกลุ่มดาวดินเเละกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เมื่อปี 2558 โดยศิริกาญจน์จะเข้ารับฟังคำสั่งดังกล่าว ณ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ในวันพรุ่งนี้ (27 สิงหาคม พ.ศ.2562) เวลา 10.00 น.

ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งในคดีนี้ ทำให้ศิริกาญจน์ต้องเข้ารายงานตัวเเละรับทราบคำสั่งเลื่อนดังกล่าว ณ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 ดุสิต รวม 12 ครั้ง นับเเต่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เเจ้งข้อกล่าวหาต่อศิริกาญจน์ เมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2559 ซึ่งอัยการนัดฟังคำสั่งในครั้งต่อไป คือ วันที่ 27 ส.ค. 2562 แต่ต่อมายกเลิกวันนัดดังกล่าว และเปลี่ยนเป็นนัดรับทราบคำสั่งอัยการสูงสุด ณ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม แทน

ทั้งนี้ การดำเนินคดีในฐานความผิดข้างต้นต่อศิริกาญจน์ เป็นเหตุสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นทนายความให้กับนักศึกษาเเละนักกิจกรรมกลุ่มดาวดินเเละกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งถูกนำตัวเข้าไต่สวนเพื่อฝากขัง ณ ศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ 26-27 มิ.ย. 2558 เเละระหว่างนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่บริเวณศาล เพื่อขอตรวจค้นเอกสารเเละสิ่งของในรถของศิริกาญจน์ ซึ่งกลุ่มนักศึกษาเเละนักกิจกรรมมอบให้ทนายความช่วยดูเเล เนื่องจากทั้งหมดถูกนำตัวไปฝากขังระหว่างการสอบสวน ณ ศาลทหารกรุงเทพเเล้ว อย่างไรก็ตาม ศิริกาญจน์ ในฐานะทนายความและเจ้าของรถผู้รับฝาก ไม่ยินยอมให้ตรวจค้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหมายค้นมาเเสดงต่อตน ต่อมา ศิริกาญจน์เข้าร้องทุกข์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากการห้ามเคลื่อนย้ายรถในคืนดังกล่าว อันเป็นที่มาของการดำเนินคดีต่อศิริกาญจน์ถึง 3 คดี ซึ่งรวมถึงคดีร่วมกันยุยงปลุกปั่นและชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ตามมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา เเละข้อที่ 12 ของคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 และคดีแจ้งความเท็จ ตามมาตรา 172 ประมวลกฎหมายอาญา โดยทั้งสองคดียังอยู่ในชั้นสอบสวน

ในขณะที่ความคืบหน้าของคดีที่ศิริกาญจน์ร้องทุกข์ว่า พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช กระทำความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากเหตุการณ์ค้นรถโดยไม่มีหมายค้น ซึ่งเป็นเหตุให้ศิริกาญจน์ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามรายละเอียดข้างต้นนั้น เมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ.2559 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เเจ้งความคืบหน้าว่าคณะกรรมการดังกล่าวมีความเห็นไม่ดำเนินคดีกับพล.ต.ต.ชยพลและชุดตรวจค้น เนื่องจากพบว่ายังไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่เพียงพอจะดำเนินคดีได้

ข้อมูลเพิ่มเติม:

อัยการเลื่อนฟังคำสั่งคดีทนายจูนไม่ให้ตร. ค้นรถเป็นครั้งที่ 9

‘ทนายจูน’ รับทราบข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะแจ้งความ ตร. ยึดรถโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดำเนินคดีทนายความกระทบความยุติธรรม ทนาย NDM ให้การเพิ่มคดีชุมนุมต่อต้าน คสช.

ตร. มีความเห็นสั่งฟ้องทนาย NDM คดีไม่ยอมให้ค้นรถ อัยการนัดฟังคำสั่ง 27 ก.ค. หลังทนายขอความเป็นธรรมให้สอบพยานเพิ่ม

10 องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างประเทศเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับ “นางสาวศิริกาญจน์ เจริญศิริ” โดยทันที

Lawyer of NDM student activists to be charged for defending her clients

X