‘ทนายจูน’ รับทราบข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะแจ้งความ ตร. ยึดรถโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

‘ทนายจูน’ รับทราบข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะแจ้งความ ตร. ยึดรถโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

2 ส.ค. 2560 อัยการศาลแขวงดุสิตเลื่อนฟังคำสั่ง คดีซ่อนเร้นพยานหลักฐานของ ‘ทนายจูน’ ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ก่อนพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อกล่าวหาในคดีแจ้งความเท็จ จากการแจ้งความว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยึดรถของเธอที่จอดอยู่หน้าศาลทหารกรุงเทพไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

09.30 น. ศิริกาญจน์เดินทางเข้าพบอัยการศาลแขวงดุสิต โดยมีเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป เจ้าหน้าที่สถานทูตแคนาดา สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เนเธอร์เเลนด์ และสวีเดนร่วมให้กำลังใจ นัดนี้ อัยการศาลแขวงดุสิตขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องคดีฐานซ่อนเร้นพยานหลักฐานและและทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตามมาตรา 142 และมาตรา 368 ประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ ออกไปเป็นวันที่ 20 พ.ย. 2560 เวลา 09.30 น. ซึ่งนับเป็นการเลื่อนฟังคำสั่งอัยการ ครั้งที่ 7 หลังตำรวจส่งสำนวนให้อัยการมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว

ต่อมา 11.00 น. ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ตามหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาฐานแจ้งความเท็จ ซึ่ง พ.ต.อ.สุริยา จำนงโชค เป็นผู้กล่าวหาว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. 2558 เจ้าหน้าที่ได้จับกุม 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) เป็นผู้สั่งการให้ตรวจค้นรถยนต์ของศิริกาญจน์ เนื่องจากเห็นว่านักศึกษาฝากสัมภาระไว้กับเธอ แต่ศิริกาญจน์ไม่ยินยอม พล.ต.ต.ชยพล จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษารถยนต์คันดังกล่าวไว้ให้เรียบร้อยอย่างดี และล็อกล้อรถยนต์ไว้ พร้อมนำเทปกาวมาปิดไว้ที่มือจับสำหรับเปิดประตูรถทั้งหมดทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายหรือเปิดประตูรถ ซึ่งต่อมา ศิริกาญจน์ได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ในวันที่ 27 มิ.ย. 2558 ความว่า

“เนื่องจาก พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ไม่มีข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุเพียงพอที่จะมีอำนาจในการเข้าควบคุมและยึดรถของผู้กล่าวหาในความครอบครองได้ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะเป็นการควบคุมและยึดรถของข้าฯ โดยไม่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และทำให้เกิดความเสียหาแก่ข้าฯ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทำให้ข้าฯ ไม่สามารถนำรถยนต์และสัมภาระออกมาจากพื้นที่ และไม่สามารถนำรถยนต์และสัมภาระไปใช้ประโยชน์ได้ตามปกติ

“ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 132 (2) นั้น จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการค้น และในการยึดไว้ซึ่งสิ่งของที่ค้นพบตามมาตรา 132 (4) นั้น ต้องเป็นการยึดไว้ซึ่งสิ่งของที่ค้นพบ แต่พฤติการณ์ของ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช กับพวกนั้น เป็นการยึดไว้ซึ่งสิ่งของหรือรถยนต์ของข้าพเจ้าโดยไม่มีหมาย อีกทั้งในการยึดและควบคุมรถของข้าฯ ไว้ ก็ไม่ได้มีการทำบันทึกใด ๆ ไว้เป็นหลักฐาน การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

พ.ต.อ.สุริยา จำนงโชค เห็นว่า ข้อความที่ศิริกาญจน์แจ้งความดังกล่าว เป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ ทำให้ พล.ต.ต.ชยพล กับพวกได้รับความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 และมาตรา 174

หลัง พ.ต.ต.หญิง ชมภูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อกล่าวหาให้ศิริกาญจน์รับทราบแล้ว ศิริกาญจน์ได้ให้การปฏิเสธ และจะทำคำให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 30 ก.ย. 2560 พร้อมแจ้งความประสงค์ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปลี่ยนแปลงพนักงานสอบสวน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้ความเป็นธรรม เนื่องจาก พ.ต.อ.สุริยา ผู้กล่าวหา และ พล.ต.ต.ชยพล ผู้เสียหายในคดีนี้ เป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีอำนาจบังคับบัญชาและสั่งการต่อพนักงานสอบสวน รวมถึงตำรวจในเขตกองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมทั้งมีเหตุโกรธเคืองกัน เนื่องจากศิริกาญจน์เคยแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.ชยพล ผู้เสียหาย จึงขอให้พนักงานสอบสวนชะลอการดำเนินคดีนี้ไว้จนกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีคำสั่งใด ๆ โดยศิริกาญจน์จะเป็นฝ่ายทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม เพื่อเปลี่ยนแปลงพนักงานสอบสวนภายใน 15 วัน

ระหว่างการรับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้ มีผู้แทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) เข้าร่วมสังเกตการณ์ ส่วนผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรป สถานทูตแคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เนเธอร์เเลนด์ สวีเดน แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (ICJ) สมาพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล (FIDH) และโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) รออยู่ด้านนอก

คดีนี้นับเป็นคดีที่ 3 ต่อจาก คดีซ่อนเร้นพยานหลักฐาน และคดีร่วมกับ 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ในข้อหายุยงปลุกปั่น ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการเดินทางไปสังเกตการณ์และปฏิบัติหน้าที่ทนายความให้กับกลุ่มนักศึกษาในช่วงวันที่ 25-27 มิ.ย. 2558 ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 พนักงานสอบสวนไม่สามารถแจ้งข้อหานี้แก่ทนายจูนได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่สามารถระบุได้ว่าข้อความตอนใดจากการแจ้งความของทนายจูนที่เป็นข้อความเท็จ ก่อนจะมีหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากผ่านไปแล้วกว่าปี

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

X