เช้าวันนี้(19 มิ.ย.2561) ศิริกาญจน์ เจริญศิริ หรือทนายจูน ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าฟังคำสั่งอัยการศาลแขวงดุสิตว่าจะฟ้องศิริกาญจน์ต่อศาลหรือไม่ จากการที่เธอถูกกล่าวหาตามฐานซ่อนเร้นพยานหลักฐานและทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 142 และมาตรา 368 แต่อัยการได้เลื่อนฟังคำสั่งอีกเป็นครั้งที่ 9 และให้มาฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 25 ต.ค.2561 นี้
คดีนี้สืบเนื่องจากศิริกาญจน์ไปปฏิบัติหน้าที่ทนายความให้กับกลุ่มนักกิจกรรมขบวนการประชธิปไตยใหม่ (NDM) ที่ศาลทหารกรุงเทพ เมื่อ 26-27 มิถุนายน 2558 ภายหลังศาลทหารไต่สวนฝากขังทั้ง 14คนเสร็จ ตำรวจได้พยายามเข้าค้นรถยนต์ของศิริกาญจน์ที่จอดอยู่หน้าศาลทหารโดยไม่มีหมายค้น เธอจึงปฏิเสธไม่ให้ตำรวจค้นรถโดยไม่มีหมายศาล ภายหลังตำรวจดำเนินคดีกับเธอและส่งสำนวนคดีให้อัยการตั้งแต่ 12 พ.ค.2559 รวมเป็นเวลา 2 ปี 1 เดือนแล้วที่คดีนี้อยู่ในชั้นอัยการ
นัดรายงานตัวครั้งนี้มีผู้สังเกตการณ์จากสถานทูตสวีเดน ฝรั่งเศส EU อเมริกาและเนเธอแลนด์
นอกจากนั้นศิริกาญจน์ยังถูกดำเนินคดีอีก 2 คดี คดีแรกเธอถูกกล่าวหาว่าได้ร่วมกันยุยงปลุกปั่นและมั่วสุมชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปจากการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์การชุมนุมของ NDMเมื่อ 25 มิ.ย.2558 และคดีที่สองเธอถูกกล่าวหาว่าแจ้งความเท็จจากการแจ้งความพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 (ตำแหน่งในเวลานั้น) และชุดตรวจค้น ที่ยึดรถของเธอที่จอดอยู่หน้าศาลทหารกรุงเทพไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งทั้งสองคดียังอยู่ในชั้นสอบสวนของตำรวจตั้งแต่ตุลาคม 2559 และ สิงหาคม 2560 ตามลำดับ
‘ทนายจูน’ รับทราบข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะแจ้งความ ตร. ยึดรถโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทนายความของศูนย์ทนายฯ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาชุมนุมตั้งแต่ 5 คน และม.116
แต่ในทางกลับกัน คดีที่ศิริกาญจน์แจ้งความดำเนินคดีพล.ต.ต.ชยพลจนทำให้เธอถูกดำเนินคดีแจ้งความเท็จ เมื่อ 19 ต.ค.2559 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มีความเห็นไม่ดำเนินคดีกับพล.ต.ต.ชยพลและชุดตรวจค้น เนื่องจากมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานไม่เพียงพอ