หลังจากยืดเยื้อยาวนาน คดีธเนตรแชร์ผังอุทยานราชภักดิ์ ศาลสืบพยานนัดแรกแล้ว 22 มี.ค. 62

ภาพ: ธเนตร อนันตวงษ์ ถูกทหารนำตัวส่งกองปราบปราม เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 58 ที่มา: Bannrasdr Photo

20 ธ.ค. 62 ที่ศาลทหารกรุงเทพ เป็นนัดตรวจพยานและหลักฐานคดีที่อัยการศาลทหารกรุงเทพ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธเนตร อนัตวงษ์ ในคดีโพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กส่วนตัวทั้งข้อความและรูปภาพเกี่ยวกับประเด็นการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ จำนวน 5 ครั้ง ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116

ก่อนหน้านี้ ในชั้นสอบคำให้การของคดีนี้ทนายจำเลยได้ขอให้ศาลเปลี่ยนองค์คณะเพื่อพิจารณาคดี เนื่องจากมีการตัดบัญชีพยานหลักฐานของจำเลย ที่ขอให้ศาลเรียกพยาน 2 ปาก เข้ากระบวนการสืบพยาน คือ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา และพลเอกอุดมเดช สีตะบุตร (อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมใน: ศาลสั่งตัดพยานพิสูจน์ทุจริตราชภักดิ์ คดีธเนตร ถูกฟ้อง ม.116) และนอกจากนี้คดีนี้ยังถูกเลื่อนมาหลายครั้ง ทำให้คดีมีความยืดเยื้อขณะที่จำเลยยังคงถูกขังอยู่ในเรือนจำ โดยคดีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทุจริตในโครงการราชภักดิ์เป็นไปอย่างกว้างขวาง มีการฟ้องร้องเอาผิดประชาชนเป็นจำนวนหลายราย (อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ที่: ขัง “ตูน” ธเนตร คดีม.116 จากโพสต์ FB ต่อ หลังศาลพิพากษาคุก 6+2 เดือน ในคดีรถไฟไปราชภักดิ์ฯ)

10.00 น. ผู้พิพากษาศาลทหารขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดี ศาลให้ทนายจำเลยตรวจเอกสารบัญชีพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ ต่อมาโจทก์ได้แถลงแนวทางการสืบพยาน โดยมีพยานที่สำคัญ อาทิ พลตรีวิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้กล่าวหาและผู้ซักถามจำเลยในขณะที่ควบคุมตัว

นอกจากนี้ในบัญชีพยานฝ่ายโจทก์ยังประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในฐานะผู้ตรวจเฟสบุ๊คของจำเลย นักวิชาการทางกฎหมายผู้ให้ความเห็นทางวิชาการคือรองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก และพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่โจทก์ได้ยื่นบัญชีเอกสาร เลขที่ 7-19 เข้าประกอบการสืบพยาน ก่อนที่โจทก์แถลงไม่รับเอกสารฝ่ายจำเลย

ต่อมาทนายความจำเลยได้แถลงแนวทางการสืบพยาน ได้แก่ พยานปากแรกจำเลยได้อ้างตัวเองเป็นพยาน ถัดมาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนิติศาสตร์ 1 คน และผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาศาสตร์ 1 คน ขณะที่พยานที่ 4-5 ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลมีคำสั่งให้ตัดพยานไปนั้น ด้านทนายความขอแถลงยืนยันให้ใส่บัญชีพยาน 2 ปากลงในการบันทึกกระบวนการสืบพยาน คือพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา และพลเอกอุดมเดช สีตะบุตร และขอให้ศาลบันทึกเป็นคำสั่งไม่รับบัญชีพยาน 2 ปากลงในรายงานกระบวนพิจารณาคดี

ขณะที่เดียวกันทนายความจำเลยเห็นว่าการสืบพยานโจทก์ มีความล่าช้า และขณะนี้การตรวจพยานจนสามารถสืบพยานโจทก์ 6 นัดหน้าได้ จึงขอให้มีการสืบพยานแบบต่อเนื่องและรวดเร็ว เพื่อความเป็นธรรมแก่จำเลย โดยศาลได้อ่านบันทึกกระบวนการพิจารณาคดี ก่อนจะนัดคู่ความทั้งสองฝ่ายสืบพยาน 6 นัด ได้แก่นัดแรกคือ วันที่ 22 มี.ค. 62 . และนัดต่อไปคือวันที่ 19 และ 24 เม.ย. 62 และนัดสุดท้ายมี 3 วัน คือวันที่ 7, 16 และ 23 พ.ค 62