ภาพจากเว็บไซต์มติชนออนไลน์
18 มิ.ย. 61 นางสมใจ (นามสมมติ) เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตามหมายเรียกเมื่อวันที่11 มิ.ย.61 โดยพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้รับมอบอำนาจจาก คสช. เป็นผู้ร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี
ทั้งนี้ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า ผู้ดูแลเพจเฟสบุ๊กชื่อ “khonthaiUK” และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ โดยประการที่นำจะทำให้เกิดความเสียหาย ต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตระหนกแก่ประชาชน อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ. ศ. 2550 (ฉบับแก้ไขที่ 2 พ.ศ.2560) มาตรา 14 (2), (5) ซึ่งมีการโพสต์ข้อความ จำนวน 3 โพสต์ คือ
- ภาพพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกอบกับข้อความว่า “เรือเหาะ…ก็ซื้อมาซ่อม ยังจะซื้อดาวเทียม 91200 มาแดกอีก… จะยอมมันอีกไหม”
- ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบกับข้อความว่า “ตู่ ขอ คนหนีคดีที่อยู่ต่างแดนกลับมาพิสูจน์ความผิดในไทย ขายชาติ ทะหมาอย่างมึง ทำผิด…แต่ไม่ขอรับผิด! คงมีแต่คนเสียสติเท่านั้น ที่จะกลับมาสู้คดี ที่มีแต่กฎหมา เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด”
- ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและภาพพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกอบกับข้อความว่า “คสช. รัฐบาลเถื่อนคณะตัวเหี้ยแห่งชาติ พวกขายชาติตัวจริง งบประมาณมีไว้กิน แผ่นดินมีไว้ขาย กฎหมายมีไว้เลี่ยง คะแนนเสียงมีไว้ซื้อ สื่อมีไว้ใส่ไฟประชาธิปไตยมีไว้บังหน้า”
ทั้งนี้นางสมใจ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ได้แชร์โพสต์จากเพจ khonthaiUK เพียงโพสต์เดียวเท่านั้น คือโพสต์ที่ 3 ที่กล่าวไว้ในข้างต้น ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิดข้อหาเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่นำจะทำให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตระหนกแก่ประชาชน ตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (ฉบับแก้ไขที่ 2 พ.ศ.2560) มาตรา 14 (5) โดยที่นางสมใจได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและพร้อมที่จะต่อสู้คดี
จากนั้น หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนางสมใจ โดยไม่มีการควบคุมตัว ซึ่งหากทำสำนวนเสร็จ พนักงานสอบสวนจะนัดให้ผู้ต้องหามาพบเพื่อส่งสำนวนให้อัยการต่อไป
นอกจากนี้ เว็บไซต์มติชนออนไลน์ ยังรายงานว่า ได้มีการดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความข่าวสารอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊ก อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ จำนวนทั้งสิ้น 7 ราย และอยู่ระหว่างออกหมายเรียกกว่า 20 ราย โดยมีความผิดฐาน “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อการรักษาความมั่งคงปลอดภัยของประเทศหรือความมั่งคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตามมาตรา 14(5) โทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กวาดจับคนแชร์โพสต์ ‘KonthaiUK’ วิจารณ์คสช.: เมื่อ ‘ผู้เห็นต่าง’ ถูกประทับว่าบั่นทอนความมั่นคง