“ผมต้องอยู่ให้ได้จนกว่าจะได้ออกไปเจอลูก” ความตั้งใจของ “ปณิธาน” ผู้ต้องขัง ม.112 พ่อลูกอ่อน

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2568 ทนายความเข้าเยี่ยม “ปณิธาน” (นามสมมติ)พ่อลูกอ่อนจากจังหวัดสระแก้ว วัย 28 ปี   ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากข้อกล่าวหาเรื่องคอมเมนต์ใต้โพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง คดีของเขาสิ้นสุดลงหลังศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทำให้เขาสูญเสียอิสรภาพมาตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2568 

หลังถูกคุมขังเกือบ 1 เดือนมา ปณิธานดูเหนื่อยล้า แต่ยังคงรอยยิ้ม พยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขา แต่ก็พยายามมองโลกในแง่ดี และหาทางอยู่รอดในสถานการณ์ที่ตนและครอบครัวไม่เคยเผชิญมาก่อน

________________________________

“สบายดี ปรับตัวได้ ข้างในไม่มีปัญหา เพื่อนเยอะ” เสียงของปณิธานดังขึ้น แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าตัวเองยังไม่ค่อยเก่งในการพูดคุยกับคนอื่น แต่ความเป็นมิตรจากเพื่อนนักโทษคนอื่น ๆ ทำให้เขารู้สึกไม่เหงาเกินไป

เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา กลายเป็นวันแห่งความสุขเศร้าปนกัน เมื่อภรรยาและลูกสาววัย 2 ขวบเศษ ของเขาเดินทางจากสระแก้วมาเยี่ยม ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้เห็นหน้าลูก กลายเป็นกำลังใจสำคัญ  “ผมอยากเข้าไปกอดลูกมาก ส่วนลูกก็ร้องไห้อยากมาหาพ่อ หาพ่อ จะไปหาพ่อ”  ปณิธานเล่าถึงความลึกซึ้งในการพบหน้าครอบครัว 

ความรักและการปลอบประโลมระหว่างแม่ลูกปรากฏชัด เมื่อภรรยาต้องใช้ถ้อยคำอ่อนโยนบอกลูกสาวว่า “พ่อไปเรียนตัดผม”  คำอธิบายที่ไม่ได้เป็นเพียงการปลอบใจเด็กน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นความจริงอีกด้วย เพราะปณิธานได้ลงเรียนตัดผมในเรือนจำ “เดี๋ยวเรียนเสร็จจะมาตัดผมให้ลูกนะ เอาสวย ๆ เลย” คำพูดที่เขาฝากไปถึงลูกสาว 

ภาพของลูกสาวที่ส่งมาทางจดหมายกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาผ่านพ้นวันเวลาที่ยากลำบาก “ลูกเข้าเรียนอนุบาลแล้ว เข้ากับเพื่อน ๆ ได้ดีเลย” ความภาคภูมิใจของพ่อหนุ่มปรากฏชัดในสีหน้า  “ลูกเล่นสกู๊ตเตอร์ด้วยนะ มีแข่งด้วยนะชั้นอนุบาล แข่งปีหน้า ถ้าผมออกไปก็ได้ไปดูลูกแข่ง” เป็นความหวังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่สำหรับชายคนหนึ่งที่ต้องพลัดพรากจากช่วงเวลาสำคัญในชีวิตลูก

“ผมต้องอยู่ให้ได้จนกว่าจะได้ออกไปเจอลูก”  ความมุ่งมั่นในน้ำเสียงของเขาแสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิต

อีกเรื่องสำคัญที่ต้องปรับตัวสำหรับปณิธาน คืออาหารในวันหยุดที่เรือนจำไม่มีกับข้าวให้ เขาต้องพึ่งพาขนมที่ตุนไว้ แม้ว่าจะอดทนได้ แต่เขาก็ยังต้องการที่จะได้รับความช่วยเหลือเล็กน้อย “ถ้าได้กล้วยมาอีกก็น่าจะดีนะครับ ผมขับถ่ายยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สะท้อนถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ง่ายนัก 

ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ปณิธานหวังว่าจะมีอภัยโทษ ซึ่งอาจทำให้เขาได้ลดหย่อนโทษลง และเป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้เขาได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวได้เร็วขึ้น 

ขณะที่เรื่องการเปลี่ยนแดนที่เขาเคยกังวลและสอบถามจากผู้คุมเรือนจำ ปรากฏว่าเขาจะไม่ถูกย้ายไปไหน ซึ่งกลับกลายเป็นข่าวดีสำหรับการปรับตัว ปณิธานกล่าวทิ้งท้ายก่อนลาจากครั้งนี้  “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมพยายามปรับตัวให้ได้ โชคดีครับ”  

พื้นเพปณิธาน มาจากครอบครัวผู้รับจ้างใช้แรงงาน ตัวเขาจบการศึกษาด้านช่างกลโรงงาน จากวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี เคยทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงของหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดสระแก้ว แต่หลังถูกดำเนินคดีนี้ได้ตัดสินใจลาออก หันมาเป็นพ่อค้าขายยำ และต่อมาต้องรับงานก่อสร้างแทน เขากับภรรยามีลูกสาวคนแรกด้วยกันก่อนฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีนี้ไม่กี่วัน

จนถึงปัจจุบัน (16 มิ.ย. 2568) ปณิธาน ถูกคุมขังมาแล้ว 35 วัน โดยคดีของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ยังต้องถูกคุมขังไปอีกราว 1 ปี 5 เดือน

.

📩 สามารถเขียนจดหมายออนไลน์ถึงปณิธานผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล

.

อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เมื่อครอบครัวยังไม่ได้ไปทะเลด้วยกัน: เรื่องราวของ “ปณิธาน” อีกหนึ่งผู้ถูกคุมขังคดี ม.112

ดู รายชื่อผู้ต้องขังทางการเมือง 2568

X