22 เม.ย. 2568 ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ ทัศนัย เศรษฐเสรี และ ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ สองอาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ (Media Art and Design) คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ บัณฑิตจากสาขาวิชาเดียวกัน ที่ถูกฟ้องในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ฯ จากกรณีที่อาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชาดังกล่าวร่วมกันตัดโซ่และเข้าไปใช้พื้นที่ของหอศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดแสดงงานศิลปะประจำปีตามรายวิชาเรียน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2564
การฟังคำพิพากษาวันนี้ จำเลยทั้งสาม พร้อมทนายความ เดินทางมาศาล โดยมีผู้มาให้กำลังใจราว 4-5 คน ขณะเดียวกันฝ่ายโจทก์ร่วม ได้แก่ อัศวิณีย์ หวานจริง อดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ ผู้กล่าวหาในคดีนี้ และนิติกรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย
เวลา 9.24 น. เมื่อคู่ความมาพร้อมกัน ศาลได้อ่านคำพิพากษา โดยสรุปว่าคดีนี้ก่อนการสืบพยาน จำเลยทั้งสามได้ชำระ “ค่าทำนุบำรุงหอศิลปวัฒนธรรม” เป็นจำนวนเงิน 3,664 บาท แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้โจทก์ร่วมแถลงไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และขอถอนคำร้องทุกข์ตามข้อหาดังกล่าว ทำให้สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับลง มีคำสั่งให้จำหน่ายความผิดฐานนี้
ในส่วนของข้อหาร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นฯ นั้น ศาลได้พิจารณาโดยไล่เรียงข้อเท็จจริงโดยสรุป ว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ยื่นคำร้องขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นงานในวิชาเรียน Multiple Media Research Project 2 เป็นวิชาวิทยานิพนธ์ที่นักศึกษาจะต้องผ่านก่อนสำเร็จการศึกษา ระบุขอใช้พื้นที่ซึ่งเป็นวันจัดงานนิทรรศการระหว่างวันที่ 16 – 22 ต.ค. 2564
ต่อมาคณะกรรมการพิจารณาของหอศิลปวัฒนธรรมได้ขอให้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมรวม 3 ครั้ง ซึ่งทางผู้จัดงานก็ได้จัดส่งเอกสาร แต่ทางคณะกรรมการยังเห็นว่ารายละเอียดยังไม่เพียงพอ โดยให้ส่งตัวอย่างผลงานการจัดแสดงแต่ละชิ้นไปให้คณะกรรมการพิจารณาด้วย พร้อมกับให้ผ่านความเห็นชอบของอาจารย์ที่ปรึกษาทุกชิ้น แม้ทางประธานบริหารหลักสูตรจะได้มีหนังสือยืนยันว่ารายละเอียดที่จัดส่งเพียงพอแล้ว และขอให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการภายในวันที่ 14 ต.ค. 2564
ต่อมาวันที่ 16 ต.ค. 2564 จำเลยทั้งสามกับพวก ได้ร่วมกันตัดโซ่เข้าไปใช้อาคารของหอศิลปวัฒนธรรม และเข้าติดตั้งผลงานศิลปะของนักศึกษา พร้อมกับเปิดการจัดแสดงงานให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม และเมื่อการจัดงานเสร็จสิ้น ก็ได้ออกจากพื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมไป
จากการนำสืบพยาน รับฟังได้ว่าโจทก์ร่วมได้ปิดประตูคล้องกุญแจ พร้อมกับตัดกระแสไฟฟ้าภายในอาคาร ทำให้เข้าใจว่าไม่ต้องการให้ใครเข้าไปในอาคารของหอศิลปวัฒนธรรม นอกจากนั้นความสัมพันธ์คณบดี กับอาจารย์และนักศึกษา ยังเป็นไปโดยไม่ราบรื่น โดยเคยมีการประท้วงของนักศึกษาเกี่ยวกับการตัดงบประมาณนิทรรศการของนักศึกษา มีกรณีการเข้าไปเก็บงานศิลปะของนักศึกษา และจำเลยที่ 3 เคยประท้วงการเก็บงานดังกล่าว สอดคล้องกับคำเบิกความอดีตอาจารย์ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรม น่าเชื่อได้ว่าเคยมีข้อขัดแย้งระหว่างอาจารย์ นักศึกษา กับคณบดี จริง
ในส่วนผู้ขออนุญาตใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรม แม้มีระเบียบให้แนบตัวอย่างผลงานที่จะติดตั้งจัดแสดง เป็นสัดส่วนอย่างน้อย 30% แต่ขั้นตอนดังกล่าวใช้กับบุคคลภายนอกที่มาขอใช้พื้นที่ แต่ผู้จัดแสดงในคดีนี้เป็นนักศึกษา จึงไม่เคร่งครัด เพราะมีอาจารย์ที่ปรึกษารับรองอยู่แล้ว และผู้ขออนุญาตก็ได้ดำเนินการแนบร่างผลงานในสัดส่วนดังกล่าวแล้ว และโจทก์ร่วมก็ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าการขอใช้พื้นที่ของนักศึกษานั้นขัดต่อระเบียบการขอใช้พื้นที่ของหอศิลปวัฒนธรรมที่กำหนดไว้อย่างไร
แม้ไม่ได้มีระเบียบกำหนดระยะเวลาการพิจารณาขอใช้พื้นที่ของคณะกรรมการ แต่พยานโจทก์ก็ได้เบิกความว่า ก่อนหน้านี้หอศิลปวัฒนธรรมใช้เวลาพิจารณาราว 1 สัปดาห์ การยื่นขอใช้พื้นที่ก่อนระยะเวลาจัดงาน 2 สัปดาห์ ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่คณะกรรมการก็ไม่ได้มีการแจ้งผลการพิจารณาก่อนเวลาที่นักศึกษาแจ้งขอใช้พื้นที่จริง จึงเห็นว่าการพิจารณาของคณะกรรมการล่าช้าเกินสมควร ทำให้จำเลยทั้งสามและพวก เห็นว่าถูกกลั่นแกล้ง ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงเข้าไปใช้พื้นที่เพื่อจัดแสดงงานศิลปะตามโครงการวิจัยของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ดังกล่าว เป็นการทวงสิทธิในการจัดแสดงงานศิลปะ
ระหว่างจัดแสดง โจทก์ร่วมก็ไม่ได้เข้าไปห้ามปรามหรือขับไล่ผู้จัดแสดง และต่อมาได้มีการอนุมัติรับรองผลการศึกษาจากการจัดแสดงงานดังกล่าว การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงมีเหตุอันสมควร ไม่ได้เป็นการรบกวนการครอบครองอาคารโดยปกติสุขของโจทก์ร่วม และหลังการจัดแสดงงาน ก็ออกจากอาคาร เป็นการเข้าไปเพียงชั่วคราว ไม่ได้ยึดถือไว้เป็นการถาวร
ในส่วนประเด็นเรื่องการจัดแสดงงานอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-2019 ในช่วงดังกล่าว ก็เป็นประเด็นที่ไม่ได้ปรากฏในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ แต่เพิ่งมีการยกเรื่องนี้มากล่าวอ้าง ทั้งหากพิจารณาคำสั่งของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงดังกล่าว ยังอนุญาตให้มีการจัดงานที่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในช่วงดังกล่าว ภายใต้การมีมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยจำเลยทั้งสามเห็นว่าการยกเลิกการจัดแสดงงาน หรือเลื่อนออกไป ทำให้เกิดความไม่สะดวกและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของนักศึกษา ทั้งใกล้ถึงการประเมินวัดผลทางการศึกษาแล้ว
ในส่วนของประเด็นว่ามีตัวหนอนในพื้นที่หอศิลปวัฒธรรมได้รับความเสียหายในช่วงที่มีการจัดแสดงงานดังกล่าว ศาลเห็นว่าโจทก์ร่วมได้ถอนคำร้องทุกข์ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์แล้ว จึงเห็นว่าจำเลยทั้งสามไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษา จำเลยทั้งสาม พร้อมผู้มาให้กำลังใจได้ร่วมกันแสดงความยินดีจากผลคำพิพากษาดังกล่าว ที่ต่อสู้คดียืดเยื้อมากว่า 3 ปีกว่า แม้ยังต้องติดตามว่าจะมีการอุทธรณ์คดีหรือไม่ต่อไป
.
ย้อนอ่านลำดับเหตุการณ์ในคดีนี้
.