‘อาย กันต์ฤทัย’ ประกาศเริ่มอดอาหารประท้วงเรียกร้องสิทธิประกันตัวตั้งแต่พรุ่งนี้ ย้ำ “อยากให้เสียงของอายมันดังขึ้น”

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ทนายความเข้าเยี่ยม “อาย” กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ผู้ต้องขังวัย 33 ปี ที่ถูกคุมขังในระหว่างอุทธรณ์คดีมาตรา 112 มาตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. 2567 หลังถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 ปี 48 เดือน (หรือประมาณ 12 ปี) ในคดีที่ถูกกล่าวหาจากการโพสต์เฟซบุ๊ก 8 ข้อความ และได้เข้าเยี่ยม “มานี” เงินตา คำแสน ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ซึ่งอยู่เรือนนอนเดียวกันกับอาย

“อาย” กันต์ฤทัย แจ้งทนายความว่า เธอจะเริ่มอดอาหารประท้วงตั้งแต่วันศุกร์นี้ (21 มี.ค.) เป็นต้นไป โดยจะไม่ทานอาหาร จะทานเพียงน้ำและน้ำผลไม้เท่านั้น เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับผู้ต้องขังทุกคน

.

ในช่วงบ่ายของวัน ทนายความเข้าเยี่ยม “อาย” กันต์ฤทัย เธอได้เริ่มเล่าถึงเหตุผลในการอดอาหารว่า เธอคิดเรื่องการอดอาหารมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในเรือนจำ แต่ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอดอาหารเป็นเพราะเพื่อน ๆ เธอขอร้องไว้ 

แต่การตัดสินใจอดอาหารครั้งนี้เป็นเพราะว่าความอดทนเธอหมดลงแล้ว เธอรอคอยวันที่จะได้รับการประกันตัวออกไปใช้ชีวิตกับครอบครัวและลูกชายอายุ 12 ปี ครั้งล่าสุดที่เธอคุยกับลูก ลูกได้บอกเธอว่า “หนูคิดถึงแม่ หนูเหนื่อย อยากตาย เมื่อไหร่แม่จะได้ออกมา” เป็นแรงกระตุ้นให้เธออยากอดอาหาร 

เธอเล่าปนน้ำตาว่า ยื่นประกันมากี่ครั้ง ทั้งยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์เรื่องอาการป่วยซึมเศร้า ศาลก็ยกคำร้องทุกครั้ง มันนานเกินไปแล้วที่อยู่ในนี้ โดยการตัดสินใจอดอาหารครั้งนี้ของอายมีวัตถุประสงค์ “เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทุกคน ไม่ใช่แต่เฉพาะผู้ต้องขังทางการเมือง เพราะสิทธิประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ” อายกล่าว

เมื่อเล่าถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันให้อายรับฟัง ว่าสังคมอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้เหมือนก่อนหน้านี้ และข้อเรียกร้องของเธออาจจะไม่บรรลุผล รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและชีวิตเหมือนกรณี “บุ้ง” เนติพร อายตอบว่าเธอรับได้ และตอบว่า “ถ้าเขาอยากได้ชีวิตอาย อายก็จะให้”

อายย้ำว่าเธอตัดสินใจแล้วว่าจะเริ่มอดอาหาร และบอกว่าได้ค่อย ๆ ทานข้าวลดน้อยลงมา 1-2 วันแล้ว และวันนี้ (19 มี.ค.) ลดเหลือแค่ทานน้ำและน้ำผลไม้ ไม่ทานข้าว แต่เนื่องจากมีตะวันและเพื่อนมาตีเยี่ยมเธอ ได้ขอร้องเธอไว้ เธอจึงจะขอทานข้าวที่เพื่อนสั่งมาให้ในวันที่ 20 มี.ค. เป็นมื้อสุดท้าย และจะไม่ให้ครอบครัวสั่งอาหารให้เธออีก และนับจากนั้นเธอจะทานเพียงน้ำและน้ำผลไม้เท่านั้น จนกว่าข้อเรียกร้องของเธอจะบรรลุผล

อายได้ฝากข้อความทิ้งท้ายบทสนทนาไว้ว่า “อายไม่ได้อดอาหารเพื่อประชดหรือเรียกร้องความสนใจจากใคร แต่เรียกร้องให้ตัวเองและคนอื่นให้ได้รับการประกันตัว อายอยากให้เสียงของอายมันดังขึ้น ถ้าใครอยากได้ชีวิตของอาย อายก็จะให้เขา อายจะสู้จนหลังชนฝา” พร้อมกับฝากถึงเพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์ทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ

อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเรื่องโรคซึมเศร้าของอาย ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของเธอที่รักษามายาวนานถึง 7 ปีแล้ว โดยทุกวันเธอต้องทานยารักษาอาการโรคซึมเศร้าราชทัณฑ์จัดมาให้ วันละ 9 เม็ด ซึ่งเธอบอกว่าระหว่างการอดอาหาร เธอจะทานยาร่วมด้วย

.

นอกจากนั้น จากที่ทนายเข้าเยี่ยมมานีวานนี้เช่นกัน เธอเล่าว่าอายพูดมาตลอดเรื่องการอดอาหาร แต่ช่วงหลังพูดบ่อยขึ้น เธอมีโอกาสได้คุยกับอายเมื่อวันที่ 18 มี.ค. หลังจากที่อายได้เยี่ยมญาติแล้ว อายก็บอกกับเธอว่าจะเริ่มอดอาหารในวันที่ 19 มี.ค.​ 

มานีได้พูดคุยกับอายให้ทบทวนถึงสถานการณ์การเมืองภายนอก สถานการณ์การอดอาหารประท้วง และความคืบหน้าเรื่องนิรโทษกรรม ว่าช่วงนี้ไม่ได้มีกระแสที่ดีนัก รวมถึงย้ำเตือนถึงครอบครัวและลูกของเธอแล้ว แต่เธอยังยืนยันว่าจะยังคงอดอาหารอยู่ดี และครอบครัวก็บอกว่าแล้วแต่อายจะตัดสินใจ

.

ปัจจุบันอายถูกขังระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 205 วัน โดยนอกจากคดีที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษานี้ เธอยังถูกฟ้องคดีมาตรา 112 อีกคดีหนึ่ง คือ คดีโพสต์เฟซบุ๊ก 2 โพสต์ โดยศาลอาญามีนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ในวันที่ 24 มี.ค.​ 2568 เวลา 09.00 น. และอายจะถูกนำตัวไปศาลในวันดังกล่าว

📩 สามารถเขียนจดหมายถึงอาย “ฝากถึง กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ทัณฑสถานหญิงกลาง 33/3 ถนนงามวงค์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900”

📩 หรือเขียนจดหมายออนไลน์ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล

อ่านบทสัมภาษณ์อาย

“สุดท้ายต้องบอกลูก จะมาหายไปดื้อ ๆ ไม่ได้” คุยกับ “อาย กันต์ฤทัย” ก่อนเข้าเรือนจำ: ความในใจของ ‘แม่’ คนหนึ่งที่ต้องโทษ ‘112’

X