วันที่ 5 มี.ค. 2568 จากกรณีกลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฏร เกี่ยวกับกรณีที่นักศึกษาหลายคนถูกติดตามคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ในช่วงที่มีการรับปริญญา และมีกิจกรรมฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมานั้น
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดตามกรณีดังกล่าว และสรุปข้อมูลการคุกคามเบื้องต้น โดยพบว่ามีสถานการณ์ทั้งการที่มีชายนอกเครื่องแบบนำกล้องวงจรปิดไปติดตั้งหันเข้าส่องหาสถานที่ทำงานของกลุ่มอิสระล้อการเมือง โดยพบว่าไม่ใช่ของมหาวิทยาลัย, เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตานักศึกษาที่อ้างว่ามีรายชื่ออยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง (Watch List), เจ้าหน้าที่ไปติดตามถึงหอพัก หรือโทรศัพท์หาผู้ใหญ่บ้านของนักศึกษาที่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว, เจ้าหน้าที่สันติบาลเรียกตัวแทนนักศึกษาไปพูดคุยถึงเนื้อหาในขบวนล้อการเมือง และการเข้าตรวจป้ายต่าง ๆ ก่อนงานฟุตบอลประเพณี ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษา
.
มีผู้นำกล้องวงจรปิด 4 ตัวมาติดตั้ง ถ่ายเข้าหาพื้นที่ทำงานของกลุ่มล้อฯ โดยไม่ใช่ของมหาลัยฯ
สถานการณ์การติดตามคุกคามนักศึกษานั้น พบว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงการงานปริญญาของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีกำหนดการในวันที่ 1-3 ก.พ. 2568
ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านั้น ขณะที่กลุ่มล้อการเมืองได้เริ่มทำหุ่นล้อฯ อยู่ในบริเวณอาคารกิจกรรมนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในช่วงเย็นวันที่ 20 ม.ค. 2568 ได้พบเห็นชายนอกเครื่องแบบเข้ามาติดตั้งกล้องวงจรปิด จำนวน 4 ตัว โดยเป็นกล้องที่หันรัศมีให้สามารถจับภาพบุคคลที่เดินเข้าออกในบริเวณดังกล่าว และจับภาพการทำงานของกลุ่มล้อการเมืองได้อย่างชัดเจน
การเข้ามาติดตั้งกล้องวงจรปิดดังกล่าว เจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษาและผู้บริหารมหาวิทยาลัยระบุว่าไม่ทราบถึงการกระทำดังกล่าว โดยได้รับข้อมูลว่าน่าจะเป็นกล้องของเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง อ้างว่าจะมาติดตั้งเพื่อรักษาความปลอดภัยช่วงรับปริญญา และจะหันรัศมีกล้องออกไปยังถนนด้านนอก แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น อีกทั้งพื้นที่การทำงานของกลุ่มล้อการเมือง ก็ไม่ได้อยู่ในเขตที่เกี่ยวข้องกับงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
ต่อมาพบว่ามีการเก็บกล้องวงจรปิดทั้งหมดออกไป หลังวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งงานรับปริญญาเสร็จสิ้นแล้ว
.
.
จัดทำรายชื่อนักศึกษาให้เป็น “บุคคลเฝ้าระวัง” และติดตามช่วงรับปริญญา
ในช่วงวันที่ 1-3 ก.พ. 2568 ซึ่งเป็นช่วงงานรับปริญญา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษาได้ติดต่อมายังนักศึกษาในกลุ่มล้อการเมืองบางคน ว่าห้ามเข้าบริเวณมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีรายชื่อเป็นบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List) ของสันติบาลจังหวัดปทุมธานี โดยหากเข้ามาจะมีการติดตามของเจ้าหน้าที่ เช่น การถ่ายรูป การเดินตามประกบ และพยายามให้นักศึกษาบางคนยืนยันสถานที่อยู่ ว่าไม่ได้อยู่ภายในมหาวิทยาลัยจริง ๆ โดยทราบว่ามีชื่อของนักศึกษาหลายสิบคนอยู่ในรายชื่อดังกล่าว
นอกจากนั้น ยังทราบว่ามีนักศึกษาที่ได้ออกมาติดกระดาษข้อความเกี่ยวกับทางการเมือง และการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งตรงกับช่วงรับปริญญาดังกล่าว ภายในมหาวิทยาลัย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบถามข้อมูลส่วนตัวที่กองกิจการนักศึกษาด้วย
และในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ยังพบว่ามีกรณีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยตามประกบกลุ่มนักศึกษาที่ไปแจกใบปลิวในเรื่องการเลือกตั้งนายกฯ อบจ. เพื่อรณรงค์ให้นักศึกษาที่ไม่ได้ไปเลือกตั้งดำเนินการแจ้งเหตุจำเป็น กับทาง กกต. ทำให้เกิดความหวาดกลัวกับกลุ่มนักศึกษาดังกล่าว
รวมทั้งยังมีนักศึกษาอีกรายหนึ่ง ที่เคยทำกิจกรรมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของหอพักที่พักอยู่ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามถึงที่หอพัก และจะติดต่อขอพบอีกด้วย
ในช่วงสามวันดังกล่าว นักศึกษายังพบว่ามีการรวมตัวของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบใต้ตึกกิจกรรมนักศึกษา ซึ่งเป็นบริเวณที่ล้อการเมืองทำงานอยู่ ทำให้นักศึกษาไม่สามารถเข้าไปในที่ทำงานซึ่งเป็นบริเวณมหาวิทยาลัยได้
.
ภาพจากเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
.
สันติบาลปทุมธานี เรียกนักศึกษา และอาจารย์เข้าคุยก่อนงานฟุตบอลประเพณี
ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. 2568 ทางเจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษา ได้ติดต่อมาที่กลุ่มล้อการเมือง แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลของจังหวัดปทุมธานี ต้องการขอพบและประชุมด้วย โดยพบว่ามีการเชิญทั้งตัวแทนของนักศึกษา และอาจารย์ เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการฟุตบอลประเพณีในห้องประชุม
เนื้อหาการพูดคุยหลัก เจ้าหน้าที่สันติบาลได้พยายามสอบถามเนื้อหาเกี่ยวกับขบวนล้อการเมืองในงานฟุตบอลประเพณี ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง อ้างว่าต้องนำไปเขียนในรายงานส่งผู้บังคับบัญชา โดยยังเจาะจงสอบถามว่าจะมีเนื้อหาพูดถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลยังมีการพูดคุยในลักษณะที่ทราบถึงข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษาบางคนมาก่อน เนื่องจากมีการรวบรวมของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้เกิดความหวาดกลัว และหวาดระแวงต่อกลุ่มนักศึกษา
.
เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามตรวจป้ายผ้าก่อนเดินขบวน ขู่หากมีเรื่องสถาบันฯ จะเก็บหมด
ต่อมาวันที่ 15 ก.พ. 2568 เป็นวันงานฟุตบอลประเพณี ได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้ามาติดตามตรวจสอบบริเวณสถานที่ทำงานของล้อการเมือง ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพยายามพูดคุยกับนักศึกษาที่ทำขบวนล้อ โดยมีใจความสำคัญว่า หากมีข้อความที่มีสัญลักษณ์ป้ายผ้าที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องเก็บและริบทันที มิให้ใช้ในขบวนอีก
ในงานฟุตบอลประเพณี ยังพบว่ามีบุคคลที่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ทราบหน่วยจำนวนมาก ใส่เสื้อเชียร์ฟุตบอลของทั้งสองมหาวิทยาลัย เข้ามาคอยสอดส่อง และติดตามถ่ายรูปนักศึกษาที่ร่วมเดินขบวนล้อการเมือง รวมทั้งป้ายข้อความและหุ่นล้อต่าง ๆ ด้วย
.
ภาพขบวนล้อการเมืองปี 2568 จากสำนักข่าวประชาไท
.
สันติบาลพยายามติดต่อไปที่บ้านประธานกลุ่มล้อการเมือง หลังงานฟุตบอลประเพณี
วันที่ 24 ก.พ. 2568 มีเจ้าหน้าที่ระบุตนว่าเป็นตำรวจสันติบาลในพื้นที่จังหวัดทางภาคตะวันออก ได้เข้าประสานงานกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของประธานกลุ่มล้อการเมือง ว่ามีข้อมูลชื่อ และที่อยู่ในบริเวณนั้นใช่หรือไม่ พร้อมสอบถามข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ อ้างว่าได้มีพฤติกรรมที่ไปแสดงออกทางการเมือง และอ้างว่าอยากไปพบกับครอบครัวของนักศึกษารายดังกล่าวด้วย
แม้ยังไม่ได้มีการไปพบถึงบ้านถึงปัจจุบัน แต่การติดตามตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวดังกล่าว ได้สร้างความหวาดกลัว และวิตกกังวล ให้กับครอบครัวและนักศึกษาตามมาด้วย
.
จากสถานการณ์ภาพรวมดังกล่าว ทำให้นักศึกษากลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พยายามเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรรมาธิการในสภา ขอให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าเป็นไปด้วยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และยังเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาจนเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำให้ต้องติดตามการตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไป
.