ความหวังในวัยเกือบยี่สิบของ “ฐาปนา”: รอวันเยี่ยมใกล้ชิด เผื่อจะได้เจอลูก

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 ทนายความเดินทางไปที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้าเยี่ยม ‘ฐาปนา’ (นามสมมติ) เยาวชนที่ถูกคุมขังจากกรณีถูกศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาให้รับการฝึกอบรม 4 ปี จากการถูกดำเนินคดีวางเพลิงตู้จราจรพญาไท และขว้างปาวัตถุระเบิด ในช่วงการชุมนุมดินแดง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564

ฐาปนาปัจจุบันมีอายุใกล้ 20 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนวิชาชีพและการศึกษา ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของศูนย์ฝึกฯ ในด้านสภาพจิตใจ ค่อนข้างทุเลาจากความกังวลเกี่ยวกับครอบครัว เนื่องจากได้รับทราบว่าครอบครัวได้รับความช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรวัย 1 ขวบกว่า โดยเฉพาะค่านมและค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป และยังคงรอวันเยี่ยมแบบใกล้ชิดอีกครั้งที่จะทำให้มีโอกาสได้พบลูก

นอกจากความหวังจะเจอลูก การได้รับจดหมายให้กำลังใจจากบุคคลภายนอกส่งผลในเชิงบวกต่อสภาพจิตใจ สังเกตได้จากการแสดงออกทางสีหน้าที่มีความยินดีทุกครั้งที่กล่าวถึงจดหมายเหล่านั้น

____________________

ในห้องให้คำปรึกษาเยาวชนที่มีเพียงโซฟายาวติดผนังและเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงิน รอเพียง 10 นาทีหลังจากยื่นเอกสาร ฐาปนาก็ปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนยกมือไหว้ทักทาย

เมื่อได้รับเอกสารคำแก้อุทธรณ์ พร้อมภาพถ่ายของลูกชายและแฟน รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของเขา แต่เมื่อได้รับฟังรายละเอียดของคดี ที่ศาลรับคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้คือรอศาลพิจารณาอุทธรณ์ของทั้งโจทก์และคำแก้อุทธรณ์ของจำเลย ใช้ระยะเวลาก็น่าจะราว ๆ 6 เดือน ขึ้นไป สีหน้ากังวลก็ปรากฏชัด

เขาบอกว่าอยากขอให้ศาลเห็นด้วยกับอุทธรณ์ของจำเลย “ลดโทษเหลือสัก 2 ปี ผมยังพอใจสู้อยู่ต่อ แต่นี่ตัดมา 4 ปี ผมรู้สึกว่านานเกินไป เพื่อนที่อยู่ข้างใน เขาโดนคดีฆ่ามา ติด 2-3 ปี เขาตกใจว่าคดีผมที่ไปม็อบโดนเยอะขนาดนี้เลยหรอ”

ในทุกวันแม้อยู่ในสถานควบคุม แต่ฐาปนาไม่ได้หยุดพัฒนาตัวเอง เขากำลังจะจบหลักสูตรวิชาชีพช่างยนต์ในเดือนหน้า “เนื้อหาที่เรียนเป็นเรื่องเครื่องยนต์ เครื่องคาบู เครื่องรถมอเตอร์ไซต์พวกโซลีน ผมคิดว่าถ้าออกไปผมคงได้ใช้วิชาชีพนี้ในการหางาน” และยังสนใจสมัครเรียนหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล รวมถึงกำลังเรียนเพื่อให้ได้วุฒิ ม.3 โดยผ่านไปแล้วหนึ่งเทอม จากทั้งหมดสี่เทอม

ชีวิตในบ้านกรุณาแม้มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งกิจกรรมราชทัณฑ์ปันสุข การแข่งขันฟุตบอล ดนตรีโฟล์คซอง และเยี่ยมใกล้ชิดในเทศกาลต่าง ๆ แต่ความคิดถึงครอบครัวก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะลูกชายวัยขวบเศษที่ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ เพราะข้อจำกัดด้านอายุ

“เดือนหน้ามีวันเด็ก ก็คงมีกิจกรรม และสงกรานต์จะมีเยี่ยมใกล้ชิดเหมือนเดิม เหมือนวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาผมก็รอเยี่ยมใกล้ชิด เผื่อจะได้เจอลูก” ฐาปนาสะท้อนอีกความรู้สึก

ส่วนเรื่องที่อยากจะย้ายไปศูนย์ฝึกฯ ที่อยุธยา (ก่อนหน้านี้ฐาปนาเขียนคำร้องขอย้ายไปที่ศูนย์ฝึกฯ ที่อยุธยา เนื่องจากเห็นว่าบ้านกรุณามีเด็กและเยาวชนหลากหลายคดีปะปนกัน บางครั้งก็มีการยั่วยุกัน) ฐาปนาบอกว่ายังไม่ได้ย้ายในเวลาอันใกล้นี้ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าให้คดีเสร็จเด็ดขาดก่อน ต้องมีใบเด็ดขาดมาก่อน แต่ถ้าบ้านกาญจนามาเปิดรับสมัคร ก็คิดว่าอยากสมัครไปบ้านกาญจนา เพราะที่นั่นถึงไม่มีวันพักหรือลดโทษ แต่อย่างน้อยมีวันที่ลากลับบ้านได้

“จิตใจผมดีขึ้นมากจากช่วงก่อนหน้า” ฐาปนาเล่าถึงความช่วยเหลือที่ครอบครัวได้รับ ทั้งแพมเพิส และนมสำหรับลูก และค่าเดินทางสำหรับแม่ที่มาเยี่ยม แม้ความกังวลเรื่องโทษและการไม่ได้อยู่ดูแลลูกยังคงอยู่ แต่การได้พูดคุยปรับความเข้าใจกับแฟน ทำให้เขาสบายใจขึ้น

นอกจากกิจกรรมที่ฐาปนาเล่ามาก่อนหน้า ที่บ้านกรุณายังมีทีวีให้ดู ส่วนใหญ่เป็นช่องอัมรินทร์ทีวี ทำให้ได้ติดตามข่าวสารสังคมอยู่และมีโอกาสอ่านหนังสือ ‘คนคุก’ (Prisoners) บางทีก็นั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อน ช่วงนี้คนเข้ามาเยอะ แต่พอคนเยอะ ก็ทำให้แม่กับแฟนเขาจองเยี่ยมออนไลน์ไม่ทัน เลยมีช่วงที่ไม่ได้พูดคุยกันบ้าง

ทั้งนี้วันที่ 30 ธันวาคม จะเป็นวันครบรอบอายุ 20 ปีของฐาปนา ในปีที่ผ่าน ๆ มาช่วงปีใหม่ฐาปนาจะทำงานรับจ้างส่งของและพาแฟนไปเที่ยวบางแสน ปีนี้วางแผนจะให้แม่ซื้อขนมปี๊บมาบริจาคให้บ้านกรุณา “ถ้าขอพรวันเกิดได้ ผมขอให้ครอบครัวสุขภาพแข็งแรง” เขากล่าว พร้อมฝากถึงลูกชาย “พ่อรักลูกมาก ๆ พ่อขอโทษที่ต้องมาทิ้งลูกไปแบบนี้ ออกไปพ่อจะปรับตัวใหม่”

ก่อนจากกัน ฐาปนาเล่าถึงจดหมายให้กำลังใจที่ส่งตรงมาถึง “ผมได้รับเยอะ เวลาอ่านก็รู้สึกเขิน ไม่คิดว่าจะมีคนให้กำลังใจคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรแบบผม เพื่อนที่อยู่ข้างในเห็นก็แซวว่าผมเป็นคนดังหรือฮีโร่” เขายิ้มเขิน ๆ “รู้สึกขอบคุณที่ยังนึกถึงผม”

ฐาปนาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 2567 หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางวินิจฉัย ให้จำเลยออกจากมาตรการพิเศษ และกำหนดให้มีคำพิพากษาแทน โดยพิพากษาลงโทษจำคุก และเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นให้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นระยะเวลา 4 ปี และอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา เท่าที่ทราบข้อมูล เขาเป็นผู้ต้องขังเยาวชนคนเดียวที่มีเหตุจากสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้

อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บันทึกเยี่ยม “ฐาปนา”: เยาวชนผู้ถูกคุมขัง 4 ปี ที่บ้านกรุณา ยังฝึกฝนตัวตนทั้งเรียนและงาน คอยวันได้เจอครอบครัว