สั่งฟ้องคดี 112 - พ.ร.บ.คอมฯ “ณัฐวรรธน์” พ่อค้าชาวเชียงใหม่ วัย 29 ปี เหตุโพสต์ภาพป้ายในการชุมนุมพร้อมข้อความ ก่อนได้ประกัน

วันที่ 2 ธ.ค. 2567 พนักงานอัยการยื่นฟ้อง ณัฐวรรธน์ วราฤทธิ์นนท์ พ่อค้าชาวเชียงใหม่ วัย 29 ปี ต่อศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากเหตุโพสต์ภาพป้ายในการชุมนุมและข้อความในเฟซบุ๊กพร้อมใส่แฮชแท็ก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 ก่อนศาลให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ 90,000 บาท พร้อมติด EM

ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2567 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ณัฐวรรธน์เดินทางจากเชียงใหม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีนี้โดยไม่มีทนายความ จากบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า อัศวิณีย์ หวานจริง อดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวหา

พฤติการณ์คดีโดยสรุประบุว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ข้อความพร้อมใส่แฮชแท็ก และรูปภาพที่ปรากฏข้อความเดียวกัน ตั้งค่าแบบสาธารณะ ที่ประชาชนโดยทั่วไปสามารถพบเห็นเข้าถึงได้ จากการสืบสวนมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าณัฐวรรธน์คือผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว

ในชั้นสอบสวน ณัฐวรรธน์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และถูดยึดโทรศัพท์ไว้ โดยไม่ถูกควบคุมตัวในระหว่างสอบสวน

วันนี้ (2 ธ.ค. 2567) พนักงานอัยการนัดหมายณัฐวรรธ์มายื่นฟ้องต่อศาล มาโนช อินขำเครือ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 บรรยายฟ้องโดยสรุปว่า โพสต์ของจำเลยทำให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปที่ได้พบเห็นข้อความและภาพถ่ายดังกล่าวเข้าใจว่า รัชกาลที่ 10 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์จอมเผด็จการ อันเป็นการดูหมิ่น ไม่เคารพเทิดทูนรัชกาลที่ 10 และเป็นการกล่าวหา ใส่ความ หรือแสดงความไม่เคารพสักการะที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง โดยมีเจตนาเพื่อให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศและแสดงความอาฆาตมาดร้าย อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ 10 ทรงเสื่อมพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาในพระมหากษัตริย์

พนักงานอัยการไม่คัดค้านการให้ประกันระหว่างพิจารณาคดี โดยระบุในตอนท้ายว่า หากมีการขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ต่อมาเวลา 18.17 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานว่า ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันณัฐวรรธน์ในระหว่างพิจารณาคดี โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันเป็นเงินจำนวน 90,000 บาท โดยมีเงื่อนไขให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM), ยึดหนังสือเดินทาง (Passport) และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล โดยหลักประกันได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

โดยปกติณัฐวรรธน์มักเดินทางโดยเครื่องบินจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ เพื่อมาตามนัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการ หลังได้รับประกันตัวโดยต้องติด EM ทำให้เขาไม่สามารถเดินทางกลับเชียงใหม่โดยเครื่องบินได้ รวมทั้งในการมาตามนัดต่าง ๆ ของศาลหลังจากนี้ด้วย โดยต้องเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถประจำทางซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง

อ่านสถิติคดี ม.112 : สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-67