เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2567 เวลา 13.21 น. “แซม สาแมท” นักกิจกรรมทางการเมือง ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองตามนัดหมายทางคดี ในกรณีที่ถูกคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างในแอปพลิเคชัน Bolt ทำร้ายร่างกายในขณะที่กำลังเดินทางจากบ้านพักที่ดอนเมือง ไปทำธุระในจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566
ก่อนหน้านี้ แซมได้เปิดเผยกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลาประมาณ 05.00 น. เขาได้เรียกรถมอเตอร์ไซค์จากแอปพลิเคชัน Bolt เพื่อไปทำธุระตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนจะถูกไรเดอร์ทำร้ายร่างกาย โดยไม่ทราบสาเหตุ คนขับได้เข้าทำร้ายโดยการต่อยเข้าที่บริเวณไหล่ และแขนของเขา ซึ่งในขณะที่เกิดเหตุมีประชาชนเห็นเหตุการณ์ จึงได้มีการเข้ามาห้ามปราม และช่วยให้แซมได้เข้ามาหลบอยู่บริเวณที่ปลอดภัย ทำให้คนขับรถมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวหยุดการกระทำลง และได้พูดข่มขู่ให้แซมระวังตัวไว้ว่าหากเจอกันคราวหน้า เขาจะเข้ามาทำร้ายอีกก็ได้
แซมได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง ทันทีในวันดังกล่าว โดยมีทนายความติดตามไป พร้อมทั้งประสานกับแผนกความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน Bolt ให้ดำเนินการติดตามตัวของคนขับที่ทำร้ายร่างกายมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจได้แจ้งว่าให้แซมลงบันทึกประจำวันไว้ และจะทำการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของแแอปพลิเคชันดังกล่าว เพื่อขอข้อมูลในการติดตามออกหมายเรียกผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีภายหลัง
ต่อมาวันที่ 10 ส.ค. 2567 ร.ต.อ.วงศ์ษธร แผนเจริญ รองสารวัตรสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้นัดหมายให้แซมเดินทางมาพบกับธนภูมิ ขำสินธุ์ คู่กรณีที่เป็นผู้ทำร้ายร่างกายเขา โดยขอให้เจรจาตกลงค่าเสียหายกัน ตามเอกสารบันทึกประจำวัน แซมได้เรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำผิดเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ซึ่งธนภูมิก็ได้ยินยอมจ่ายให้ โดยจะชำระเป็นจำนวน 1,000 บาท ก่อน และจะชำระค่าเสียหายในส่วนที่เหลืออีก 4,000 บาท แบบผ่อนจ่ายเป็นจำนวนเดือนละ 1,000 บาท ของทุกวันที่ 30 ของเดือนถัดไป และหากครบจำนวนแล้วแซมจะถอนคำร้องทุกข์ในภายหลัง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แซมได้เคยเปิดเผยว่าหลังจากที่ไปแจ้งความก็ได้เข้าไปตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลพบว่า มีร่องรอยบาดแผลเกิดขึ้นบริเวณแขน คอ และหัวไหล่ พร้อมทั้งเผยความรู้สึกว่าตอนนี้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนขับรถดังกล่าวรู้ที่อยู่ และแม้จะไม่มีการบอกเหตุผลของการกระทำที่เกิดขึ้น แต่เขาก็เข้าใจว่าเป็นเพราะเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน เพราะไม่เคยรู้จักผู้กระทำมาก่อน และไม่มีสาเหตุโกรธเคืองใด ๆ ทำให้ไม่คิดว่าน่าจะมีสาเหตุจากเรื่องอื่น
ทั้งนี้ “แซม สาแมท” วัย 22 ปี เป็นผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2564 เป็นต้นมา ผู้มีความหลากหลายทางเพศ แซมต้องดำรงชีวิตในฐานะบุคคลไร้สัญชาติ แม้เขาจะเกิดในประเทศไทย โดยพ่อของเขาเป็นคนไทย ส่วนแม่เป็นชาวกัมพูชา ปัจจุบันเขายังต่อสู้ในการดำเนินเรื่องเพื่อกระบวนการพิสูจน์สัญชาติทางกฎหมายอยู่