ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “มารุต” 6 ปี 6 เดือน จำคุก “ปรณัท” 4 ปี 6 เดือน  กรณีถูกกล่าวหาชิงตัวสมาชิก Wevo บนรถคุมขัง #ม็อบ6มีนา64 ก่อนให้ประกันตัว

วันที่ 14 ธ.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีของ “ปรณัท” อายุ 28 ปี และ “มารุต” อายุ 30 ปี สองสมาชิกทีมการ์ด We Volunteer (Wevo) ในข้อหาหลักร่วมกระทำการให้ผู้ที่ถูกคุมขังหลุดพ้นจากการคุมขัง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 191 และ ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 138 จากกรณีพยายามเข้าช่วยเหลือสมาชิก Wevo ที่ถูกจับกุมในรถคุมขังจากบริเวณห้างเมเจอร์รัชโยธิน เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 

คดีนี้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้องทุกข้อหา แต่ให้ลงโทษในตัวบทกฎหมายที่หนักที่สุดคือมาตรา 191 ฐานร่วมกันกระทำการให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล หลุดพ้นจากการถูกคุมขัง ลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 1 (มารุต) ศาลเห็นว่าพยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกันเรื่องที่จำเลยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ขับรถคุมขังจนได้รับบาดเจ็บ ลงโทษในฐานความผิดร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังประทุษร้าย ลงโทษจำคุก 2 ปี ทำให้จำเลยที่ 1 (มารุต) จำคุกรวม 6 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 (ปรณัท) จำคุก 4 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา 

พฤติการณ์ในคดีนี้ อัยการได้บรรยายฟ้องโดยสรุปกล่าวหาว่า ในวันที่ 6 มี.ค. 2564 จำเลยทั้งสองได้เข้าร่วมชุมนุม กับพวกอีกประมาณ 30 – 40 คน ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร่วมกระทำการใด ๆ ให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของศาลหลุดจากการคุมขัง โดยใช้กำลังขู่เข็ญประทุษร้าย ตลอดจนร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในระหว่างที่มีการจับกุมตัวสมาชิกทีมวีโว่ นำโดย “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ที่บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน 

โจทก์กล่าวหา จำเลยและพวกรวมกว่า 30 คนได้กระทำการขัดขวางรถคุมขังที่กำลังนำตัวของโตโต้และสมาชิกทีมวีโว่ไปคุมขังต่อที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 โดยการนำสิ่งของ อาทิเช่น ต้นไม้ กรวยยาง ก้อนหิน ก้อนอิฐ ขว้างปาใส่รถคุมขัง ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถของห้าง โดยจำเลยที่ 2 ได้พยายามเข้าขัดขวางโดยการโยนเก้าอี้ไปใต้ท้องรถคุมขังทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนตัวออกไปได้ 

จนกระทั่งผู้เข้าร่วมชุมนุมสามารถเข้ากีดขวางและนำตัวผู้ต้องขังออกมาได้ ตลอดจนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ขับรถคุมขังต้องพยายามหลบหนีออกมาจากฝูงชน ทำให้จำเลยที่ 1 สามารถเข้าถึงตัวหนึ่งในตำรวจที่ขับรถคุมขังได้ จนเกิดการปะทะกันขึ้นและทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ

คดีนี้ ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในระหว่างวันที่ 7- 10 พ.ย. 2566 ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่าตัวเองไม่ได้ร่วมชุมนุมในเหตุการณ์วันดังกล่าว และจากพยานหลักฐานของโจทก์ไม่สามารถระบุตัวตนของจำเลยทั้งสองคนได้

ในวันนี้ (14 ธ.ค.2566) เวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 807 มารุตและปรณัท ได้เดินทางมาพร้อมครอบครัว ศาลได้เรียกให้จำเลยทั้งสองคนยืนขึ้นรายงานตัว ก่อนจะเริ่มอ่านคำพิพากษา

คำพิพากษาโดยสรุประบุว่า พิเคราะห์จากพยานหลักฐานของโจทก์แล้ว เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องทุกข้อกล่าวหา โดยจากการเบิกความของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกปากมีความสอดคล้องกันว่ารถคุมขังซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย โดยทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้พยายามเข้าขัดขวางรถคุมขัง จนทำให้เกิดความเสียหายและไม่สามารถเคลื่อนตัวออกไปได้ จนเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมราว 30 – 40 คน สามารถเข้าถึงตัวของผู้ต้องหาที่อยู่บนรถคุมขัง และเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 เข้ามาปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้ขับรถคุมขัง

การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตัวบทฏหมายที่หนักที่สุดคือ ร่วมกันกระทำการใด ๆ ให้ผู้ถูกจับกุมในอำนาจของศาล หลุดพ้นจากการควบคุมตัวด้วยการประทุษร้าย ตามมาตรา 191 ลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี 6 เดือน 

ส่วนจำเลยที่ 1 ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานของโจทก์ เห็นว่าจำเลยได้กระทำการประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ในขณะที่กำลังปฏิบัติราชการ โดยการต่อยเข้าที่ศีรษะ และเตะเข้าที่ลำตัวของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล การกระทำของจำเลยถือว่าผิดฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามมาตรา 138  ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 

รวมลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 (มารุต) รวม 6 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 (ปรณัท) จำคุกรวม 4 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา 

หลังฟังคำพิพากษา ทนายได้ยื่นขอประกันตัวจำเลยทั้งสองคน ต่อมาเวลา 17.15 น. ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยกรณีมารุต ให้วางหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นจำนวน 350,000 บาท และปรณัท วางหลักทรัพย์จำนวน 250,000 บาท ไม่มีเงื่อนไขการประกันตัว หลักทรัพย์ประกันตัวได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

สำหรับกิจกรรมชุมนุม ในวันที่ 6 มี.ค. 2566 เป็นกิจกรรมของกลุ่ม “รีเด็ม” (REDEM) ซึ่งนัดหมายเดินขบวนจากห้าแยกลาดพร้าว ไปหน้าศาลอาญา เพื่อทำจัดกิจกรรมทิ้งขยะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังในขณะนั้น 

ก่อนการชุมนุม ทีมการ์ของ Wevo และผู้ชุมนุมที่บางส่วนรวมตัวกันอยู่บริเวณห้างเมเจอร์รัชโยธิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วย พร้อมอาวุธ บุกเข้าไล่จับกุมตัว โดยอ้างว่ามีการเตรียมการก่อเหตุสร้างความวุ่นวายและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสร้างสถานการณ์ ทำให้มีผู้ถูกจับกุมไปกว่า 48 คน ต่อมามีการกล่าวหาในข้อหาเป็นอั้งยี่, เป็นซ่องโจร และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยคดียังอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีที่ศาลอาญา รวมทั้งยังมีเหตุชุลมุนจากการพยายามขัดขวางรถควบคุมผู้ต้องขังของผู้ชุมนุมคนอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย

ย้อนอ่านข่าวจับกุม จับ Wevo-ปชช.กว่า 48 คน โดย 18 คนถูกแจ้งข้อหาอั้งยี่-ซ่องโจร-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อ้างเตรียมสร้างเหตุวุ่นวาย 

X