หัวหน้าฝ่ายจัดการและทรัพยากรบุคคล (Human Resources)

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนก่อตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร 2557 ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวเนื่องกับการรัฐประหารต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังทำงานเก็บรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในประเด็นด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

หน้าที่ความรับผิดชอบ

การบริหารจัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resources)

  • ดูแลงานฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล พร้อมทั้งพัฒนาและปรับโครงสร้างทรัพยากรบุคคล อัตราค่าจ้าง และสวัสดิการให้สอดคล้องกับพันธกิจของมูลนิธิ
  • ให้คำแนะนำ สนับสนุน และให้คำปรึกษากับผู้บริหาร หัวหน้าฝ่าย และพนักงานเกี่ยวกับการตีความนโยบายของฝ่ายทรัพยากรบุคคล รวมถึงการบริหารจัดการบุคคลในมูลนิธิ
  • จัดทำคู่มือพนักงานและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคู่มือพนักงาน สวัสดิการ และกับพนักงาน
  • จัดทำเอกสารสัญญาว่าจ้างพนักงาน และรวบรวมเอกสารสำคัญของพนักงาน ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
  • จัดเตรียมความเคลื่อนไหวเงินเดือนประจำเดือน และเป็นตัวแทนฝ่ายทรัพยากรบุคคลในการติดต่อและประสานงานกับบริษัทที่เกี่ยวกับสวัสดิการ หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ประกันสังคม บริษัทประกันภัย (สุขภาพ, ฟัน, ชีวิต/อุบัติเหตุ)
  • จัดแผนการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานประจำปีสำหรับพนักงาน รวมถึงจัดทำงบประมาณการฝึกอบรมสำหรับพนักงาน
  • รวบรวมข้อมูลของพนักงานในระบบบริหารจัดการพนักงานให้ปัจจุบัน
  • ดูแลกระบวนการสรรหาโดยประสานงานระหว่างกับหัวหน้างาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ติดตามและให้คำแนะนำในการดำเนินการตามสรุปขอบเขตงาน การเตรียมชุดจัดหางาน ประกาศรับสมัครงาน การสัมภาษณ์ การตรวจสอบอ้างอิง การเสนองาน และการเจรจาเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการสรรหาและคัดเลือกได้รับการตรวจสอบและจัดการตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
  • จัดการและประสานงานกระบวนการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ทุกคนเพื่อสร้างวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และช่วยให้พนักงานใหม่ปรับตัวในบทบาทของตนได้

แรงงานสัมพันธ์ (Employee Relations)

  1. พัฒนาโปรแกรม  หรือวัฒนธรรม เพื่อสร้างบรรยากาศ และความสัมพันธ์ที่ดีภายในมูลนิธิ
  2. รับผิดชอบในการกลไกการร้องเรียนของพนักงานและจัดการเรื่องร้องเรียนของพนักงานอย่างเป็นความลับ

ปฏิบัติการ (Operations)

  1. ดูแลงานธุรการและบริหารในสำนักงาน รวมถึงความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเพื่อสนับสนุนพนักงานและฝ่ายต่างๆในองค์กรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. พัฒนา สื่อสาร และตรวจสอบการดำเนินการตามนโยบายและขั้นตอนของฝ่ายปฏิบัติการเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และประสิทธิภาพในการทำงาน
  3. ให้คำแนะนำ สนับสนุน และให้คำปรึกษากับผู้บริหาร หัวหน้าฝ่าย และพนักงานเกี่ยวกับการตีความนโยบายของฝ่ายปฏิบัติการ อาทิเช่น นโยบายการจัดซื้อ-จัดจ้าง จัดทำทะเบียนทรัพย์สิน ความปลอดภัยทางเทคโนโลยีและไอที และการจัดการความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
  4. สนับสนุนด้านเทคโนโลยี/ไอที ทั้งความสะดวกและความปลอดภัยหรืองาน IT and Security โดยประสานและทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาด้านประเมินความเสี่ยงและจัดการความปลอดภัยทางดิจิทัลเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและองค์กรในการดูแลความปลอดภัยทางดิจิทัลและจากการใช้เทคโนโลยีในการทำงาน

การบริหารจัดการ (Leadership and Staff Management)

  1. เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายปฏิบัติการ ทรัพยากรบุคคล ธุรการ-สำนักงาน เทคโนโลยี ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน  เพื่อดูแลและสร้างความมั่นใจในการฝึกอบรมและการสร้างขีดความสามารถสำหรับสมาชิกในทีม เพื่อเพิ่มระดับความสามารถทางเทคนิคและทักษะภายในแผนก
  2. เป็นตัวแทนฝ่ายปฏิบัติการในการร่วมประชุม หรือวาระที่สำคัญในฐานะหัวหน้าทีมปฏิบัติการ  อาทิเช่น การตรวจสอบประจำปีของแหล่งทุนหรือโครงการ การประชุมภาคี หรือแหล่งทุน/โครงการ แคมเปญ
  3. ตรวจทานและลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ ตามแผนผังมอบหมายอำนาจวงเงินและเอกสารสำคัญ
  4. พัฒนาขั้นตอนการทำงานภายในทีมปฏิบัติการกับฝ่ายต่างๆ ภายในศูนย์ทนายความ ให้สามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้องและรวดเร็วขึ้น
  5. เป็นสมาชิกทีมผู้บริหารเพื่อร่วมในการประชุมมูลนิธิร่วมกับคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ วางทิศทาง และตัดสินใจร่วมกับคณะผู้บริหาร

คุณสมบัติและประสบการณ์ที่จำเป็น

  1. ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 5 ปี ในด้านทรัพยากรมนุษย์ และบริหารจัดการในองค์กรการกุศล หรือมูลนิธิที่ทำงานในประเด็นสิทธิมนุษยชน
  2. มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้ที่ส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายใน และภายนอกมูลนิธิอาทิเช่น ผู้บริหาร Outsource ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการปฏิบัติการ  
  3. มีทักษะการสื่อสาร อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ
  4. มีทักษะในการวางแผนกลยุทธ์ ปฏิบัติงานตามแผนงานที่ตั้งไว้ และการรายงานสรุปเพื่อนำเสนอต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายนอก และภายในมูลนิธิ
  5. มีทักษะในการสื่อในการนำเสนอผลงาน เขียนรายงาน และ Coaching ให้คำแนะนำแก่พนักงาน ทีม และผู้บริหาร
  6. มีความรับผิดชอบงานให้สำเร็จได้ตามกำหนดเวลา สามารถทำงานในเวลาที่ยืดหยุ่นได้ และตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. สามารถรักษาความลับของข้อมูล คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานของตนเอง มูลนิธิ แหล่งข้อมูลและข้อมูล
  8. สามารถทำงานเป็นทีม ประสานงานและสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  9. มีทัศนคติและความสนใจที่จะส่งเสริมเคารพสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และหลักนิติรัฐ
  10. สนใจและเห็นคุณค่าในหลักการสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย รวมทั้งติดตามข่าวสารและสถานการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
  11. มีปฏิภาณไหวพริบ สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและทำงานได้ภายใต้สภาวะกดดัน
  12. สามารถรักษาความลับของข้อมูลและมีวิจารณญาณในการเผยแพร่ต่อสาธารณะ
  13. คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานของตนเอง องค์กร แหล่งข้อมูลและข้อมูล

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนถือว่าพนักงานทุกท่านเป็นองค์ประกอบที่มีคุณค่าในการขับเคลื่อนศูนย์ทนายความในการเจริญโต ดังนั้นศูนย์ทนายความส่งเสริมวัฒนธรรมมูลนิธิที่ให้พนักงานทุกท่านมีส่วนร่วมในการทำงาน และส่งเสริมความเท่าเทียม และความหลากหลานในสถานที่ทำงาน เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพทางกายและจิตใจที่ดี มีความสุขในการทำงาน และช่วยสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพให้กับทีมและผลักดันให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้บรรลุเป้าหมายในพันธกิจ และวิสัยทัศน์ในการก่อสร้างนิติรัฐในประเทศไทย

สัญญาการจ้าง

  1. ระยะเวลาตามกำหนดของโครงการ
  2. ระยะเวลาทดลองงาน 3 เดือน
  3. สามารถเบิกค่าเดินทางในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ได้ตามจริง
  4. มีสวัสดิการรักษาพยาบาล ทำฟัน ตรวจสุขภาพประจำปี

วิธีการสมัคร

  1. กรอกใบสมัคร พร้อมแนบจดหมายแนะนำตัว พร้อมรายละเอียดประวัติการศึกษา/การทำงานได้ที่นี่ คลิกที่นี่
  2. รับสมัครตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566
  3. หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมติดต่อ [email protected]
X