‘เวหา’ อดอาหารประท้วงมากกว่า 40 วัน ปวดท้องมาก ไร้เรี่ยวแรง น้ำหนักลดกว่า 8 กก. ลุ้นผลประกันตัวอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. – 3 ต.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “เวหา”  ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 18 เดือน ในคดีมาตรา 112 กรณีใช้บัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝา ver.เกรี้ยวกราด” โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคุกวังทวีวัฒนา และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว


เวหาบอกว่า “รู้สึกว่าร่างกายเริ่มจะไม่ไหวแล้ว” ประเมินว่าหากอดอาหารต่อไปอาจจะมีผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวได้ สภาพร่างกายในช่วงนี้ เขาไม่มีเรี่ยวแรงเลย มีภาวะขาดสารอาหาร เหนื่อยง่าย คิดประมวลผลช้าลง

ตอนกลางคืนจะรู้สึก ‘ปวดท้อง’ ประจำ โดยแพทย์ได้จ่ายยาบรรเทาอาการปวดให้ ซึ่งหลังทานก็จะรู้สึกดีขึ้น แต่พอหมดฤทธิ์ยาก็จะกลับมารู้สึกเจ็บเหมือนเดิม หากดื่มนมมากไปก็จะปวด แต่ถ้าไม่ดื่มเลยก็จะรู้สึกหิวมาก โดยช่วงนี้แพทย์ได้เข้ามาตรวจดูอาการของเวหาแทบทุกวัน 

ช่วงสัปดาห์นี้แพทย์จ่ายวิตามินให้ทาน ได้แก่ วิตามินบีรวม วิตามินซี และวิตามินรวม เนื่องจากการอดอาหารทำให้ร่างกายเขาขาดสารอาหาร แต่หมอบอกว่าการกินวิตามินทดแทนแบบนี้ยังไงก็ไม่ได้ผลดีเท่ากับการกลับมารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามปกติ

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เวหาเป็นหวัดเพิ่งหาย เวลาเป็นหวัดหรือไม่สบายจะเป็นการทั้งแดน เพราะสภาพในเรือนจำแออัดมาก ๆ จำนวนผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ห้องข้างบนแออัดไปด้วยผู้ต้องขัง ประมาณ 45 – 46 คน ในแดนที่เวหาอยู่ก็มีคนมากกว่า 500 คนอยู่รวมกัน

ส่วนการทำงานในเรือนจำ ตอนนี้เวหายังทำงานที่ ‘ห้องสมุด’ แต่เป็นงานที่นั่งอยู่กับที่ไม่ค่อยได้ลุกไปไหน เพราะว่าเจ้าหน้าที่กลัวจะเป็นลม ยังเข้ากองงานห้องสมุดได้เหมือนเดิม เพราะงานก็ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนไม่ได้ใช้แรง กิจวัตรประจำวันก็ยังทำเองได้ตามปกติ แต่ต้องไม่ผาดโผน ค่อย ๆ ทำอย่างช้า ๆ ไป

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2566 ทนายความยื่นประกันตัวเวหาต่อศาลอาญาอีกครั้ง ตามความตั้งใจของเวหา โดยได้ยื่นเสนอหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาท การยื่นประกันตัวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เวหาเริ่มอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2566 ซึ่งจนถึงปัจจุบันเป็นเวลามากกว่า 43 วันแล้ว

29 กันยายน 2566

เวหานั่งรอในห้องเยี่ยมอยู่ก่อน ร่างกายแลดู ‘ซูบผอม’ ลงมาก เสื้อแขนสั้นสีฟ้าอ่อนดูตัวใหญ่ไปเลยเมื่ออยู่บนตัวเขา เราบอกว่าใบหน้าเขาเล็กลงกว่าตอนที่เจอกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้ใบหน้าเล็กจะเท่าฝ่ามืออยู่แล้ว เวหาหัวเราะเบา ๆ

เวหาต้องการจะยื่นขอประกันตัว ‘ครั้งสุดท้าย’ เพราะต้องการรู้ว่าจะได้รับการตอบสนองจากผู้มีอำนาจหรือไม่ หากยังไม่ได้ประกันตัวจะพิจารณาแนวทางการต่อสู้ต่อไป

“ถ้ายังมีคนติดคุกเพราะมาตรานี้อยู่ ผมเชื่อว่าการเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรานี้จะไม่มีวันจบเหมือนกัน

“ถ้าสิทธิประกันตัวไม่มี ผมจะออกไปต้องด้วยวิธี ‘การนิรโทษกรรม’ เท่านั้น ยิ่งทนายอานนท์เข้ามาแบบนี้ ผู้มีอำนาจเขาไม่มีทีท่าจะปล่อยพวกเราก็ไม่มีหวัง เราคาดหวังกับท่าทีของศาลว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นเราเรียกร้องอะไรต่อศาลไม่ได้เลยจริง ๆ

“มันถึงเวลาประมาณหนึ่งแล้ว สุขภาพก็ถดถอย คนมีอำนาจก็เพิกเฉย”

เวหาเล่าให้ฟังว่าหมอที่ดูแลเขาค่อนข้างเข้าใจในสิ่งที่เวหาทำ หมอพูดกับเขาว่า เรื่องต่อสู้ก็ว่าไป แต่หมอมีหน้าที่ดูแลสุขภาพ หมอคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุผล แต่ก่อนช่วงแรกที่ทำจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเข้ามาพูดบ้างว่า ‘ทำมากี่รุ่นแล้ว เพนกวินก็อด แต่ก็ไม่เห็นเปลี่ยนแปลง’

ช่วงนี้เวหานอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องคดีความ โดย ‘คุณลุง’ ซึ่งเป็นพี่ชายของแม่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา “ตอนเราอยู่ข้างนอกเราดูแลเขามาตลอด แต่ในตอนที่สูญเสีย เราไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลเขาเลย ถ้าอยู่ข้างนอก เราคงเป็นกำลังหลักเรื่องขับรถ เพราะว่าพี่น้องหรือแม่ก็มีแต่คนแก่ แล้วก็เป็นผู้หญิงกันทั้งนั้น 

เรามีหวังกับเรื่องประกันตัว จริง ๆ เราก็หวังมาตลอดว่าจะได้ออกไป หวังว่าจะเป็นอิสระ ถึงจะเป็นอิสระชั่วคราวก็จริง แต่มันก็มีค่ามาก ๆ ในสถานการณ์ที่ครอบครัวกำลังลำบาก อยากออกไปแก้ไขอะไรให้มันดีขึ้นกว่านี้


2 ตุลาคม 2566

วันนี้เวหานั่งรออยู่ในห้องเยี่ยมทนายความห้องที่ 3 ด้วยท่าทีนิ่ง ๆ สวมชุดผู้ต้องขังสีฟ้าเหมือนอย่างปกติ ที่แตกต่างคือวันนี้ใส่หน้ากากอนามัยด้วย


เวหาบอกว่า โดยภาพรวมแล้วทุกอย่างยังเหมือนเดิม วันนี้อดอาหารเป็นวันที่ 40 แล้ว ยังรู้สึกปวดท้องอยู่ และก็ยังทานยารักษาโรคกระเพาะอยู่ต่อเนื่อง รวมถึงรับวิตามินอยู่ด้วย ยังดื่มน้ำ และน้ำหวานเพื่อให้ร่างกายมีแรง ก่อนที่จะออกมาพบทนาย ก็ดื่มน้ำหวานมาแก้วใหญ่เพื่อจะให้มีแรงเดินมาถึงห้องเยี่ยม


ที่ได้ใส่หน้ากากอนามัยเพราะมีอาการเป็นไข้หวัด เป็นไปตามฤดูกาล เป็นโรคระบาดในเรือนจำในช่วงนี้ หลายคนก็เริ่มป่วยเป็นหวัดกัน ก็ใช้วิธีรักษากันเองตามสภาพ พวกน้ำมูก เจ็บคอ ไอ ส่วนใหญ่ก็จะหายกันเอง ถ้าไม่ตัวร้อนเป็นไข้ ก็จะไม่ได้ยา


เวหาแสดงความเป็นห่วง “วารุณี” และ “เอกชัย” โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าเอกชัยต้องทานยาถึงเดือน พ.ย. นี้ พร้อมกล่าวว่าการรักษาในขณะที่ติดคุกอยู่คงจะลำบากมากเลย

เวหาบอกว่า จริง ๆ แล้วอยากทราบข่าวอีกหลายเรื่อง ทั้งความคืบหน้ากรณีที่ทักษิณป่วยเป็นยังไงบ้าง คดีของกำนันนก วงการตำรวจและบิ๊กโจ๊กไปถึงไหนแล้ว รวมถึงว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วยหรือไม่ อยากรู้ข่าวสารข้างนอก เพราะอยู่ในนี้ไม่สามารถติดตามข่าวอะไรได้เลย ส่วนใหญ่ก็เป็นข่าวลือที่ผู้ต้องขังเล่าให้กันฟัง

3 ตุลาคม 2566

เวหานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เวหาบอกว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่อาการไอยังไม่หาย มีไข้นิดหน่อย ๆ ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยจะดี รู้สึกไม่ค่อยโอเค เพราะว่ามีอาการป่วยแทรกซ้อนเข้ามาในช่วงที่อดอาหารอยู่ ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง พอป่วยทีก็เลยนอนซม ไม่มีแรงกว่าเดิม

โชคดีที่มีเพื่อน ๆ น้อง ๆ ผู้ต้องขังทางการเมืองช่วยดูแล มี “คเชนทร์” และ “วัฒน์” ที่อยู่แดนเดียวกันคอยช่วยดูแล

เรื่องปวดท้องยังคงมีอยู่ เวลาปวดท้องมาก ๆ ก็จะทานยา พอทานแล้วก็จะดีขึ้น แต่คิดว่าอาการปวดท้อง มาจากโรคกระเพาะ แม้จะเลิกอดอาหารแล้ว แต่น่าจะเป็นเรื้อรังไปอีกยาว

“วันนี้รู้สึกเหนื่อยมาก เหนื่อยเป็นพิเศษ อยากเจอแม่ ได้บอกกับญาติที่มาเยี่ยมไปแล้ว และแม่ก็ทราบว่าสามารถเยี่ยมผ่านไลน์ได้ แต่แม่แก่แล้ว ทำไม่เป็น และอยู่ไกล แม่อยู่จังหวัดพิษณุโลก ที่นั่นก็มีญาติอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มาดูแลช่วยเหลืออะไร” เวหาระบุ

X