7 วันแห่งการ ‘ฝืนตื่นประท้วง’
วันที่ 13 ก.พ. 2566 ทนายความเดินทางไปเข้าเยี่ยม “เก็ท” โสภณ ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่กำลังฝืนตื่นประท้วง (Protest by Self-Deprivation of Sleep) และยังได้เข้าเยี่ยม “แบงค์” ณัฐพล และ “เก่ง” พลพล โดยขณะนี้ทั้ง “ต้อม” จตุพล และ “แบงค์” ณัฐพล ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่วมอดนอนด้วย ขณะนี้แจ้งว่าได้ยุติการอดนอนแล้ว เพื่อเปลี่ยนบทบาทมาดูแลเพื่อนแทน
สำหรับ เก็ทเป็นผู้ประกาศเริ่มประท้วงพร้อมผู้ต้องขังรายอื่นๆ ตั้งแต่ช่วง 05.00 น. ของวันที่ 7 ก.พ. 2566 เจตจำนงเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของตะวัน แบม และสิทธิโชค รวมถึงเรียกร้องเพิ่มเติมให้ศาลสร้างหลักประกันว่าจะไม่มีผู้ต้องขังในคดีการเมืองคนใดถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมอีกในอนาคต
.
เก็ท: “เขาเข้าใจแล้วว่า ถ้าการเมืองมันดี อีก 4 ปี มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็ไม่ต้องพูดเยอะแล้ว”
อาการของเก็ท มือซ้ายสั่นมาก สั่นจนหยุดไม่ได้ ตอนเขียนหนังสือต้องเกร็งเป็นพิเศษ มือข้างขวาก็เริ่มสั่นตามแล้ว ควบคุมกล้ามเนื้อตาไม่ได้ ตากลอกไปมา ไม่สามารถโฟกัสกับการอ่านหนังสือได้ แต่ถ้ามองภาพใหญ่ๆ ยังมองได้อยู่ การทรงตัวเดินเซ มีอาการมึนเบลอ เริ่มอ้วกได้ 2 วันแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งผู้คุม
เก็ทคิดว่าถ้าไม่ไหวค่อยไปทีเดียว ตอนนี้เก็ทอดนอนเข้าวันที่ 6 แล้ว มีอาการน็อคหลับไปเองในชั่วโมงที่ 48-72 ประมาณ 1-2 ชั่วโมง อาการมึนเบลอจะดีขึ้น แต่ที่ไม่ดีขึ้นคืออาการสั่น และดวงตาไม่โฟกัส เมื่อคืนก่อน เก็ทน็อคหลับไป 3 รอบ ช่วง 18.30-19.00 น., 21.00-22.00 น., 00.00-01.30 น. จากนั้นก็ตาค้าง ไม่หลับอีกเลย เวลาน็อคหลับจะมีอาการภาพตัด จู่ๆ ก็จะหลับไปเลย
สำหรับเก็ท ปฏิบัติการฝืนตื่นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลายิ่งผ่านไป เขาบอกว่ารู้สึกเหนื่อยมาก นอกจากกาแฟที่กินตอนเช้า 2 แก้ว ตอนเย็น 3 แก้ว กับน้ำ 1 ขวด เก็ทก็จะทำอะไรหนักเบาสลับกันทุกชั่วโมง ช่วงเช้าจะไม่มีปัญหามาก เพราะลงแดนมาทุกคนชวนคุยตลอด แต่ตอนเย็นถึงค่ำจะฝืนตื่นยากหน่อย เก็ทจะเดินจงกรม 30 นาที อ่านหนังสือนิยายสลับกับหนังสือกฎหมายของ ก้อง-อุกฤษฏ์ ที่ทิ้งไว้ เมื่อคืนเก็ทเจอหนังสือปรสิตวิทยา ซึ่งเป็นหนังสือทางการแพทย์ เขาก็จะอ่านและจดบันทึก แก้ง่วงไปได้บ้าง
เก็ทเล่าอีกว่าช่วงนี้ผู้ต้องขังในแดนจะเข้ามาคุยด้วยเยอะขึ้น เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ส่วนใหญ่ถามเก็ทว่าพวกเขาจะได้เลือกตั้งไหม เพราะนโยบายต่างๆ ออกมาจากรัฐบาล ซึ่งมันมีผลกับชีวิตเขาเหล่านั้น แล้วเขาจะมีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ก่อนตั้งวงแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ไม่อย่างนั้นการพูดคุยก็เป็นหัวข้อว่าด้วยหากเรือนจำไม่สามารถดูแลสวัสดิการผู้ต้องขังได้ จะสามารถทำเป็นรัฐวิสาหกิจ แบบ BTS หรือ MRT ได้หรือไม่ เรื่องพวกนี้เก็ทไม่ได้เป็นคนยกประเด็นขึ้นมา หากแต่ผู้ต้องขังรายอื่นๆ เปิดประเด็นกันเอง
เก็ทกล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเขาเข้าใจแล้วว่า ถ้าการเมืองมันดี อีก 4 ปี มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็ไม่ต้องพูดเยอะแล้ว”
.
แบงค์ ณัฐพล: “ยังไงผมต้องออกไปเจอหน้าลูกให้ได้”
แบงค์ เริ่มจากพาแมวมาทักทายด้วย บอกว่าตั้งชื่อน้องว่า ‘เสือ’ ให้คล้องกับแมวสก็อตติชโฟลว์ตัวใหญ่ที่บ้านที่ชื่ออสูร แบงค์บอกว่าถ้าได้ออก ก็จะเอาเสือกลับไปเลี้ยงด้วย
“มันติดผมที่สุดแล้วพี่” แบงค์บอกไว้ตอนหนึ่ง แบงค์บอกอีกว่าว่าเขาเลิกอดนอนแล้ว เพราะเมื่อวันศุกร์ อาร์ม
(วัชรพล) ย้ายไปนอนอีกห้องหนึ่ง ช่วงนี้อาร์มไม่สบายด้วยป่วยมา 3 วันแล้ว ไอ เจ็บคอ ปวดหัว มึน หลับๆ ตื่นๆ อ้วกมาหลายวันแล้ว วันนี้กำลังจะไปหาหมอ ส่วนเก่งก็ทำงานทั้งวัน ถึงเรือนนอนก็หลับไว พวกเขาเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูเก็ท
“พี่เก็ทอาการหนักสุดแล้ว ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย จริงๆ ถ้าพี่เก็ทเลิกอด ผมก็จะอดต่อ แต่นี่พี่เก็ทไม่เลิก” เขาพูดพลางมองหาเก็ทที่ออกไปข้างนอกอย่างกังวล
“ต่อให้ผมไม่เลิกอดนอนมันก็เหมือนอดแหละ ผมนอนดึกมาก แล้วก็ยังมีอาการปวดหัวข้างเดียวอยู่ เพราะช่วงอดนอนผมไม่กินยา ตอนนี้ก็รอร่างกายปรับตัว อาจจะเริ่มกินยาพรุ่งนี้”
แบงค์บอกอีกว่า ต้อม จตุพล ก็ได้เลิกอดนอนแล้ว เพราะตั้งใจว่าจะมาช่วยดูแลเก็ทก่อน แบงค์ฝากข้อความว่า “ฝากขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวังเรื่องฝืนตื่นประท้วงด้วยนะ”
แบงค์บอกด้วยว่าเมื่อวันศุกร์ เขากับแก๊ง 4 พล ออกไปร่วมกระบวนการสืบเสาะที่ศาล ด้วยหวังว่าจะเป็นแนวโน้มที่ดี และจะทำให้ได้รับสิทธิประกันตัวสักที
“แฟนเก่งไปส่องสตอรี่แฟนผม เห็นเขาลงสตอรี่ว่า ‘ใกล้คลอดแล้ว รอพ่อมันออกมา’ ผมดีใจมากเลยพี่ ยังไงผมต้องออกไปเจอหน้าลูกให้ได้” แบงค์พูดด้วยแววตาเป็นประกายความหวัง
.
เก่ง พลพล: “ตอนนี้มีความหวัง พร้อมนับถอยหลังรอ”
เก่งบอกว่าเขาเหนื่อยจากงานมาก เพราะต้องเดินไปเดินมาทั้งวัน ถึงเรือนนอนก็เลยอยากพักผ่อน ช่วงนี้เป็นหวัดนิดหน่อย มีน้ำมูกด้วย เพราะอากาศเปลี่ยนเร็ว
ด้านสภาพจิตใจยังโอเค ดีขึ้นแล้ว กินยาตลอดไม่ขาด วันศุกร์เก่งเจอคงเพชรในรถออกศาล ก็ทักทายกันลั่นรถเลย “ผมดีใจจริงๆ ที่เพชรได้กลับบ้าน คดีพวกผม ก็ไม่รู้ว่าจะได้ออกกันหมดหรือไม่ แต่ถ้ามีคนได้กลับบ้านบ้างก็ดี” เก่งบอกอีกว่า “ตอนนี้มีความหวัง พร้อมนับถอยหลังรอ 10 กว่าวันที่ศาลบอกให้มาสืบเสาะเลย อีกไม่นาน ไม่ช้าก็เร็ว พวกผมก็ได้กลับบ้านแล้ว ”
เก่งมองไปหนทางข้างหน้า บอกว่าถ้าได้สิทธิประกันตัว เขาก็วางแผนว่าจะออกไปทำงานเก็บเงิน เพราะกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ตั้งใจว่าจะบวชให้ครอบครัว
.