เมื่อวันที่ 25 และ 27 ม.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “สิทธิโชค เศรษฐเศวต” ไรเดอร์ส่งอาหารวัย 26 ปี ซึ่งถูกขังระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษาในคดีข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2566
สิทธิโชคเริ่มต้นอดอาหารประท้วง (Hunger Strike) มาตั้งแต่วันแรกที่ถูกคุมขัง เมื่อวันที่ 17 ม.ค. โดยมีเจตจำนงเพื่อประท้วงศาลที่เลือกปฏิบัติต่อผู้ถูกดำเนินคดีการเมืองและไม่ให้สิทธิประกันตัว รวมถึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมืองทุกคน
สิทธิโชคเริ่มต้นการอดอาหารด้วยการดื่มนมประทังชีวิต เพียงมื้อละ 1 กล่อง หรือวันละประมาณ 3 กล่อง และค่อยๆ ลดการดื่มนมเหลือเพียงวันละ 1 กล่องเท่านั้น
เขาบอกถึงความตั้งใจในการอดอาหารครั้งนี้ไว้ว่า “ผมไม่ได้ปรึกษาใครเรื่องอดอาหาร ผมทำเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกระบบกล่าวหากัน เอาหลักฐานเอาพยานมาวางก่อนเพื่อไต่สวนหาความจริง ก่อนที่จะเอาใครสักคนเข้าคุก
“คือยกเลิกระบบกล่าวหาประชาชน เลิกจำคุกคนที่ไม่ผิด บางคนติดคุกมา 5 เดือนยังไม่ได้ออกโดยที่ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว สรุปความยุติธรรมมันอยู่ฝั่งผู้กล่าวหาเหรอ ทำไมผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่ได้สิทธิสู้คดีอย่างเต็มที่เหมือนผู้กล่าวหา คือผมจะต้องมารับกรรมตรงนี้เหรอ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ เราถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพด้านอื่นๆ ไปหมดเลย
“การติดคุกมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ การพิพากษาคนๆ หนึ่ง มันคือทั้งชีวิตของเขาเลยนะ ก่อนจะกล่าวหาใครก็ควรมีพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน ไม่ใช่ว่าให้ติดคุกไปก่อนแล้วค่อยอุทธรณ์ทีหลัง ถ้าไม่ผิดค่อยขอเงินชดเชยทีหลัง มันไม่ยุติธรรม มันไม่ใช่เรื่องตลก จะบอกว่าที่ให้ติดคุกเพราะกลัวหลบหนี มันมีกี่คดีแล้วที่ให้ประกันแล้วเขาหลบหนีล่ะ”
“มันน่าจะมีความผิดสำหรับคนที่แจ้งข้อกล่าวหาแล้วสุดท้ายศาลยกฟ้องด้วยนะ แจ้งความเท็จอะไรก็ว่าไป เขาจะได้กลัว ไม่กล้ากล่าวหาใครพล่อยๆ อีก ไม่งั้นก็ทำคุกสำหรับนักโทษทางการเมืองไปเลยสิ คุกสำหรับขังคนเห็นต่างโดยเฉพาะ ให้มันรู้ไปเลยว่าประเทศไทยไม่มีเสรีภาพ …”
“ตอนนี้หมอกลัวผมจะฆ่าตัวตาย เพราะนอกจากเป็นไรเดอร์ ผมยังเป็นอาสากู้ภัยด้วย ผมรู้วิธีการฆ่าตัวตายทุกแบบ เรือนจำก็เลยให้อดีตเจ้าหน้าที่ คฝ. คนหนึ่งมานอนข้างผม คอยดูพฤติกรรมของผม ไม่รู้ว่าเขามาอยู่ในคุกได้ไง แต่เขาพยายามเข้ามาคุยด้วย ผมก็ไม่ค่อยตอบ”
สิทธิโชคตัดสินใจยกระดับ ไม่กินน้ำด้วย ตั้งแต่ 26 ม.ค.
ล่าสุด เมื่อทนายความได้เดินทางไปเข้าเยี่ยมสิทธิโชคอีกครั้ง ในวันที่ 27 ม.ค. พบว่า สิทธิโชคได้ตัดสินใจยกระดับการแสดงออกของตัวเองเป็นการอดอาหารและอดน้ำ (Dry Hunger Strike) ตั้งแต่วานนี้ (26 ม.ค.) เพื่อยืนหยัดตามข้อเรียกร้องของตัวเอง
วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวสิทธิโชคให้ทนายได้เข้าเยี่ยมแบบเจอตัวถึงห้องสอบสวนของเรือนจำ และยังเบิกตัว “เก็ท-โสภณ” มาพร้อมกันอีกคนหนึ่งด้วย เพื่อหวังให้สิทธิโชคบรรเทาความเครียดลงได้บ้าง
ทนายความสังเกตว่าสิทธิโชคดูอ่อนเพลียจากเดิมอย่างมาก เขาปากแห้งซีด และซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด สิทธิโชคบอกว่าน้ำหนักตัวลดลงไปกว่า 7 กิโลกรัมแล้ว ภายในเวลาประมาณ 10 วัน โดยช่วงหลายวันมานี้น้ำหนักลดลงเฉลี่ยวันละ 1 กิโลกรัมได้ ระหว่างการพูดคุยกัน สิทธิโชคบอกว่าปวดท้องมากและเอามือจับบริเวณท้องไว้เป็นพักๆ บางครั้งก็อ่อนเพลียมากจนฟุบนอนไปกับโต๊ะ อีกทั้งยังมีเสียงที่ดูเหนื่อยหอบอีกด้วย
“จริงๆ ร่างกายก็ไม่ไหวแล้ว แต่ก็จะทำเพื่อข้อเรียกร้อง” สิทธิโชคบอก
ระหว่างการอดอาหารและน้ำหลายวันมานี้ สิทธิโชคยังได้ออกกำลังกายและใช้แรงด้วยการเดิน วิ่ง และเล่นปิงปองด้วย
สิทธิโชคยังเล่าอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ม.ค.) มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข้าบุกค้นในห้องขัง และทำการรื้อค้นทุกซอกทุกมุมของห้อง แม้กระทั่งใต้ผ้าห่มหรือถังขยะก็ถูกเทออกมาตรวจสอบดูอย่างละเอียด เพื่อตรวจหาของมีคมหรือสิ่งของอื่นๆ ที่ใช้ทำร้ายตัวเองได้ และเพื่อตรวจสอบดูว่าสิทธิโชคได้กินอะไรระหว่างที่ประกาศอดอาหารหรือไม่ แต่ผลปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่พบความผิดปกติใดๆ
ทั้งนี้ สิทธิโชคถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี 4 เดือน ในคดีข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการถูกกล่าวหานำของเหลวคล้ายว่าเป็นน้ำมันไปฉีดพ่นใส่กองเพลิงที่ลุกไหม้อยู่บริเวณฐานพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และพระราชินี บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก แยกผ่านฟ้าลีลาศ ระหว่างการชุมนุม #ม็อบ18กรกฎา2564 และถูกคุมขังเรื่อยมาโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง