อัยการสั่งฟ้องคดี 2 นักกิจกรรมระยองชูป้ายไล่ประยุทธ์ปี 63 โดยไม่ฟ้องข้อหา ม.116

7 พ.ย. 2565 ที่ศาลแขวงระยอง พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องในคดีที่ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และณัฐชนน พยัฆพันธ์ ทำกิจกรรมชูป้ายข้อความขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะลงพื้นที่จังหวัดระยอง บริเวณหน้าโรงแรม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 หลังคดีอยู่ในชั้นสอบสวนกว่า 2 ปี

สำหรับคดีนี้ ทั้งสองคนแสดงออกโดยการชูป้ายวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ปล่อยให้ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 เข้าพักในจังหวัดระยองในช่วงดังกล่าว ก่อนได้ถูกชุดเจ้าหน้าที่พยายามเข้าติดตามจับกุม และกล่าวหาว่าหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่

ต่อมา พ.ต.ท.โกศล เกิดมณี รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองระยอง แจ้งความกล่าวหาผู้ชูป้ายนักกิจกรรมทั้งสองคน โดยตอนแรกทั้งสองถูกแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และหลบหนีไปในระหว่างควบคุมตัว

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ยังได้แจ้งข้อกล่าวหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 โดยเข้าแจ้งข้อหาไมค์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะนั้น เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2564 ส่วนณัฐชนนได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาที่สถานีตำรวจเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564

หลังคดีอยู่ในชั้นสอบสวนกว่า 2 ปี ล่าสุด อัยการมีคำสั่งฟ้องคดีนี้ โดยไม่ฟ้องในข้อหาตามมาตรา 116, พ.ร.บ.โรคติดต่อ และข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน แต่ฟ้องในอีก 3 ข้อหาที่เหลือ คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลแขวงระยอง

อัยการบรรยายฟ้องคดีโดยสรุประบุว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันออกนอกเคหสถานมาชุมนุมมั่วสุม ณ บริเวณริมถนนหน้าโรงแรม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง ในช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกับคณะ เดินทางมาปฏิบัติราชการ โดยจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้โทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ เชิญชวนพวกมาร่วมกันชุมนุม มีการตะโกนเสียงดัง และชูป้ายข้อความ โดยจำเลยที่ 1 (ภาณุพงศ์) เป็นผู้ชูป้าย “การ์ดอย่าตก..พ่องง!” และจำเลยที่ 2 (ณัฐชนน) เป็นผู้ชูป้าย “อยู่ต่อก็ฉิบหาย ออกไปไอ้สัสส”

เมื่อ พ.ต.ท.โกศล เกิดมณี กับพวก ในฐานะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ เข้าไปเจรจา ขอให้จำเลยทั้งสองยุติการชุมนุม เนื่องจากเป็นสถานที่แออัดในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อันมีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค แต่จำเลยทั้งสองไม่ยุติการชุมนุม เมื่อ พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และ พ.ต.อ.ฐาปนะ คลอสุวรรณา ผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง พร้อมพวกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปเจรจากับจำเลยทั้งสองกับพวกอีกครั้ง แต่ทั้งสองยังชุมนุมต่อไป

บรรยายฟ้องอ้างว่า พ.ต.อ.ฐาปนะ จึงแจ้งจำเลยทั้งสองว่าต้องถูกจับในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ, ไม่มีปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุอันควร แต่จำเลยทั้งสองคนขัดขืน ไม่ยอมให้ความร่วมมือไปที่ สภ.เมืองระยอง และร่วมกันต่อสู้ขัดขวางโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้กำลังฉุดกระชากขัดขืนมิให้ถูกควบคุมตัว และเป็นเหตุให้ตำรวจสองนายได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมยังอ้างว่า หลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองที่กองกำลังการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ได้หลบหนีออกไปในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนในคดีอาญา

หลังศาลแขวงระยองรับฟ้องไว้ ได้อนุญาตให้ประกันตัวทั้งสองคน โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ และให้สาบานตน พร้อมกำหนดวันนัดพร้อมคดีต่อไปวันที่ 16 ม.ค. 2566 เวลา 10.00 น.