เผยกรณีหนุ่มวัย 25 ถูกคุมขังเหตุพกประทัดยักษ์ ระหว่างไปชุมนุมเดือนมิ.ย. ก่อนถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี

ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งกรณีของผู้ร่วมชุมนุม ชื่อ ณัฐชนน หรือ “มะ” อายุ 25 ปี ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีเกี่ยวข้องกับการมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ในช่วงก่อนการชุมนุม #ม็อบ12มิถุนา65 ในลักษณะคล้ายคลึงกับคดีของคงเพชรและคทาธร สมาชิกกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ต่อมาวันที่ 18 ส.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยมณัฐชนนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จึงได้ทราบว่าขณะนี้เขาถูกคุมขังอยู่ที่แดน 3 โดยเขาประกอบอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าในบริษัทแห่งหนึ่ง โดยเรียนจบจากวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม และอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครปฐม

เขาถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 2565 โดยเจ้าหน้าที่ คฝ. บริเวณด่านตำรวจหน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ระหว่างเขาขับรถจักรยานยนต์มาจากนครปฐม เพื่อจะเดินทางไปร่วมการชุมนุม #ม็อบ12มิถุนา65 ซึ่งเพจเฟซบุ๊ก “ราษฎรไล่ตู่” นัดหมายรวมตัวกันที่แยกใต้ด่วนดินแดง เวลา 16.30 น. เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) 

วันนั้นเขาเดินทางเพียงคนเดียว และถูกตำรวจตรวจค้นพบท่อ PVC ยัดดินปืนอยู่ในกระเป๋าเป้ ซึ่งเขายอมรับว่าได้แกะออกมาจากพลุ แล้วนำมายัดใส่ โดยไม่ได้มีเศษแก้วหรือสิ่งใดประกอบ โดยหากจุด ก็จะมีเสียงดังเหมือนพลุ แต่เจ้าหน้าที่ได้ระบุว่ามีลักษณะเป็นวัตถุระเบิด จึงได้จับกุมดำเนินคดี

ณัฐชนน ถูกพนักงานสอบสวน สน.พญาไท แจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง จากนั้นในวันรุ่งขึ้น ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังณัฐชนนต่อศาลอาญา ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขัง เขาจึงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเรื่อยมาจนกระทั่งพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 เนื่องจากเขาให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี

ก่อนศาลมีคำพิพากษา ญาติของณัฐชนนดำเนินการยื่นขอประกันด้วยตัวเองมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเรื่อยมา โดยให้เหตุผลว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง จำเลยถูกจับกุมพร้อมวัตถุระเบิดของกลาง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการให้ปล่อยตัวชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี 

ถึงตอนนี้ เขาสอบถามถึงการอุทธรณ์คดี ว่าควรอุทธรณ์ดีไหม และจะใช้เวลานานเท่าไร หรือจะยินยอมรับโทษไปเลย เพื่อให้คดีสิ้นสุดโดยเร็ว เขายังอยู่ระหว่างตัดสินใจในทางเลือกต่างๆ อยู่ พร้อมกับมีความกังวลเรื่องแฟนสาว ที่ปัจจุบันต้องท้องได้ 4-5 เดือนแล้วด้วย

“ผมเริ่มติดตามข่าวการเมืองมาตั้งแต่ปี 2563 และเคยมาร่วมม็อบอยู่เรื่อยๆ หากมีเวลา ด้วยมีความรู้สึกว่า ไม่มีความยุติธรรมในสังคมเลย ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมตั้งแต่การเลือกตั้ง เราได้ใครก็ไม่รู้ว่ามาเป็นนายกฯ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เลือก และพวกเราก็ได้รับความรุนแรงจากตำรวจมาตลอด ทั้งๆ ที่การเรียกร้องไม่ผิด ความรุนแรงเกิดขึ้นจากตำรวจเป็นส่วนใหญ่” ณัฐชนนระบุ

.

X