สายสืบ สน.บางซื่อ ควบคุมตัว 3 ศิลปินกลุ่ม “แพะในกุโบร์” ไปทำประวัติ เหตุติดภาพประยุทธ์ พร้อมข้อความ “หมดเวลา 8 ปี นายกเถื่อน”

24 ส.ค. 2565 เวลา 01:20 น. โดยประมาณ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า ศิลปินในกลุ่มแพะในกุโบร์ จำนวน 3 คน ได้ถูกตำรวจสายสืบจาก สน.บางซื่อ ควบคุมตัวไปทำประวัติและลงบันทึกประจำวัน จากเหตุติดสติกเกอร์ภาพงานศิลปะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวน 40 แผ่น พร้อมมีข้อความประกอบภาพว่า “หมดเวลา 8 ปี นายกเถื่อน”

พฤติการณ์คือ ตำรวจสายสืบจาก สน.บางซื่อ จำนวน 5 นาย นำโดย ร.ต.อ.สง่า สุวรรณเพชร รองสารวัตรสืบสวน ได้ออกตรวจพื้นที่และมาพบกลุ่มศิลปินกำลังทำการติดสติกเกอร์ที่แผ่นสังกะสีบริเวณริมทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายฝั่งขาเข้า จากนั้นก็ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่แล้ว “เชิญตัว” ศิลปินทั้งไป สน.บางซื่อ เพื่อลงบันทึกประจำวันและทำประวัติ ก่อนจะปล่อยตัวทั้งหมด โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใด

.

สำหรับเหตุการณ์นี้ หนึ่งในศิลปินกลุ่มแพะกุโบร์เล่าว่า ขณะกำลังติดสติกเกอร์ที่เป็นงานศิลปะภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใน 2 แผ่นสุดท้าย ก็ได้มีชาย 5 คน  ซึ่งอยู่ในชุดนอกเครื่องแบบ ขับขี่รถมอร์เตอร์ไซค์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 3 คัน มาจอดใกล้ๆ กับจุดที่ติดสติกเกอร์ คือแผ่นสังกะสีตรงบริเวณริมทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย (ฝั่งขาเข้า) ซึ่งทราบในภายหลังว่าทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบจาก สน.บางซื่อ โดยทั้งหมดได้ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายรูปก่อนจะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วแจ้งแก่กลุ่มศิลปินว่าพวกตนมาทำตามหน้าที่ ไม่ได้มาคุกคามหรือมาจับแต่อย่างใด 

ระหว่างนั้นหนึ่งในศิลปินได้โทรศัพท์ติดต่อกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อแจ้งสถานการณ์ให้ทราบ ก่อนที่นายตำรวจนายหนึ่งจะบอกให้เก็บโทรศัพท์ไป

ขณะที่ตำรวจอีกนายหนึ่งได้พูดคุยกับกลุ่มศิลปินเกี่ยวกับการติดสติกเกอร์ โดยบอกว่าการติดสติกเกอร์นี้ถือเป็นการกระทำที่ผิด และต้อง “เชิญตัว” ศิลปินทั้งสามไปทำประวัติที่สถานีตำรวจบางซื่อ เพื่อที่เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถตอบคำถามได้ในกรณีที่เจ้าของพื้นที่ที่ศิลปินนำสติกเกอร์ไปติดมาแจ้งความ หรือหาก “นาย” ไม่พอใจและต้องการทราบว่าเป็นผลงานของใคร 

ทั้งนี้ หนึ่งในศิลปินเล่าเพิ่มเติมว่าเมื่อไปถึง สน.บางซื่อ มีตำรวจนายหนึ่งเข้ามากล่าวหาวาจาในลักษณะดุด่าพวกเขา และต้องการให้เริ่มกระบวนการลงบันทึกประจำวันและทำประวัติโดยไม่ต้องรอทนายความ แต่เนื่องจากตนเองและเพื่อนศิลปินอีก 2 คน ไม่ยินยอมจึงได้ต่อรองกันอยู่เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง กระทั่งทนายความมาถึงที่ สน. โดยมีการจัดทำ “บันทึกการเชิญตัวบุคคล”

ในบันทึกการเชิญตัวบุคคลดังกล่าว ระบุว่าทั้งสามคน “ยินยอมและสมัครใจ” ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติ โดยผลการตรวจสอบประวัติศิลปินทั้งสาม ไม่พบการกระทำความผิด ใดๆ มาก่อน จึงให้กลับบ้านได้ 

แต่ถึงกระนั้น กลุ่มศิลปินก็มีความสงสัยว่าปฏิบัติการทางศิลปะนั้นนับเป็นอาชญากรรมหรืออย่างไร พวกตนจึงได้ถูกควบคุมตัวไปลงบันทึกประจำวันและทำประวัติเช่นนี้

กลุ่มศิลปิน “แพะในกุโบร์” ระบุว่าชื่อดังกล่าวได้มาจากการทำวิทยานิพนธ์ด้านศิลปะของสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่ม ที่ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ทางภาคใต้ หมายถึงกลุ่มคนไร้เสียงที่ตายไปอย่างเงียบๆ ในสังคม (กุโบร์ หมายถึงสุสานของชาวมุสลิม) ส่วนประเภทของงานศิลปะที่ทางกลุ่มจัดทำก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งทำรูป ทำหุ่น performance art และล่าสุดที่เกิดเหตุก็คือ การออกแบบสติกเกอร์ รวมทั้งยังพยายามทำงานศิลปะที่สื่อสารและแสดงออกถึงความคิดทางการเมืองด้วย

.

ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. 65 ได้รับแจ้งเพิ่มเติมจากศิลปินกลุ่มแพะในกุโบร์ว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. บางซื่อ ให้ไปดำเนินการจ่ายค่าปรับจำนวนคนละ 1,000 บาท เนื่องจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ไม่ยอม ทางกลุ่มศิลปินจึงไปดำเนินการจ่ายค่าปรับเมื่อเวลาประมาณ 16:00 น. ในวันเดียวกัน โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์

.

X