“ไม่ไหวก็ต้องไหว” บันทึกเยี่ยม ใบปอ-บุ้ง ถูกขัง 44 วัน ขณะอดอาหาร 14 วัน และจดหมายถึงทะลุแก็ส

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “ใบปอ” และ “บุ้ง” อีกครั้ง จนถึงขณะนี้ทั้งสองถูกคุมขังเข้าสู่วันที่ 44 ขณะที่ทำการอดอาหารประท้วงเป็นวันที่ 14 แล้ว 

บุ้งเล่าว่า เมื่อวานเธอมีอาการแสบท้องและอาเจียนอีกแล้ว หลังพยายามจะดื่มน้ำหวาน (ชาโออิชิ รสน้ำผึ้งมะนาว) เข้าไปแค่เพียงอึกสองอึก โดยเมื่อกลืนเข้าไปไม่ถึง 5 นาที บุ้งก็อ้วกออกมา เธอรู้สึกว่าในตอนนี้ร่างกายของตัวเองปฏิเสธน้ำหวานอย่างสุดโต่ง จึงทำได้เพียงดื่ม “น้ำเปล่า” เท่านั้น พร้อมกันนี้บุ้งยังมีอาการเบลอและตาพร่ามัวอยู่แทบจะตลอดเวลา 

กิจกรรมคลายเครียดด้วย “การอ่านหนังสือ” ไม่อาจช่วยเยียวยาจิตใจได้มากเท่าไหร่นัก เพราะบุ้งเล่าว่าเมื่ออ่านหนังสือไป แต่ก็จับใจความไม่ได้เลย ต้องกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ รู้สึกว่าสมองของตัวเองเข้าใจอะไรได้ช้าลง ทำงานได้ช้าลงกว่าเดิมมาก 

“บุ้งไหวไหม” ทนายความถามเธอ บุ้งตอบสั้นๆ แต่เพียงว่า “ไม่ไหวก็ต้องไหว” และพูดต่อว่า “ไม่ใช่ว่าบุ้งดัดจริตหรืออะไรนะ แต่บุ้งพยายามกินอย่างอื่นแล้ว แต่มันกินไม่ได้จริงๆ” 

อย่างอื่นที่เธอหมายถึง คือ ของเหลวที่ไม่ใช่น้ำเปล่า โดยก่อนหน้านี้เมื่อเธอเริ่มต้นอดอดอาหารประท้วง บุ้งพยายามดื่มนมเพื่อให้ตัวเองยังพอมีแรงอยู่ต่อไปได้ แต่พบว่าการดื่มนมทำให้ท้องเสีย และเมื่อพยายามดื่มน้ำหวานที่เธอไม่ชอบอยู่แล้ว ก็พบว่าร่างกายปฏิเสธและมักจะอ้วกออกมาเสมอดังเช่นเมื่อวาน 

ส่วนใบปอ เธอเล่าว่า ตนเองมีอาการปวดท้อง แสบท้อง รู้สึกว่า “ยาเคลือบกระเพาะ” ที่เคยขอจากเรือนจำตอนนี้ไม่บรรเทาอาการปวดและแสบท้องอีกต่อไปแล้ว ใบปอยังคงรู้สึกอ่อนเพลีย ตาพร่ามัวเช่นเดียวกับบุ้ง โดยเธอเล่าว่า “ขนาดใส่แว่นแล้วยังมองเห็นอะไรไม่ชัดเลย”

ใบปอเล่าอีกว่า รู้สึกตกใจมากที่เมื่อวานบุ้งอ้วกอีกแล้ว นอกจากนี้เมื่อวานนี้ พยาบาลซึ่งเข้ามาตรวจร่างกายของใบปอและบุ้งประจำทุกวันได้พยายามบอกให้บุ้งกินน้ำหวาน ในลักษณะของการคะยั้นคะยอ แต่บุ้งก็ยังปฏิเสธอีกครั้ง “บุ้งกินไม่ได้จริงๆ กินก็อ้วก” ใบปอช่วยยืนยันอีกเสียง 

ตอนบุ้งอ้วก ก็อ้วกเป็นน้ำ เพราะรู้สึกเลี่ยนเมื่อทานน้ำหวาน ใบปอเล่าเสริมว่า ขนาดตัวเองชอบกินของหวาน ตอนนี้ยังรู้สึกเลี่ยนเลย จึงพยายามกินของเหลวประเภทให้ความหวานให้น้อยลง ด้วยเหตุนี้ใบปอจึงไม่ได้กินน้ำผลไม้เลยมาหลายวันแล้ว โดยตอนนี้กินได้แต่ “นมจืด” วันละ 1-2 กล่อง รวมถึงมีการดื่มแบรนด์วีต้าและเกลือแร่บ้างในบางวัน

บุ้งย้ำอีกว่า มีอาการหน้ามืดตลอดทั้งวัน ส่วนใบปอถ้าเปลี่ยนอิริยาบถเร็วๆ ก็จะรู้สึกหน้ามืดเหมือนกัน แต่อาการน่าเป็นห่วงและทรมานที่ตอนนี้ทั้งสองคนต้องเผชิญเหมือนกันก็คือ “แสบท้อง” ตลอดทั้งวัน

บุ้งทิ้งท้ายว่า ถ้าหากบุ้งยังกินอะไรไม่ได้ นอกจากน้ำเปล่าอยู่อย่างนี้ ทางราชทัณฑ์อาจจะส่งตัวเธอไปโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและให้สารอาหารทางสายยางได้ เธอเล่าอีกว่า เมื่อวานนี้ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะรู้สึกไม่พอใจที่บุ้งกินอะไรไม่ได้สักอย่างเลย กินน้ำหวานก็อ้วกออกมาหมด โดยจนถึงตอนนี้ตั้งแต่เข้าเรือนจำ น้ำหนักตัวบุ้งลดลงไปกว่า 9 กิโลกรัมแล้ว

———————-

ใบปอและบุ้งฝากข้อความถึงทะลุแก็ส

เราสองคนรู้ข่าวว่าที่ดินแดงมีการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก็สอีกระลอกหนึ่งในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาแล้ว และรู้ว่ามีผู้ชุมนุมทะลุแก็ส 1 คนถูกส่งตัวเข้ามาคุมขังในเรือนจำอีกแล้ว เราเห็นว่านี่คืออีกหนึ่งความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากการบริหารประเทศของรัฐบาล ถ้าหากรัฐบาลไม่ทำให้ประชาชนได้รับความทุกข์ยากขนาดนี้ ประชาชนก็คงจะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องออกมาเรียกร้องขอคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากชนชั้นนำ

ในวันที่เราสองคนถูกสั่งถอนประกัน ซึ่งกลุ่มปกป้องสถาบันนัดรวมตัวกันที่ศาลด้วย วันนั้นก็มีมวลชนทะลุแก็สมาคอยปกป้องและดูแลเรา วันนี้เราสองคนเลยอยากฝากความเป็นห่วงและกำลังใจไปยังกลุ่มทะลุแก็ส เพราะไม่ควรจะมีนักโทษทางการเมืองคนไหนเข้ามาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอีก ไม่ว่าจะเป็นเราสองคน ทะลุแก็ส หรือมวลชนอิสระทุกผู้คน

บุ้งและใบปอ

ทัณฑสถานหญิงกลาง

15 มิ.ย. 2565

X