ตั้งแต่เมื่อเย็นวันที่ 30 ต.ค. 63 หลังศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขัง รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก และแบงค์ -ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม คดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ทำให้ทั้ง 4 คนได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ปรากฎว่า รุ้ง-ปนัสยา, เพนกวิน-พริษฐ์ และ ไมค์-ภาณุพงศ์ กลับถูกใช้กำลังบังคับควบคุมตัวจนได้รับบาดเจ็บมายังสน.ประชาชื่น โดยอ้างหมายจับในคดีการชุมนุมที่จังหวัดนนทบุรี อยุธยา และอุบลราชธานีที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาไปก่อนหน้านี้แล้ว แม้ทนายความพยายามโต้แย้งอำนาจการจับกุม แต่ไม่เป็นผล
.
ลำดับเหตุการณ์ ตร.อายัดตัว รุ้ง-เพนกวิน-ไมค์ ต่อในหมายจับที่สิ้นผลแล้ว
เย็นวันที่ 30 ต.ค. 63 หลังศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังต่อเป็นครั้งที่ 3 ในกรณีของ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก และแบงค์ -ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม คดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยอ้างถึงสิทธิของผู้ต้องหา มิให้มีการขังเกินกว่าความจำเป็น จนกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ
ระหว่างนักศึกษาและประชาชนมารอรับการปล่อยตัวทั้ง 4 คนที่หน้าเรือนจำ และพบว่ามีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในเรือนจำ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการถูกอายัดตัวต่อ
เวลา 19.50 น. ปติวัฒน์ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เขาแจ้งกับผู้สื่อข่าวและประชาชนว่าพริษฐ์และภาณุพงศ์ ซึ่งกำลังจะถูกปล่อยจากเรือนจำมาพร้อมกัน ได้ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวต่อ แต่เขาไม่สามารถบอกรายละเอียดได้แน่ชัด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่อนุญาตให้ทนายความเข้าไปพบทั้งสองคน
เวลาประมาณ 20.00 น. มีการยืนยันว่าทั้งปนัสยา, พริษฐ์ และภาณุพงศ์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่นเข้าอายัดตัวตามหมายจับคดีการชุมนุมที่จังหวัดนนทบุรีและอยุธยา ขณะที่พริษฐ์ยังมีหมายจากการชุมนุมที่จังหวัดอุบลราชธานีอีกด้วย
ทั้งที่ระหว่างวันที่ 20-21 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของท้องที่ได้เข้าแจ้งกล่าวหา และให้พิมพ์ลายนิ้วมือ ระหว่างที่ทั้งปนัสยาและพริษฐ์ถูกคุมตัวที่ บก.ตชด.ภาค 1 แล้ว ขณะที่ภาณุพงศ์ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจากการชุมนุมที่นนทบุรีและอยุธยาไปแล้ว ระหว่างถูกควบคุมตัวเช่นกัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 68 หมายจับทั้งหมดดังกล่าวจึงสิ้นผลไป
เมื่อทราบเช่นนั้น พริษฐ์และภาณุพงศ์จึงปฏิเสธการให้เจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถตำรวจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการควบคุมตัวมิชอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ทนายความเข้าไปติดตามการควบคุมตัวลูกความ
20.40 น. ระหว่างเกิดการโต้เถียงเรื่องอำนาจการอายัดตัว พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผู้กำกับสน.ประชาชื่น ให้สัมภาษณ์ว่าการอายัดตัวดำเนินการตามหมายจับของ สภ.เมืองนนทบุรี, สภ.พระนครศรีอยุธยา และสภ.เมืองอุบลราชธานี โดยสถานีตำรวจต้นทางได้แจ้งอายัดไว้และยังไม่ได้แจ้งยกเลิกหมายจับมา
ขณะทนายความยืนยันว่าคดีทั้งหมด ทั้ง 3 คนได้ถูกแจ้งข้อหาไปหมดแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถอายัดตัวต่อได้ เนื่องจากหมายจับสิ้นผลไปแล้ว พร้อมนำเอกสารบันทึกการแจ้งข้อหาในคดีเหล่านั้นให้ตำรวจตรวจดู และขอให้ประสานตำรวจจากสถานีตำรวจต้นทางเพื่อถอนการอายัด เพื่อจะได้ไม่ต้องควบคุมตัวทั้งสามคนให้สูญเสียอิสรภาพต่ออีก
21.10 น. ระหว่างทนายตรวจเอกสารกับตำรวจอยู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบกลับได้คุมตัวพริษฐ์และภาณุพงศ์ขึ้นรถผู้ต้องขังออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไป โดยไม่ได้ใช้ประตูหลักที่ผู้สื่อข่าวและประชาชนรอรับอยู่ ทำให้ไม่มีใครเห็นตัว ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เองจะยืนยันว่ามีการนำตัวทั้งสองออกไปแล้ว พร้อมกันนั้นที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เจ้าหน้าที่จาก สน.ประชาชื่น ได้นำตัวปนัสยาขึ้นรถยนต์ของตำรวจออกไปด้วยเช่นกัน
ระหว่างนั้นทั้งผู้สื่อข่าวและมีประชาชนเผยแพร่คลิปด้วยว่า ในระหว่างการควบคุมตัวพริษฐ์-ภาณุพงศ์ มายังสน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งขับรถจนเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของประชาชน ทำให้รถเสียหายและประชาชนได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียหายได้ติดตามมาแจ้งความที่สน.ประชาชื่นด้วย
21.25 น. ที่สน.ประชาชื่น ผู้สื่อข่าวและประชาชนพบตัวพริษฐ์และภาณุพงศ์ถูกคุมตัวอยู่บนรถคุมตัวผู้ต้องขังของตำรวจ
พริษฐ์ได้แจ้งว่าทั้งสองคนเห็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจะอายัดตัวต่อโดยมิชอบ ทำให้ตนไม่ยินยอมให้นำตัวไป แต่ชุดเจ้าหน้าที่กลับได้ใช้กำลังล็อกคอทั้งสองคนขึ้นรถ ทำให้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บ และภาณุพงศ์ได้หมดสติไปบนรถควบคุมตัวนั้น ทำให้มีเหตุชุลมุนเกิดขึ้น เนื่องจากประชาชนที่ติดตามมาเร่งให้นำทั้งสองคนลงจากรถ มารักษาพยาบาล แต่ทางตำรวจยังไม่ยินยอม ก่อนที่แกนนำนักกิจกรรมจะติดตามมาดูแลสถานการณ์
21.41 น. รถยนต์ตำรวจ สน.ประชาชื่น นำตัวปนัสยามาถึง เจ้าหน้าที่นำตัวปนัสยาแยกขึ้นไปห้องสอบสวน ขณะนั้นก็มีการให้พริษฐ์และภาณุพงศ์ลงจากรถคุมตัว โดยในส่วนของภาณุพงศ์เป็นลมไม่ได้สติ ทำให้ต้องอุ้มตัวออกมา ขณะที่พริษฐ์ก็มีอาการบาดเจ็บ มีเลือดออก และอิดโรย รวมทั้งมีอาการหอบหืดซึ่งเป็นโรคประจำตัว นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้ามายืนยันว่าต้องนำตัวทั้งสองคนส่งโรงพยาบาล
21.56 น. รถของหน่วยกู้ภัยเดินทางเข้ามายัง สน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่ได้มีการหามภาณุพงศ์ขึ้นเปล ก่อนขึ้นรถกู้ภัยไปส่งยังโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โดยมี นพ.ทศพรและเพื่อนติดตามไปด้วย ส่วนพริษฐ์ซึ่งมีอาการดีขึ้นจากการได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นลุกขึ้นแถลงหน้าสน.ประชาชื่น ถึงการถูกควบคุมตัวโดยมิชอบขึ้นรถมาโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 4-5 นาย
22.13 น. พริษฐ์ประกาศยืนยันว่าตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัวทั้งสามคนอีกแล้ว จึงจะอารยะขัดขืนนั่งหน้าสน. จนกว่าตำรวจจะยอมรับว่าไม่มีอำนาจจับกุม หากเจ้าหน้าที่ยืนยันจะอายัดตัวต่อจากหมายจับที่สิ้นผลแล้ว จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขณะนั้นประชาชนทยอยมารวมตัวหน้าสถานีตำรวจเพิ่มขึ้น
22.30 น. ปนัสยาได้รับการปล่อยออกมาพบประชาชนหน้าสถานีตำรวจและมานั่งเคียงข้างพริษฐ์ เธอแถลงยืนยันว่าแม้จะมีผู้พยายามยั่วยุและสร้างโกรธแค้นให้ทุกคน แต่เราต้องมีสติ ยืนยันการไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ก้าวร้าว พร้อมต่อสู้อย่างมีสมองและมีวุฒิภาวะ ปนัสยายังยืนยันว่าตำรวจต้องเพิกถอนหมายจับที่แจ้งข้อหาไปแล้วทันที
พริษฐ์แถลงยืนยันว่าเกือบ 20 วันในคุก แม้สร้างความลำบากให้ แต่ไม่อาจเทียบกับความลำบากยากเข็ญของประชาชนที่ผ่านมา 6 ปี ทั้งพวกเขาไม่ได้เข้าคุกในฐานะนักโทษ แต่ในฐานะนักสู้ และขอให้ทุกคนอย่าประมาทจนใช้ความรุนแรง
23.10 น. พริษฐ์ประกาศได้รับแจ้งว่า สภ.เมืองอุบลฯ และสภ.เมืองนนทบุรี ได้ถอนหมายจับตนในการชุมนุม #22สค ร่วมกับคณะอุบลปลดแอก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้มี ตำรวจจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา กำลังเดินทางมาที่ สน.ประชาชื่น เพื่อเจรจาถอนหมายจับการชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป พริษฐ์ยังยืนยันว่าตำรวจไม่ต้องเดินทางมาที่นี้ ให้ดำเนินการถอนหมายจับไปเลย
23.20 น. มีรายงานว่าภาณุพงศ์มีอาการปลอดภัยแล้ว และได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระราม 9 โดยต้องนอนพักเป็นเวลา 1 คืน ด้วยเหตุที่มีอาการขาดอ๊อกซิเจน
23.40 น. ตำรวจจาก สภ.พระนครศรีอยุธยาเดินทางมาถึง สน.ประชาชื่น ประชาชนไม่ต่ำกว่า 500 คน หน้าสถานีพร้อมใจตะโกน #ปล่อยเพื่อนกู ส่วนพริษฐ์ประกาศยื่นข้อเสนอให้ตำรวจถอนหมายจับตามกฎหมายที่ควรจะเป็น หากไม่ถอนก็ให้เข้ามาจับกุมเขาภายใน 15 นาทีนี้ ด้านสน.ประชาชื่นนำกำลังเจ้าหน้าที่มาเสริมพื้นที่
.
** 31 ต.ค. 2563 **
01.20 น. ไทยรัฐรายงานว่า รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าพื้นที่โรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่ง ไมค์-ภาณุพงศ์ พักรักษาตัวอยู่
01.40 น. พยาบาลอาสาฯ กล่าวว่าพริษฐ์ขณะนี้มีอาการปวดบวมทั้งศรีษะ ไหล่ และแขนด้านขวา ฝ่าเท้ามีสะเก็ดเศษแก้วฝังอยู่เกือบ 20 ชิ้น ในศีรษะเกือบ 100 ชิ้น ในหูเกือบ 7 ชิ้น พยาบาลนำเศษแก้วออกบ้างแล้วแต่ยังไม่หมด พยาบาลกล่าวว่าพริษฐ์ควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล
พยาบาลอาสาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าในตอนแรก ภาณุพงศ์มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติและความดันต่ำ หากอยู่ในที่แคบหรือขาดอากาศหายใจจะมีอาการวูบและน็อคได้ ส่วนพริษฐ์มีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืด ทำให้การถูกคุมตัวในรถตำรวจวันนี้ส่งผลต่อทั้งคู่มากกว่าคนทั่วไป และทำให้สุขภาพทั้งคู่เสี่ยงอันตรายมากกว่าปกติ
02.30 น. ด้านหน้า สน.ประชาชื่น ยังมีผู้ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย ประชาชนยังตะโกนเรียกร้องให้ยกเลิกหมายจับนักศึกษาวันนี้ และเรียกร้องให้ตำรวจทำหน้าที่ตามหลักการมากกว่าคำสั่ง
03.10 น. พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.อยุธยา ชี้แจงว่าจะสอบสวน ปนัสยา-พริษฐ์-ภาณุพงศ์ ที่ สน.ประชาชื่น ให้เสร็จคืนนี้ และทั้งสามมีสิทธิยื่นคำร้องเพื่อรับการตรวจรักษาจากแพทย์ ส่วนประชาชนต้องการให้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะไม่ยื่นคำร้องขอฝากขังหลังสอบสวนเสร็จ พ.ต.อ.เอกราชไม่ให้คำตอบชัดเจน
03:25 น. พนักงานสอบสวนของสภ.พระนครศรีอยุธยา ทำบันทึกจับกุม ปนัสยา-พริษฐ์ โดยทั้งสองยื่นคำร้องขอรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนด้านหน้าสน. ประชาชื่น มีรถพยาบาลจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ มาจอดรออยู่
04.40 น. เจ้าหน้าที่นำตัวปนัสยา-พริษฐ์ ขึ้นรถโรงพยาบาลเพื่อนำตัวไปโรงพยาบาลพระราม 9 โดยมีปิยบุตร แสงกนกกุล และนพ.ทศพร เสรีรักษ์ เดินทางไปด้วย ส่วน ประชาชนหน้า สน.ประชาชื่น ประกาศแยกย้ายกลับบ้าน
05.40 น.หลังปนัสยา-พริษฐ์ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลพระราม 9 พนักงานสอบสวนของ สภ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งว่าจะไปทำบันทึกจับกุมภาณุพงศ์ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ด้วย พร้อมกับระบุว่าจะไปยื่นคำร้องขอฝากขังทั้งสามที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเตรียมจะไปยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังครั้งนี้
06.15 น. ตำรวจจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาทำการแสดงตัวจับกุมภาณุพงศ์ ที่ห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลพระราม 9 ขณะที่ภาณุพงศ์ปฏิเสธการจับกุม เนื่องจากการจับกุมเริ่มตั้งแต่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว ไม่ใช่ที่โรงพยาบาลตามที่ตำรวจได้แจ้งการจับกุม ภาณุพงศ์ยังยืนยันสิทธิของผู้ต้องหาเมื่อได้รับการบาดเจ็บต้องได้รับการรักษาตัวต่ออยู่ที่โรงพยาบาลนี้
.
พนักงานสอบสวนอยุธยา อ้างยังต้องคุมตัวผู้ต้องหาไว้ แม้สอบสวนเสร็จแล้ว รอส่งอัยการ
วันนี้ 31 ต.ค. 63 เวลา 13.30 น. พ.ต.ต.กัมพล อินทีวงศ์ พนักงานสอบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งควบคุมตัว รุ้ง-ไมค์-เพนกวิน ต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยระบุในคำร้องว่าจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 63 เวลา 03.30 น. ตำรวจกองสืบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา ได้จับกุมเพนกวินและรุ้ง ผู้ต้องหาที่ 1 และ 3 ที่สน.ประชาชื่น และในเวลา 06.00 น. ได้จับกุม ไมค์ ผู้ต้องหาที่ 2 ที่โรงพยาบาลพระราม 9
ทั้ง 3 ถูกกล่าวหาด้วย 2 ข้อกล่าวหา คือตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการกล่าวปราศรัยในการชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 63
พนักงานสอบสวนได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ดู และผู้ต้องหาทั้งสามเป็นบุคคลตามหมายจับ พนักงานสอบสวนจึงได้จับกุมและควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน กระทั่งการสอบสวนได้เสร็จสิ้น แต่พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการได้ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ และระยะเวลาการควบคุมตัวจะครบ 48 ชั่วโมง ในวันที่ 2 พ.ย. 63 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ โดยการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว แต่สำนวนการสอบสวนอยู่ระหว่างเสนอผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจพิจารณาลงความเห็น จึงยังไม่สามารถส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการได้
พนักงานสอบสวนจึงขอศาลมีคำสั่งควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามไว้ ระหว่างรอส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสาม อยู่ระหว่างรับการรักษาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลพระราม 9 จึงยังไม่ได้นำตัวมาศาลในวันนี้ อีกทั้ง หากผู้ต้องหาทั้งสามยื่นขอประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่าหากปล่อยตัวไป ผู้ต้องหาทั้งสามจะไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
เป็นที่น่าสังเกตว่า คำร้องของพนักงานสอบสวนดังกล่าวไม่ระบุระยะเวลาที่ขอทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ด้วย
.
ทนายคัดค้าน: หมายจับสิ้นผลแล้ว-ไม่มีความจำเป็นต้องคุมตัว-ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บ
13.53 น. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ไต่สวนเพื่อคัดค้านคำร้องขอควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน ซึ่งทนายความของนักกิจกรรมทั้งสามคนได้ยื่นไว้ โดยมีเนื้อหาคำร้องคัดค้านโดยสรุปว่า
ผู้ต้องหาทั้งสามได้ปรากฎต่อหน้าพนักงานสอบสวนผู้ยื่นคำร้องแล้ว ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 และพนักงานสอบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยาได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งสามและได้ทำการสอบคำให้การเสร็จ พิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือ ครบถ้วน ผู้ต้องหาทั้งสามได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา กระบวนการดังกล่าวย่อมถือว่าได้ดำเนินการตามหมายจับแล้ว หมายจับย่อมสิ้นผลไปตามกฎหมาย ปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนแล้วว่าพนักงานสอบสวนไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใดที่จะต้องฝากขังผู้ต้องหาไว้ต่อศาล
พฤติการณ์ที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาตามคำร้อง ชัดแจ้งว่าข้อกล่าวหาที่กล่าวหานี้ ก็เพียงแต่เกี่ยวกับเรื่องการใช้เสรีภาพในการชุมนุม โดยเป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธ ซึ่งได้รับการรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ
ผู้ต้องหายังเป็นเพียงนักศึกษา และมีภูมิลำเนาอยู่คนละที่เกิดเหตุ ไม่ได้มีอิทธิพลหรือความสามารถที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้ พยานหลักฐานในคดีนี้ก็อยู่ในความดูแลของพนักงานสอบสวนแล้วทั้งสิ้น ผู้ต้องหาจึงไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานใดๆ ได้อีก จึงไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเอาตัวผู้ต้องหาไว้ในอำนาจศาล
อีกทั้งในคำร้องคัดค้านของทนายความยังได้ระบุถึงข้อเท็จจริงที่นายภาณุพงศ์ จาดนอก มีอาการเจ็บป่วยหัวใจเต้นผิดปกติ อ่อนเพลีย จนเป็นลม, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้รับบาดเจ็บกระจกบาดทั่วร่างกาย และกระจกเข้าในหู และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล มีอาการอ่อนเพลีย หากทั้งสามต้องอยู่ในความควบคุมระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ย่อมจะเป็นการควบคุมตัวที่เกินจำเป็น
สุดท้าย คำร้องคัดค้านได้ระบุว่าการใช้เสรีภาพในการชุมนุมถือเป็นเครื่องมือแสดงออกซึ่งเจตจำนงอย่างเสรีของพลเมือง เป็นวิธีในการแสดงออกซึ่งเจตจำนงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เพื่อเป็นเครื่องสะท้อนและกระตุ้นเตือน “รัฐบาล” ที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือมาจากการรัฐประหาร “สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม” จึงเป็นสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ ซึ่งในทางสากลให้การยอมรับและตระหนักว่าเป็นสิ่งที่พลเมืองในแต่ละรัฐย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิดังกล่าว
สำหรับการนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังในครั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปใช้เสรีภาพร่วมหรือทำกิจกรรมใดต่อไปในอนาคตอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พนักงานสอบสวนหรือ เจ้าหน้าที่รัฐก็สามารถที่จะใช้อำนาจในการจับกุม ออกหมายเรียก หรือดำเนินการตามกฎหมายได้เป็นคดีอื่นอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมผู้ต้องหาไว้ในคดีนี้ เพราะเป็นเสมือนการใช้ดุลพินิจพิจารณาไว้ในอนาคตแล้วว่าการทำกิจกรรมนั้นๆ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย อันเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าของพนักงานสอบสวนเอง
14.50 น. การไต่สวนคัดค้านคำร้องขอควบคุมตัวของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเสร็จสิ้น และอยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งของศาล
.
ศาลสั่งยกคำร้องขอควบคุมตัว – ปล่อยตัวไม่อยู่ในอำนาจควบคุมตัวคดีใดอีก
16.42 น. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคำสั่งยกคำร้องของพนักงานสอบสวน ที่ขอควบคุมตัวทั้งสามคน ระบุข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ร้องได้สอบสวนเสร็จแล้วเหลือเพียงขั้นตอนความเห็นจากผู้บังคับบัญชาซึ่งพยานได้ให้การว่าสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องควบคุมตัวผู้ต้องหา ทั้งยังไม่ปรากฏหลักฐานว่าจะมีการหลบหนีหรือไปก่อเหตุร้ายอันตรายประการอื่น อีกทั้งตัวต้องหายังมีอาการป่วยและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจึงไม่มีเหตุจำเป็นในการควบคุมตัว มีคำสั่งยกคำร้องขอควบคุมตัว
จากคำสั่งศาล ทำให้เบื้องต้นทั้งสามคนได้รับการปล่อยตัว หากไม่มีรายงานเรื่องการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนในคดีใด รวมเวลาที่เพนกวินและรุ้งสูญเสียอิสรภาพไปเป็นระยะเวลา 17 วัน ส่วนไมค์ 15 วัน
.